คลังออก​ พันธบัตรออมทรัพย์ “เราไม่ทิ้งกัน” 50,000 ล้าน

08 พ.ค. 2563 | 08:01 น.

คลังออก "พันธบัตรออมทรัพย์"พิเศษรุ่น “เราไม่ทิ้งกัน” 50,000 ล้านบาท ใช้จ่ายเงินเยียวยาปชช.ล็อตสุดท้าย เชื่อความต้องการสูง เหตุให้ผลตอบแทนสูงกว่าปัจจุบัน

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเตรียมจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษรุ่น “เราไม่ทิ้งกัน” ของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 แบบไร้ใบตราสาร วงเงินรวม 50,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการระดมทุนเพื่อบรรเทาผลกระทบ และแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 ตามแผนงานโครงการของรัฐบาล ภายใต้ พ.ร.ก. กู้เงินวงเงินไม่เกิน  1 ล้านล้านบาท

อุตตม สาวนายน

ทั้งนี้พันธบัตรที่จะเปิดจำหน่ายหน่วยละ 1,000 บาท มี 2 รุ่นคือ อายุ 5 ปี ให้อัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันไดเฉลี่ย 2.40% และรุ่นอายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3.00% ต่อปี ซึ่งอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้สูงกว่าผลตอบแทนรุ่นอายุ 5 ปีในปัจจุบันประมาณ 1.5% และอายุ 10 ปี 1.8% โดยจะเริ่มจำหน่ายในวันที่ 14 พ.ค. 2563 นี้ เวลา 8.30 น. เป็นต้นไป

การจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษรุ่น “เราไม่ทิ้งกัน” แบ่งออกเป็น 3 ช่วงคือ สัปดาห์ที่ 1 จำหน่ายให้ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป สัปดาห์ที่ 2 จำหน่ายให้ประชาชนรายย่อยซื้อได้ก่อนแบบจำกัดวงเงิน 2 ล้านบาท/คน/ธนาคาร และสัปดาห์ที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค. 2563 เป็นต้นไปจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปและนิติบุคคลที่ไม่แสวงหาผลกำไรเข้าซื้อได้แบบไม่จำกัดวงเงิน

โดยสามารถซื้อผ่าน BOND DIRECT Application และช่องทางของธนาคารตัวแทนจำหน่าย 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทยธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์

นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กล่าวว่าความต้องการพันธบัตรในตลาดยังคงมีอยู่สูง ฉะนั้นจึงเชื่อว่าพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษรุ่น “เราไม่ทิ้งกัน”จะได้รับการตอบรับจากประชาชนจำนวนมาก และหากความต้องการยังมีอยู่สูง ก็อาจจะออกพันธบัตรในซีรี่ที่ 2 ตามมาได้ แต่อย่างไรก็ตามต้องขึ้นอยู่กับความต้องการใช้เงินของรัฐด้วย ซึ่งสบน.จะบริหารจัดการหนี้อย่างเหมาะสม

“การออกพันธบัตรเราไม่ทิ้งกันครั้งนี้จะรวมอยู่ในโควตาของการออกพันธบัตรออมทรัพย์ทุกๆ ปี ซึ่งเมื่อต้นปีที่ผ่านมาออกไปแล้ว 20,000 ล้านบาท ครั้งนี้ออกอีก 50,000 ล้านบาท ทำให้ปีนี้ การออกพันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลัง จะสูงกว่าทุกปีที่เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 40,000-50,000 ล้านบาท ซึ่งก็เป็นไปตามความจำเป็นในการใช้เงินของรัฐในภาวะวิกฤต”นางแพตริเซีย กล่าว