จากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด -19) ส่งผลให้ความต้องการของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นจากปกติ ประกอบกับภาวะภัยแล้งในหลายพื้นที่มีผลให้ปริมาณข้าวเปลือกลดลงจึงอาจส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคทั้งในด้านปริมาณและราคา ทำให้กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์จำเป็นที่จะต้องติดตามสถานการณ์การผลิตและจำหน่ายข้าวสารภายในประเทศอย่างใกล้ชิด
นายเกรียงศักดิ์ ตาปนานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จากการที่กรมการค้าภายใน ได้ออกหนังสือลงวันที่ 31 มีนาคม 2563 ถึงสมาคมโรงสีข้าวไทย เรื่องการติดตามสถานการณ์การผลิตและจำหน่ายข้าวสาร เพื่อให้ได้ข้อมูลสำหรับการบริหารจัดการปริมาณ ข้าวสารจำหน่ายภายในประเทศเพื่อประกอบการพิจารณากำหนดนโยบายได้อย่างเหมาะสมนั้น
“ทางสมาคมโรงสีข้าวไทยได้ออกหนังสือเวียนถึงสมาชิกที่ผลิตและจำหน่ายข้าวถุง รวมถึงแบบฟอร์มเพื่อแจ้งข้อมูลปริมาณการผลิตและจำหน่ายทั้งหมดดังกล่าวแล้ว ซึ่งทางสมาคมเห็นด้วยที่กรมการค้าภายในเริ่มออกตรวจสต๊อกข้าวถือเป็นเรื่องที่ดี โดยในเมื่อออกตรวจแล้วก็น่าที่จะต้องตรวจสอบให้ครบทั้งห่วงโซ่เพื่อจะได้เก็บตัวเลขที่ชัดเจนถูกต้องเพื่อใช้ในการประเมินสถานการณ์ข้าวของประเทศในภาพรวม”
เช่น ตรวจเก็บข้อมูลตั้งแต่สต๊อกผู้ส่งออก, โรงสี, ผู้ประกอบการค้าข้าวถุง, สถาบันเกษตรกร, พ่อค้าข้าวเปลือก,ยุ้งฉางของเกษตรกร รวมถึงการประเมินรอบการเก็บเกี่ยว และการเพาะปลูกของเกษตรกรเพื่อที่จะได้มีตัวเลขที่ถูกต้อง มาใช้ในการวางแผนสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในขณะนี้ เพื่อจะได้กำหนดทิศทางการบริหารจัดการ
โดยจากการสอบถามเจ้าหน้าที่กรมการค้าภายใน การตรวจสอบสำรวจในครั้งนี้ถือว่าครอบคลุมทั้งห่วงโซ่ เพราะฉะนั้นตัวเลขทุกอย่างตลอดห่วงโซ่การค้าข้าวมีความสัมพันธ์กันในระบบการค้าข้าวของประเทศ ทั้งด้านการส่งออกและการใช้ภายในประเทศ