การเติบโตอย่างรวดเร็วทำให้ “ฟู้ด ดีลิเวอรี” กลายเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่ธุรกิจร้านอาหารนำมาต่อยอดโดยเฉพาะในช่วงที่ผ่านมา กับมาตรการลดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ล่าสุดแบรนด์ดังจากแดนมะกันอย่าง “Big Boy” ก็เลือกที่จะบุกตลาดเมืองไทยอีกครั้ง ในรูปแบบดีลิเวอรีโดยไม่มีหน้าร้าน ท่ามกลางความท้าทายรอบด้าน
นายเตรียมพร้อม กลิ่นหอม ผู้จัดการการตลาดดิจิทัล เดสติเนชั่น อีทส์ กล่าวว่า เดสติเนชั่น อีทส์ ผู้ถือลิขสิทธิ์แบรนด์ร้านอาหาร “บิ๊กบอย” (Big Boy) จากสหรัฐอเมริกา พร้อมเปิดตัวและให้บริการในรูปแบบดีลิเวอรีในกรุงเทพฯ อย่างเต็มรูปแบบ ในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้ โดยลูกค้าสามารถสั่งซื้อผ่านผู้ให้บริการฟู้ด ดีลิเวอรีได้ทุกแบรนด์ รวมถึงแพลตฟอร์มของบิ๊กบอยเอง
ทั้งนี้ บิ๊กบอย ก่อตั้งในปี 1936 กำลังจะฉลองครบรอบ 84 ปีในปีนี้ และพร้อมเข้าสู่ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในประเทศไทยอย่างเต็มตัวอีกครั้ง หลังจากที่เคยเปิดให้บริการในอดีต โดยเน้นย้ำถึงการให้บริการอาหารอเมริกันรสเยี่ยมอาทิ ปีกไก่ทอด ซิกเนเจอร์เบอร์เกอร์ ไก่ทอด แซนด์วิช ของกินเล่น ไอศกรีม มิลค์เชคและเครื่องดื่มต่าง ๆ ภายใต้แนวคิด “ใหญ่เป็นสองเท่า อร่อยเป็นสองเท่า”
นอกจากนี้เพื่อเป็นการแนะนำตัว Big Boy จัดโปรโมชั่นพิเศษ ลูกค้าที่มียอดสั่งซื้อขั้นต่ำตามที่กำหนด รับฟรีเสื้อยืดบิ๊กบอย 1 ตัวต่อการสั่งต่อใบเสร็จตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 มิถุนายน 2563 หรือจนกว่าของจะหมด
อย่างไรก็ดี บิ๊กบอย จะไม่มีหน้าร้านให้บริการ แต่อยู่ในรูปแบบ Cloud kitchen ซึ่งเป็นเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมในธุรกิจฟู้ด ดีลิเวอรี และในอนาคตจะนำแบรนด์ต่างๆในเครือ อาทิ ร้านพิซซ่า อาหารไทย อาหารจีน เข้ามาให้บริการในรูปแบบเดียวกันด้วย
สำหรับเดสติเนชั่น อีทส์ เป็นแฟรนไชส์ร้านอาหารและเครื่องดื่มภายใต้เดสติเนชั่น กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท อาหารและเครื่องดื่มที่เติบโตอย่างรวดเร็วในภูมิภาคเอเชีย อาทิ ฮูเตอร์ส , ฮาร์ดร็อค คาเฟ่ , เดอะ ดรังก์เคน , เลปเพอร์คอน นอกจากนี้เดสติเนชั่น อีทส์ ยังคงเดินหน้าพัฒนาธุรกิจด้านร้านอาหารและเครื่องดื่ม เช่น ร้านพิซซ่า ร้านอาหารอิตาเลียน และสเต็ก เฮ้าส์ระดับไฮเอนด์ทั้งในและต่างประเทศด้วย