“ศศิน” ชี้ ไฟไหม้ใหญ่ “ภูกระดึง” เป็นโอกาสฟื้นฟูนิเวศ

17 ก.พ. 2563 | 12:49 น.

"ศศิน เฉลิมลาภ" ชี้ เหตุไฟไหม้ใหญ่ “ภูกระดึง” เป็นโอกาสฟื้นฟูนิเวศ

 

จากกรณีที่เกิดเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่ในพื้นที่ภูกระดึง จ.เลย เสียหายกว่า 3.4 พันไร่ 

ล่าสุด นายศศิน เฉลิมลาภ ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ระบุเรื่องนี้ว่า เป็นโอกาสในการฟื้นฟูระบบนิเวศพื้นที่ชุ่มน้ำแอ่งลานทราย ไม่ใช่ว่าไฟป่าบนภูกระดึงจะเป็นเรื่องไม่น่ากลัว แต่เมื่อเกิดแล้วควบคุมได้แล้ว มาตรการระมัดระวังคงต้องเตรียมพร้อมกับช่วงแล้งจริงๆในเดือนมีนาคม 

และน่าจะ "ฉวยโอกาส" นี้ฟื้นฟูระบบนิเวศพื้นที่ชุ่มน้ำแอ่งลานทราย หรือ bog ซึ่งได้รับผลกระทบจากโครงการปลูกป่าสน จนระบบนิเวศที่สำคัญและทำให้ภูกระดึง "เคยสวยกว่านี้" กลับมา  เอกลักษณ์ของภูกระดึงคือป่าต้นสนสลับทุ่งหญ้าป่าละเมาะ ขึ้นหลังแปมาเห็นทุ่งโล่งสวยสลับด้วยกลุ่มต้นสนสูงสง่า ไม่ใช่ป่าสนเป็นพืด หรือพุ่มไม้ทึบบังวิว

“ศศิน” ชี้ ไฟไหม้ใหญ่ “ภูกระดึง” เป็นโอกาสฟื้นฟูนิเวศ

สักสามสิบปีที่ผ่านมา มีโครงการปลูกป่าสนสองใบ และ สนสามใบบนภูกระดึงใน bog ดังกล่าว ทั่วไป ใครที่ปีนขึ้นภูกระดึงในปัจจุบัน เมื่อสายตาพ้นหลังแปขึ้นมา จะไม่ได้ตื่นเต้นกับที่ราบ ที่ความจริงเป็น bog สุดลูกหูลูกตาอีก แต่จะพบป่าสนแน่นขนิดแทน เพราะโครงการปลูกป่าที่อาจจะละเลยความรู้พื้นฐานทางนิเวศวิทยา ใช้แต่การจัดการป่าไม้ และเทคโนโลยีปลูกป่า

“ศศิน” ชี้ ไฟไหม้ใหญ่ “ภูกระดึง” เป็นโอกาสฟื้นฟูนิเวศ

ต้นสนจึงโตงดงามแต่สูบน้ำใน bog ไปด้วย ยิ่งโต ก็ยิ่งสูบน้ำใน bog และสนสามใบ สนสองใบ ๅยังทำให้ในดินมีไนโตรเจนเพิ่มมากขึ้น ทำให้พืชหลายชนิดที่ไม่เคยขึ้นได้ก็มาขึ้น จนมาแย่ง หน้าแล้ง Bog แห้ง มีหญ้าขึ้น มีดงสนอยู่ห่างๆกัน ในทุ่งหญ้าซึ่งที่จริงเหมือนคือ bog มี หม้อข้าวหม้อแกงลิง และ หยาดน้ำค้าง สาหร่ายข้าวเหนียว ที่เป็นพืชกินแมลงมากมาย 

ปัจจุบันแห้ง มีแต่สนปลูกทั่วไป ผลจากความรักธรรมชาติแต่อาจจะขาดความสนใจระบบนิเวศ ให้ไฟป่าครั้งนี้เป็นโอกาสฟื้นฟูระบบนิเวศกลับมาครับ