เบนซ์ถก BOI ฉลุยขาย EV "มินิ"ชิมลางก่อนนำเข้าจีน

03 ก.พ. 2563 | 04:50 น.

2 แบรนด์รถหรูได้ฤกษ์ทำตลาด “อีวี” ในเมืองไทย เมอร์เซเดส-เบนซ์ ถกบีโอไอลงตัวพร้อมนำเข้า “อีคิวซี” ขายไตรมาส 3 ปีนี้ แต่ให้สิทธิแค่ 4 ดีลเลอร์ ส่วน มินิ ในเครือบีเอ็มดับเบิลยู เปิดตัว “คูเปอร์ เอสอี” วันที่ 6 ก.พ.นี้ ได้โควตาล็อตแรก 20 คันจากอังกฤษ ก่อนปี 2565 มีแผนสั่งจากโรงงานผลิตแห่งใหม่ในจีน โดยไร้ภาษีนำเข้า

 

เศรษฐีไทยหัวใจรักษ์โลก เตรียมเฮเมื่อค่ายรถยนต์ระดับหรูขยับนำเข้ารถพลังงานไฟฟ้า 100% “อีวี” มาทำตลาดในไทย ซึ่งที่ผ่านมามีทั้ง จากัวร์ ไอเพซ, อาวดี้ อี-ตรอน ราคากว่า 5 ล้านบาท และตามแผนที่เคยประกาศไปแล้วอย่าง ปอร์เช่ ไทคานน์ เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ 2020

ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวจาก เมอร์เซเดส-เบนซ์ และ มินิ ในเครือบีเอ็มดับเบิลยู ว่าพร้อมขาย อีวี ในเมืองไทยแน่นอนแล้ว โดยค่ายแรกเคยวางแผนเปิดตัว “อีคิวซี” ในไทยปลายปี 2562 แต่ปรากฏว่าเจรจาโควตานำเข้ารถล็อตแรกโดยได้สิทธิพิเศษไม่เสียภาษีนำเข้ากับบีโอไอไม่ลงตัว จึงต้องเลื่อนแผนออกไปก่อน (บีโอไอให้สิทธิบริษัทรถยนต์ที่มีแผนลงทุนประกอบอีวีในไทย สามารถนำเข้ารถมาขายก่อนได้ “จำนวนหนึ่ง” โดยไม่เสียภาษีนำเข้า)

อย่างไรก็ตาม เจ้าพ่อรถยนต์หรูเมืองไทยนำโดยประธาน “โรลันด์ โฟลเกอร์” เคยประกาศว่ายังต้องทำงานร่วมกับบีโอไอในทุกมิติ และพูดคุยกันบ่อยขึ้น สุดท้ายได้ฤกษ์ เปิดตัว “อีคิวซี” ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้แต่ไม่เกินไตรมาส 3 ซึ่งเป็นการนำเข้ามาจากโรงงานผลิตที่เมืองสตุตการ์ต ประเทศเยอรมนี

ด้วยโควตานำเข้าภายใต้สิทธิพิเศษจากบีโอไอที่มีจำกัด และการวางแผนการขายและบริการหลังการขายต้องลงทุนเพิ่มเติม ดังนั้นในช่วงแรก เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย จะให้สิทธิขายกับดีลเลอร์เพียง 4 ราย ซึ่งล้วนเป็นรายใหญ่ ทำผลงานได้ตามเป้าหมาย และเป็นกลุ่มที่เป็นพันธมิตรกันมานาน

สำหรับ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ในประเทศไทย เตรียมจัดงานแถลงแผนการตลาดปี 2563 ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ เชื่อว่าจะมีความคืบหน้าของข่าว และความเคลื่อนไหวใหม่ๆให้ติดตาม

เบนซ์ถก BOI ฉลุยขาย EV "มินิ"ชิมลางก่อนนำเข้าจีน

ด้านคู่แข่งร่วมชาติ “บีเอ็มดับเบิลยู” เริ่มขยับแผน “อีวี” มากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากปีที่แล้วนำเข้า i3s มาทำตลาดด้วยราคา 3.73 ล้านบาท แต่ปีนี้เพิ่มความหลากหลายให้กับ “มินิ” แบรนด์ในเครือด้วยการเปิดตัว “มินิ คูเปอร์ เอสอี” ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งเป็นการนำเข้ามาจากโรงงานผลิตที่ออกซฟอร์ด ประเทศอังกฤษ

“คูเปอร์ เอสอี” เป็นรถพลังงานไฟฟ้า100% รุ่นแรกของมินิ ใช้มอเตอร์หนึ่งตัวขับเคลื่อนล้อหน้า วางแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนขนาด 32.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง ชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้งรถวิ่งได้ระยะทาง 235-270 กิโลเมตร โดยปีนี้ มินิ ประเทศไทยได้โควตาเพียง 20 คัน ในรุ่น L (รุ่นรองท็อป) คาดราคาไม่เกิน 2.5 ล้านบาท และเปิดให้จองผ่านช่องทางออนไลน์ เหมือนที่เคยชิมลางระบบนี้กับรถยนต์รุ่นพิเศษและมีจำนวนจำกัดในปีที่แล้ว

การเปิดตัว มินิ คูเปอร์ เอสอี ถือว่าสร้างความประหลาดใจเล็กๆ เพราะที่ผ่านมา นายปรีชา นินาทเกียรติกุล ผู้จัดการทั่วไป มินิ ประเทศไทย เคยแสดงความเห็นว่า จะทำตลาดรถพลังงานไฟฟ้าภายใน 3 ปีนี้

“ความคืบหน้าเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของมินิที่เพิ่งเปิดตัวสู่ตลาดโลก ในส่วนของประเทศไทยจะได้เห็นแน่นอน คาดว่าไม่เกิน 3 ปี” นายปรีชา กล่าว

จากคำกล่าวของผู้บริหารมินิ ถือว่าจังหวะเวลาสอดคล้องกับการสร้างโรงงานผลิตแห่งใหม่ ที่ประเทศจีนจะแล้วเสร็จพอดี ซึ่งมีโอกาสสูงที่ไทยจะใช้ช่องทางนี้นำเข้ามาทำตลาด

เบนซ์ถก BOI ฉลุยขาย EV "มินิ"ชิมลางก่อนนำเข้าจีน

เบนซ์ถก BOI ฉลุยขาย EV "มินิ"ชิมลางก่อนนำเข้าจีน

โรงงานแห่งใหม่ของมินิ เป็นการร่วมลงทุนระหว่างบีเอ็ม ดับเบิลยู กรุ๊ป และเจ้าถิ่น บริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ ตั้งอยู่ในเมืองจางเจียกัง มณฑลเจียงซู เริ่มก่อสร้างในปี 2563 และเสร็จปี 2565 มูลค่าลงทุนกว่า 2.1 หมื่นล้านบาท โดยมีแผนการจ้างงานพนักงาน 3,000 คน และจะประกอบมินิที่โรงงานแห่งนี้ด้วยกำลังการผลิตราว 160,000 คัน/ปี รวมกับรถยนต์แบรนด์อื่นๆ ของเกรท วอลล์ มอเตอร์

ด้วยข้อตกลงทางการค้า FTA จีน-อาเซียน ที่ “อีวี” ไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าระหว่างกัน จึงมีโอกาสที่มินิ ประเทศไทยจะนำเข้า คูเปอร์ เอสอี (หรือคูเปอร์ อี) มาทำตลาด ซึ่งมีความชัดเจนในการลงทุนมากกว่าโรงงานผลิตประเทศมาเลเซียที่สำคัญบริษัทแม่ บีเอ็มดับเบิลยู ยังมีแผนประกอบ เอสยูวีพลังงานไฟฟ้ารุ่น iX3 ในจีนปีนี้ และมีโอกาสนำเข้ามาขายในไทยเช่นกัน

แผนงานในระดับโลกของ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป จะมี “อีวี” ทำตลาดในปี 2564 รวม 4 โมเดล คือ i3, iX3, i4 และ iNEXT ซึ่งจะขยับเพิ่มเป็น 12 รุ่นในปี 2568

สำหรับยอดขายรถยนต์ของบีเอ็มดับเบิลยูในไทยปี 2562 ทำได้ 12,954 คัน ลดลง 1% ส่วน เมอร์เซเดส-เบนซ์ 15,087 คัน ลดลง 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 

 

หน้า 16-17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจปีที่ 40 ฉบับที่ 3,545 วันที่ 2-5 กุมภาพันธ์ 2563