3 เดือนแรกคนไทยป่วยไข้หวัดใหญ่กว่า9.2หมื่นรายแล้ว

05 เม.ย. 2563 | 09:48 น.

กรมควบคุมโรค เผย สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ 3 เดือนแรก ระหว่างวันที่ 1 ม.ค.-30 มี.ค.พบคนไทยป่วยกว่า 9.2 หมื่นราย เสียชีวิต 3 ราย เตือน ประชาชนหลีกเลี่ยงเข้าพื้นที่มีคนแออัด

นพ.สุวรรณชัย  วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า จากการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ในปี 2563 (ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-30 มี.ค. 63) มีรายงานผู้ป่วยแล้ว 92,129 ราย เสียชีวิต 3 ราย ซึ่งจำนวนผู้ป่วยสะสมในภาพรวมของปี 2563 พบว่า สูงกว่าค่ามัธยฐาน 5 ปี ย้อนหลังกลุ่มอายุที่พบอัตราป่วยมากสุด คือ แรกเกิด-4 ปี รองลงมา คือ 5-9 ปี และ 10-14 ปี

 

ส่วนจังหวัดที่พบอัตราป่วยสูงสุด คือ จังหวัดพะเยา เชียงใหม่ หนองคาย ตามลำดับ สำหรับเหตุการณ์ที่พบผู้ป่วยสงสัยหรือยืนยันไข้หวัดใหญ่เป็นกลุ่มก้อน ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-2 เม.ย. 63 พบ 24 เหตุการณ์ ใน 18 จังหวัด โดยพบมากในโรงเรียน/มหาวิทยาลัย เรือนจำ สถานที่ทำงาน 15 เหตุการณ์ การเข้าค่ายฝึกอบรม 3 เหตุการณ์ ซึ่งเป็นสถานที่รวมตัวกันเป็นหมู่มาก

การพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพประจำสัปดาห์นี้ คาดว่า ในช่วงนี้มีโอกาสพบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้นได้ เนื่องจากสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยครั้ง บางพื้นที่อาจมีฝนตกจากพายุฤดูร้อน ร่างกายอาจปรับตัวไม่ทัน ทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย 

 

กรมควบคุมโรค จึงขอเตือนประชาชนหลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่ที่มีการรวมตัวกันของคนหมู่มาก เช่น ห้างสรรพสินค้า และตลาด ซึ่งในช่วงนี้ควรงดจัดกิจกรรมและงานการแสดงต่างๆ ประชาชนควรป้องกันตนเองโดยการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือให้สะอาดบ่อยครั้ง หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่มีอาการทางเดินหายใจ เช่น ไอ จาม มีน้ำมูก ไม่ใช้สิ่งของเครื่องใช้ร่วมกับผู้อื่นหรือผู้ที่มีอาการป่วย รับประทานอาหารปรุงสุกใหม่ หมั่นดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์โดยเฉพาะผักผลไม้ และพักผ่อนให้เพียงพอ 

 

สำหรับประชาชนกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป หรือเด็กอายุ 6 เดือน–2 ปี หญิงตั้งครรภ์ที่อายุครรภ์มากกว่า 7 เดือน ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน 100 กิโลกรัม ผู้ที่มีโรคประจำตัว และบุคลากรทางการแพทย์ ควรได้รับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ และหากมีอาการป่วยให้ไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจมีอาการรุนแรงมากกว่ากลุ่มอื่นๆ ได้ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422