เชียงรายถวายสักการะ”พระนเรศวรมหาราช”

26 เม.ย. 2563 | 03:25 น.

ผู้ว่าฯเชียงรายนำทุกภาคส่วนวางพวงมาลาถวายสักการะ ที่ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อ.แม่สรวย จุดพักทัพหลวงครั้งยกทัพไปชิงอังวะ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่25 เม.ย.2563  ภายในบริเวณศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อ.แม่สรวย จ.เชียงราย นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธาน นำคณะผู้พิพากษาหัวหน้าศาล ผู้บริหารข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ข้าราชการ ผู้บริหารและสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนชาวจังหวัดเชียงราย ทุกหมู่เหล่า ร่วมประกอบพิธีวางพวงมาลาถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต 25 เมษายน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทิตา ต่อบูรพมหากษัตริย์ไทย และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช


เชียงรายถวายสักการะ”พระนเรศวรมหาราช”

 

ในพิธี นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย นางดวงจิตต์ ปรัชญ์สกุล ประธานแม่บ้านมหาดไทย และผู้ร่วมพิธี ได้ร่วมกันถวายพวงมาลา กล่าวถวายราชสดุดี ต่อเบื้องหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อน้อมถวายเป็นราชสักการะ และเชิดชูพระเกียรติยศพระบรมเดชานุภาพของ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช บรรพกษัตริย์ชาตินักรบ ให้ประชาชนชาวไทยในจังหวัดเชียงราย ได้น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตรงกับวันที่ 25 เมษายน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวันที่คนไทยควรร่วมน้อมรำลึกถึง

 

เชียงรายถวายสักการะ”พระนเรศวรมหาราช”

เชียงรายถวายสักการะ”พระนเรศวรมหาราช”

 

เนื่องจาก 25 เมษายน ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระมหากษัตริย์นักรบผู้ยิ่งใหญ่และกล้าหาญ ในอดีตพระองค์ได้กอบกู้อิสรภาพของไทย และทำนุบำรุงบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรือง ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนปกปักรักษาเอกราชของชาติ จนทำให้มีประเทศไทยอย่างเช่นทุกวันนี้

ซึ่งกิจกรรมในวันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จะมีการจัดกิจกรรมวางพวงมาลา เพื่อเป็นการถวายความจงรักภักดี และรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์

 

เชียงรายถวายสักการะ”พระนเรศวรมหาราช”

เชียงรายถวายสักการะ”พระนเรศวรมหาราช”

 

สำหรับประวัติความเป็นมาของศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ระบุว่า  ตามประวัติศาสตร์ชาติไทย เมื่อปีมะโรง พุทธศักราช 2147 วันพฤหัสบดี เดือน ยี่ แรม 6 ค่ำ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชพร้อมด้วยสมเด็จพระเอกาทศรถ พระอนุชาธิราช ได้เสด็จกรีฑาทัพหลวง ออกจากพระนครศรีอยุธยา เพื่อไปชิงเมืองอังวะ ทรงยกพยุหยาตรา ผ่านเมืองกำแพงเพชรมาจนถึงเมืองเชียงใหม่

 

ทรงพักพยุหทัพชัย อยู่ ณ เมืองเชียงใหม่เป็นเวลาหนึ่งเดือน จึงได้ทรงจัดทัพหลวงออกเป็นสองส่วน ให้สมเด็จพระเอกาทศรถ ยกทัพหนึ่งไปทางเมืองฝาง ส่วนสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงยกทัพหลวงเคลื่อนพลช้างม้ารี้พลไปทางเมืองหาง โดยผ่านเวียงป่าเป้า มาพักทัพหลวงอยู่ ณ พื้นที่อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย
 

ครั้นเมื่อปี พ.ศ.2512 วันที่ 25 มกราคม 2512 ซึ่งเป็นวันกองทัพไทย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จไปทำพิธีบวงสรวง ดวงพระวิญญาณสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย
 

ต่อมาในวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2533 พล.ท.ศิริ ทิวะพันธุ์ แม่ทัพภาคที่ 3 (ยศ และตำแหน่งในขณะนั้น) ได้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์ ในการตั้งศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราชนี้ขึ้นมา ครั้นเมื่อวันเสาร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ.2534 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จฯ ไปทรงเป็นประธานพิธีเททองหล่อพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ขนาดเท่าพระองค์จริง ณ วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ และได้อัญเชิญไปประดิษฐานที่ศาลอำเภอแม่สรวย ในวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2546
 

ตามประวัติศาสตร์ดังกล่าวนี้ อำเภอแม่สรวย จ.เชียงราย จึงเป็นอำเภอที่มีความสำคัญมาตั้งแต่โบราณ โดยมีพระมหากษัติรย์ไทย ซึ่งได้รับสมญานามว่า มหาราช ได้เสด็จมาทรงประกอบภารกิจเกี่ยวกับบ้านเมืองของชาติไทยถึงสองพระองค์
 

ฉะนั้นชาวอำเภอแม่สรวยพร้อมทั้งบรรดาข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน และพระภิกษุสงฆ์จึงได้ปรึกษากันเพื่อดำเนินการจัดสร้างศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราชขึ้นที่อำเภอแม่สรวย จ.เชียงราย เริ่มตั้งแต่ พุทธศักราช 2523 เป็นต้นมา และได้ก่อสร้างหอประวัติศาสตร์สมเด็จพระนเรศวรมาหาราช เฉลิมพระเกียรติ จำนวน 1 หลัง สำหรับรวบรวมประวัติศาสตร์การเดินทัพ และพระราชประวัติของสมเด็จพระนเรศวรฯ เพื่อเทิดพระเกียรติที่พระองค์ทรงได้รักษาเอกราชและผืนแผ่นดินไทยไว้

 

เชียงรายถวายสักการะ”พระนเรศวรมหาราช”