จัดแพ็ก Work@Home ธุรกิจไม่สะดุด สู้วิกฤติโควิด

นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมเซเว่น จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าจากวิกฤตการณ์ ไวรัสโควิด-19 ทำให้หลายองค์กรเริ่มให้พนักงานทำงานที่บ้าน (Work@Home) เพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อหรือแพร่กระจายเชื้อ อย่างไรก็ตามหลายองค์กรมีข้อจำกัดด้านอุปกรณ์การทำงานให้กับพนักงานทำงานที่บ้าน บางองค์กรมีสัดส่วนพนักงานต่อพีซี 1 คนต่อ 2 เครื่อง บางองค์กร มีกฎระเบียบด้านความปลอดภัย ไม่อนุญาตให้พนักงานนำเครื่องที่ทำงานกลับไปใช้ที่บ้าน จากปัญหาเหล่านี้บริษัทจึงทำโครงการเปิดให้องค์กรเช่าใช้อุปกรณ์โน้ตบุ๊กหรือไอแพด เพื่อให้พนักงานทำงานที่บ้านในราคาเริ่มต้น 499 บาทต่อเดือน จำกัดการเช่าขั้นตํ่าองค์กรละ 5 เครื่อง ระยะเวลาเช่าใช้ 3 เดือน หากสถานการณ์ยังยืดเยื้อ สามารถต่อสัญญาเช่าเพิ่มเป็น 6-12 เดือน

“เครื่องที่ให้บริการเช่าทั้ง หมดเป็นเครื่องใหม่ โน้ตบุ๊กมีการติดตั้งวินโดว์ส โปรแกรมออฟฟิศ และวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ซึ่งพนักงานสามารถทำงาน หรือประชุมทางไกลได้ทันที”

เบื้องต้นบริษัทได้จัดเตรียมเครื่องไว้ทั้งหมด 3,000 เครื่อง โดยขณะนี้มีองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยหากมีความต้องการจำนวนมากก็พร้อมจัดหาเพิ่มจากผู้ผลิต ซึ่งขณะนี้ได้แจ้งไปยังผู้ผลิตให้สำรองเครื่องไว้ให้แลัว

ด้านนายราจีฟ บาวา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจองค์กรและธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “ดีแทคได้นำเสนอโซลูชันสำคัญเพื่อรองรับการทำงานที่บ้าน หรือนอกสถานที่ นั่นคือ NetFoundry คลาวด์โซลูชันที่ทำหน้าที่เปรียบเสมือนเครือข่ายที่มาพร้อมความปลอดภัยของข้อมูล VPN (Virtual Private Network) หากมีการเข้าถึงข้อมูลสำคัญจากระบบเชื่อมต่อภายนอก เช่น ฐานข้อมูลของลูกค้า ข้อมูลการขาย ระบบจัดซื้อภายในองค์กร เป็นต้น พนักงานที่ปฏิบัติงานภายนอกองค์กรสามารถเชื่อมต่อแอพพลิเคชัน หรือเข้าใช้งานระบบภายในองค์กรได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่ต้องใช้ VPN หรือโซลูชันที่ใช้ฮาร์ดแวร์ที่ซับซ้อนในการรองรับการเชื่อมต่อของบริษัท ทั้งนี้ NetFoundry มีจุดเด่น คือ มีความยืดหยุ่นสูง สามารถเพิ่มหรือลดจำนวนผู้ใช้งานได้ตามต้องการ สามารถติดตั้งและใช้งานได้ในระยะเวลาอันสั้น เป็นเครือข่ายที่มีความปลอดภัยสูง

ด้านนายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป เอไอเอส กล่าวว่า “เพื่อสนับสนุนการเดินหน้าทำงานของภาคธุรกิจและการทำงานของคนไทยในสถานการณ์โควิด-19 เอไอเอส จึงร่วมมือกับพันธมิตร จัดแพ็กเกจ AIS WORKING FROM HOME ที่มีหลากหลายโซลูชัน โดยผสมผสานศักยภาพของเครือข่ายทั้งมือถือ 5G และ 4G รวมถึงเน็ตบ้าน AIS Fibre พร้อมขีดความสามารถของบุคลากร ที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างสนับสนุนคนไทยทุกกลุ่ม ทั้งนักเรียน นักศึกษา กลุ่มคนทำงานออฟฟิศ, เจ้าของกิจการ, องค์กรขนาดเล็กจนถึงใหญ่ ให้สามารถเดินหน้าทำงาน ทำธุรกิจ หรือเรียนหนังสือได้อย่างไร้รอยต่อ

โดยแพ็กเกจ WORKING FROM HOME ในราคาเริ่มต้นเพียง 99 บาทต่อเดือน พร้อมเปิดให้พนักงานออฟฟิศสามารถรีโมตเข้าถึงแอพพลิเคชันและ Intranet ขององค์กรได้จากทุกที่ทุกเวลา เสมือนนั่งทำงานอยู่ที่ออฟฟิศ

ขณะที่ทรูบิสิเนส จัดโซลูชัน VDO Conference สามารถใช้งานสะดวกผ่านมือถือ แท็บเลต โน้ตบุ๊ก และพีซี เพียงแค่คลิก! ก็เข้าร่วมประชุมได้ รองรับการคุยพร้อมกันได้สูงสุดถึง 1,000 สายทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ คุณภาพเสียงและภาพคมชัดระดับ HD พร้อมคุณสมบัติ ส่งข้อความแชตในระหว่างการประชุมได้, นำเสนองานผ่านหน้าจอ และยังสามารถบันทึกการประชุมได้ด้วย เหมาะกับธุรกิจทุกประเภท สะดวก ไม่ต้องหาห้องประชุม ประหยัดเวลาและงบประมาณในการเดินทาง ที่สำคัญ ลดความเสี่ยงติดเชื้อจากการเดินทาง ปลอดภัยไร้กังวล ในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ทรูบิสิเนสจัดแพ็กเกจพิเศษช่วยธุรกิจให้เดินหน้าได้ไม่ติดขัด ตอบโจทย์การ Work at home หรือพนักงานที่อยู่ในช่วงกักตัว รวมถึงการทำงานที่ออฟฟิศสำรอง ก็ยังสามารถจัดประชุมหรืออบรมได้

หน้า 26 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,559 วันที่ 22-25 มีนาคม 2563