18 พฤษภาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่เยี่ยมจัดการเรียนการสอนผ่านโทรทัศน์ที่บ้าน นักเรียนโรงเรียนวัดศรีมหาโพธิ และโรงเรียนปาโมกข์วิทยาภูมิ ที่ อ.ป่าโมก จ.อ่างทองว่า หลังจากที่กระทรวงศึกษาธิการและมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมในพระบรมราชูปถัมภ์ (DLTV) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ออกอากาศทางช่องฟรีทีวี จำนวน 17 ช่อง ระหว่างวันที่ 18 พ.ค.-30 มิ.ย.นี้ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดภาคเรียนวันที่ 1 ก.ค.นี้
อย่างไรก็ดี ขอยืนยันว่า ทางกระทรวงศึกษาธิการต้องการทำตามมาตรการแรก คือ ต้องการให้นักเรียนและครูทำการเรียนการสอนที่โรงเรียน ส่วนมาตรการที่ 2 หากมีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น มียังการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อาจจะเรียนที่บ้านโดยใช้สื่อโทรทัศน์เป็นหลัก ส่วนการเรียนออนไลน์นั้นจะให้สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายที่มีอุปกรณ์มีความพร้อมและมีความสามารถใช้สื่อเทคโนโลยีเรียน
ส่วนนักเรียน ม.ปลายคนใดที่ไม่มีอุปกรณ์ ไม่สามารถเข้าถึงการเรียนการสอนได้ ศธ.ต้องหาทางออกให้ เช่น ให้เรียนที่ห้องเรียน โดยโรงเรียนบริหารจัดการให้นักเรียนเข้ามาเรียนในห้องเรียนโดยจัดกลุ่มเล็ก ๆ เป็นต้น
ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่เพื่อเตรียมความพร้อมในการเรียนวันที่ 1 ก.ค.นี้ พบปัญหาหลายประการ เช่น อุปกรณ์ไม่มีความพร้อมรวมทั้งผู้ปกครองและนักเรียนอาจจะไม่มีความพร้อม ตนขอชื่นชมครูทั่วประเทศทุ่มเทหาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือเรื่องนี้ วันนี้ปล่อยสัญญาณจริง พบว่าศธ.ต้องปรังปรุงในหลาย ๆ เรื่อง เตรียมความพร้อมในแต่ละพื้นที่
ส่วนเนื้อหาการส่งสัญญาณ เนื้อหาสาระในการเรียนการสอนนั้น ยังไม่พบปัญหาอะไร เด็กมีความเข้าใจอย่างดีในทุกชั้นเรียน แต่มีเด็กบางกลุ่มมองว่า ครูต้นแบบสอนเร็วไปหรือช้าไปบ้าง ซึ่งครูต้องเข้ามาปรับจูนความเหมาะสม เพื่อให้นักเรียนทำข้อสอบ ทำแบบฝึกหัดได้
สำหรับปัญหาที่พบในช่วงเช้าที่นักเรียนบางส่วนเจอปัญหาเรื่องเว็บไซต์ล่มนั้น นายณัฏฐพล บอกว่า เป็นเรื่องที่ดีที่จะทำให้ ศธ.ได้เตรียมความพร้อม การล่มของเว็บไซต์ แปลว่า มีคนสนใจมาก ซึ่งทางกระทรวงศึกษาธิการจะต้องเตรียมความพร้อมต่อไปในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเตรียมคลาวด์ หรือ เซิฟเวอร์ ไว้รองรับเพิ่มเติม ซึ่งน่าจะเป็นทางออกที่จะทำได้ โดยกระทรวงมีงบประมาณไว้รองรับ ปัญหาต่างๆเหล่านี้ถือเป็นประโยชน์ที่จะให้ ศธ.ได้รวบรวมปัญหาและมีเวลา 45 วันในการแก้ไขต่อไป