“ธรินทร์ ธนียวัน” ส่งสัญญาณเตรียมอำลา แกร็บ (ประเทศไทย)

16 พ.ค. 2563 | 09:13 น.

ธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แกร็บ (ประเทศไทย) จำกัด โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว Tarin Tin วันนี้ (16 พ.ค.) ไขข้อข้องใจที่หลายคนถามไถ่ตลอดมา และเขาพร้อมตอบแล้วว่าหลังจากนี้ชีวิตหากเป็นหนังสือ ก็กำลังเปิดสู่ “บทต่อไป” อะไรคือการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นคงต้องรอกันอีกสักนิด เพราะเขาบอกว่า “โปรดติดตาม” # StayTune

ธรินทร์ ธนียวัน

ธรินทร์เขียนเป็นภาษาอังกฤษ ถอดความได้ว่า

 

“มีหลายคนถามไถ่ผมตลอดมา ก็เลยอยากจะยืนยันว่า (อีโมจิ ยิ้ม) หลังจากที่ทุ่มเทพลังชีวิตให้กับการนำความเปลี่ยนแปลงมาสู่แกร็บ ประเทศไทย ในช่วงเวลากว่า 2 ปีที่ผ่านมา ผมตัดสินใจแล้วที่จะเดินตามความฝันของตัวเองและก้าวเข้าสู่บทต่อไปของชีวิต

 

ผมขอขอบคุณอย่างจริงใจต่อทุก ๆ คนที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมในช่วงเวลากว่าสองปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งทีมงานและพาร์ทเนอร์ชาวไทยที่เชื่อมั่นในการนำของผม ในสนามแข่งขันที่เราสู้กันด้วยหัวใจและไม่เป็นสองรองใคร

 

ไม่ว่าจะเป็นการสร้างรายได้ 250 ล้านดอลลาร์ ได้รับรางวัลซีอีโออวอร์ด ได้ร่วมเวทีระดับนานาชาติ สร้างธุรกิจที่เป็นผู้นำในตลาด จัดงานเทศกาล EDM  ร่วมมือกับทีมงานที่ดีที่สุดในประเทศไทย และร่วมสร้างพันธมิตรมากมายที่ไม่มีวันลืม ผมขอฝากภาพไฮไลท์ความประทับใจจากช่วงเวลา 2 ปีของอาชีพการงานไว้ในอัลบั้มภาพเหล่านี้ หวังว่าวันหนึ่งในอนาคต ผมจะได้เพิ่มเติมภาพความสำเร็จด้วยอีกอัลบั้มหนึ่งจากบทต่อไปในชีวิตของผม

 

#มุ่งไปข้างหน้า#โปรดติดตาม#2020#การเริ่มต้นใหม่

โพสต์ของธรินทร์ในเพจเฟซบุ๊ก Tarin Tin วันนี้ (16 พ.ค.)

ทั้งนี้ แกร็บประกาศแต่งตั้งธรินทร์ ธนียวัน ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แกร็บ (ประเทศไทย) จำกัด (Country Head of Grab Thailand) มีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2561 เป็นต้นมา เพื่อดูแลกลยุทธ์ทางธุรกิจและการดำเนินงานทั้งหมดของแกร็บในประเทศไทย รวมทั้งการขยายการเติบโตสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เขาเข้ามารับตำแหน่งต่อจาก ยี วี แตง ที่ย้ายไปรับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ของแกร็บในประเทศกัมพูชา

ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊ก Tarin Tin

ในช่วงเวลาการบริหารงานของธรินทร์นั้น แกร็บ (ประเทศไทย) ทำรายได้เพิ่มขึ้นมากแบบก้าวกระโดด แต่ก็มียอดขาดทุนเพิ่มขึ้นมากด้วยเช่นกัน จากข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า บริษัท แกร็บ (ประเทศไทย) จำกัด มีทุนจดทะเบียน 2,879,970,000 บาท มีผลการประกอบย้อนหลังดังนี้

 

ปี 2559 : รายได้รวม 104,131,569 บาท ขาดทุน -516,139,966 บาท

ปี 2560 : รายได้รวม 508,510,201 บาท ขาดทุน -985,334,149 บาท

ปี 2561 : รายได้รวม 1,159,233,358 บาท ขาดทุน -711,561,304บาท


การขาดทุนดังกล่าวเป็นหนทางโดยทั่วไปของบริษัทสตาร์ทอัพเนื่องจากในขณะที่ต้องพยายามแย่งชิงส่วนแบ่งของตลาดนั้น บริษัทต้องเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค ทำให้ผู้บริโภคคุ้นชินกับพฤติกรรมแบบใหม่เสียก่อน ทำให้ต้องมีการทำโปรโมชั่นมากมาย เช่นส่วนลดค่าแท็กซี่ ส่วนลดค่าสั่งอาหารฯลฯ เพื่อเชิญชวนคนมาใช้บริการ แล้วค่อยปรับกลยุทธ์เน้นทำกำไรต่อไป

 

ภายใต้การบริหารงานของธรินทร์เขานำมาซึ่งนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในธุรกิจบริการของไทย เดือนมีนาคม 2563 ธรินทร์ให้สัมภาษณ์ "ฐานเศรษฐกิจ" เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในแกร็บ (ประเทศไทย) ว่า "วันนี้จะไม่มีแกร็บประเทศไทย ถ้าเราไม่มีทีมงานที่เริ่มจากคนกลุ่มหนึ่ง 25-26 คน แต่วันนี้เรามีทีมงานเป็นร้อย พาร์ตเนอร์จากที่มีหลักพันคน วันนี้มีเป็นแสนคน แต่ละเดือนมีคนสมัครเป็นพาร์ตเนอร์แกร็บเดือนละหมื่นคน ร้านค้า-ร้านอาหารที่ร่วมงานกับเราวันนี้มีหลักแสนราย ภาพที่เห็นของแกร็บวันนี้เปลี่ยนแปลงจาก 2 ปีที่แล้วเป็นอย่างมาก จากผู้ใช้บริการหลักพันหลักแสน วันนี้ยอดการใช้งานแต่ละวันอยู่ที่ครึ่งล้าน จากบริษัทที่ให้บริการส่งคน มาเป็นส่งของ ส่งอาหาร วันนี้เราเปิดบริการที่ทำให้คนระดับรากหญ้าเข้าถึงธุรกรรมการเงิน" ธรินทร์กล่าวบนเวทีรับรางวัล “The Best CEO Award” สาขาบริการ จัดโดยฐานเศรษฐกิจเมื่อต้นปีนี้ 

ธรินทร์ ธนียวัน รับรางวัล “The Best CEO Award” สาขาบริการ บนเวที “ก้าวสู่ปีที่40 ฐานเศรษฐกิจ” เมื่อเดือนมี.ค. 2563

“ธรินทร์ ธนียวัน” ส่งสัญญาณเตรียมอำลา แกร็บ (ประเทศไทย)

ก่อนเข้าร่วมงานกับแกร็บ (ประเทศไทย) ธรินทร์ ดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์ธุรกิจและรัฐสัมพันธ์ ที่ลาซาด้า กรุ๊ป และรับผิดชอบดูแลการสร้างความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างอาลีบาบาและลาซาด้าโดยเฉพาะ ตามกรอบนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ทำให้มีโอกาสทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐในหลายโครงการ นอกจากนี้ เขายังเคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าโครงการ บริษัท บอสตัน คอนซัลติ้ง กรุ๊ป

 

ธรินทร์สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้านการบริหารธุรกิจจากโรงเรียนธุรกิจวอร์ตัน (Wharton School) มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย และปริญญาตรีด้านการบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์