สมุทรสาครลงดาบ 7 พ.ค.ตลาดนัด-ห้างฝ่าฝืนเจอแน่

04 พ.ค. 2563 | 23:52 น.

สมุทรสาคร ใช้ยาแรง จับ – ปรับ – ปิด คุมโควิด ตลาดนัด-ห้าง ดีเดย์ 7 พ.ค.

วานนี้( 4 พ.ค.) นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด และนายอำเภอเมืองสมุทรสาคร จัดประชุมตัวแทนผู้ประกอบการค้าขายในตลาดเขตอำเภอเมืองสมุทรสาคร เพื่อชี้แจงแนวทางการค้าขายในตลาดนัดหลังมีมาตรการผ่อนปรนให้สินค้าทุกชนิดกลับมาค้าขายในตลาดนัดได้ดังเดิม

ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่าแม้ได้รับการผ่อนปรนเพื่อช่วยเหลือผู้ค้า แต่ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดที่วางไว้อย่างเคร่งครัดโดยเฉพาะในเรื่องของการสวมหน้ากากอนามัย , การตรวจคัดกรองผู้เข้ามาจับจ่ายซื้อของในตลาดนัด,การใช้เจลหรือแอลกอฮอล์ล้างมือ,การจัดระเบียบตลาดนัด, และการจัดระยะห่างทางสังคม เป็นต้น ซึ่งหลังจากนี้ก็จะประชุมตัวแทนตลาดนัดจนครบทั้ง 3 อำเภอ ก่อนที่จะใช้มาตรการเข้ม “จับ - ปรับ – ปิด” ดีเดย์ 7 พฤษภาคมนี้ เป็นต้นไป

รวมถึงร้านสะดวกซื้อ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ห้างร้านทั่วไปด้วย ซึ่งจะต้องรับลูกค้าเข้าร้านให้พอดี ให้สามารถทำระยะห่างกันได้ ทั้งนี้ก็เนื่องด้วยสมุทรสาครเป็นพื้นที่ที่มีผู้คนเดินทางเข้าออกตลอด จึงต้องมีการควบคุมเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น เพราะหากปล่อยปละละเลย ก็อาจนำไปสู่การแพร่ระบาดครั้งที่ 2 ได้ แล้วสิ่งที่เคยทำมาทั้งหมดก็จะกลายเป็นศูนย์ และต้องมาเริ่มนับหนึ่งกันใหม่

ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวอีกว่า การผ่อนปรนผู้ค้าตลาดนัดให้สามารถกลับมาค้าขายได้ดังเดิมนั้น ยอมรับว่าก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ง่ายอีกครั้งโดยเฉพาะตามตลาดต่างๆ ที่มีผู้คนเข้าไปจับจ่ายซื้อของกันอย่างหนาแน่น ดังนั้นทางจังหวัดสมุทรสาครจึงต้องมีการประชุมกับผู้ค้าขายในทั้ง 3 อำเภอ เพื่อสร้างความเข้าใจ ความร่วมมือ และแนวทางการปฏิบัติที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันในทุกๆ แห่ง ทั้งตลาดนัดและตลาดสด ที่นอกจากจะขายได้ไม่เกิน 6 ชั่วโมงแล้ว ยังจะต้องให้ความสำคัญกับการจัดระเบียบตลาดนัดไม่ให้มีความแออัด , อยู่ในสถานที่โล่งโปร่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก,

มีทางเข้าออกทางเดียวเพื่อให้ผู้คนที่มาจับจ่ายซื้อของในตลาดได้ผ่านจุดคัดกรอง,มีการตั้งเจลหรือแอลกอฮอล์ล้างมือไว้ให้ลูกค้า,การเว้นระยะห่างทางสังคม ด้วยการจำกัดจำนวนลูกค้าที่เข้ามาซื้อของไม่ให้มีปริมาณที่มากเกินไปจนก่อให้เกิดความแออัด และที่สำคัญซึ่งมีบทลงโทษด้วย คือ มาตรการบังคับให้ทุกคนที่มาตลาดนัดทั้งพ่อค้าแม่ค้า และผู้มาจับจ่ายซื้อของต้องสวมหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัย และต้องสวมอย่างถูกวิธีด้วย คือ สวมปิดทับจมูก ไม่ใช่สวมใส่หน้ากากแต่เอาไว้ใต้คาง

“แรกเริ่มอาจจะมีการจับมาตักเตือนก่อน หลังจากนั้นหากยังพบการกระทำผิดซ้ำก็จะต้องถูกจับปรับตามคำสั่งเดิมที่เคยประกาศไว้ มีโทษไม่เกิน 20,000 บาท และถ้ายังคงพบการกระทำผิดซ้ำอีกแม้แต่รายเดียวในตลาดนัดแห่งเดิม หรือพบการกระทำความผิดที่เพิ่มมากขึ้น ทางผู้ดูแลตลาดนัดแห่งนั้น ก็จะต้องถูกดำเนินการขั้นเด็ดขาดด้วยการ จับ ปรับ แล้วสั่งปิดตลาดนัดทันที”