นายระพีพัชญ์ ธนถาวรกิตติ์ นายกสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ได้ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนและทั่วโลกต่างยกเลิกแผนการท่องเที่ยวไปนั้นจะมีผลทำให้การบริโภคในประเทศลดลง ลามการบริโภคข้าวในประเทศลดลงตามไปด้วย
“ความจริงราคาของเนื้อข้าว ชนิดข้าวขาว 5% ปรับตัวขึ้นมาสูงมาก และในอนาคตอาจจะปรับตัวสูงขึ้นไปอีก เพราะเกิดจากปัญหาภัยแล้ง แต่อย่างไรก็ตามในขณะนี้หลายผู้ประกอบการพยายามที่จะประคองราคาไม่ให้กระทบกับผู้บริโภค ทั้งที่ความจริงต้นทุนของข้าวที่เป็นราคาของต้นทุนข้าวที่สอดคล้องกับราคาข้าวถุงไม่มีหลงเหลือยู่แล้ว “
นายระพีพัชญ์ กล่าวว่า ราคาปรับข้าวถุง จะเป็นราคาที่ปรับในห้างโมเดิร์นเทรดช้าที่สุด เพราะเวลาที่จะปรับราคาใหม่กับห้างในแต่ละครั้งจะต้องแจ้งกับห้างโมเดิร์นเทรดก่อนอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 25 วัน ถึงจะปรับราคาได้ เพราะฉะนั้นราคาที่อยู่ในท้องตลาดไม่สะท้อนความเป็นจริงที่ขายในปัจจุบัน
“จากปัญหามรสุมที่เผชิญทั้งภัยแล้งนักท่องเที่ยวหาย กำลังจะทำแคมเปญร่วมกับภาครัฐในการส่งเสริมให้ผู้บริโภคหันมารับประทานข้าวกันมากขึ้น เพราะปัจจัยอื่นที่ทำให้การบริโภคข้าวลดน้อยลง เพราะมีอาหารอื่นให้เลือกเข้ามาหลากหลายมากไม่ว่าจะเป็นพิชซ่า”
นายระพีพัชญ์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีคนเข้าใจผิดคิดว่าการบริโภคข้าวทำให้อ้วนนั้นไม่จริง เพราะคาร์โบไฮเดรตที่วัฒนธรรมตะวันตกกล่าวอ้างนั้นเป็นคนละชนิดกัน คาร์โบไฮเดรตชนิดนั้นคือ ขนมปัง ดังนั้นเมื่อการสื่อสารผิดก็ส่งผลทำให้บางคนเลิกบริโภคข้าวไป หรือรับประทานเพียงบางมื้อเท่านั้น ต่อไปทางสมาคมจะมีกิจกรรมรณรงค์ในอนาคต อาทิ สโลแกน “รักชาวนา ให้รับประทานข้าว”