"สรยุทธ"อดีตคนข่าวผู้ทรงอิทธิพล ไม่แพ้"โอปราห์ วินฟรี่ย์"

21 ม.ค. 2563 | 03:34 น.

 

วันนี้( 21 ม.ค.63 )ทราบผลกันแล้วว่า นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตพิธีกรรายการ “คุย คุ้ยข่าว” ไม่รอดคุก ศาลฯสั่งจำคุก 6 ปี 24 เดือน จากเดิมที่ศาลชั้นต้น และอุทธรณ์พิพากษา สั่งจำคุก 13 ปี 4 เดือน ในคดีเบี้ยวค่าโฆษณา อสมท กว่า 138 ล้านบาท  และวันนี้ ‘ฐานเศรษฐกิจ’ จะพาไปย้อนรอยชีวิตวัยเด็กของ ‘สรยุทธ’ ที่อาจดูเหมือนใครบางคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสตรีผู้ทรงอิทธิพลโลกอย่าง ‘โอปราห์ วินฟรี่ย์’

 

สรยุทธ สุทัศนะจินดา  เกิดเมื่อ 11 พฤษภาคม 2509 จบมัธยมจากโรงเรียนอำนวยศิลป์ และมีชีวิตวัยเด็กที่แสบกระทั่งเคยไปพักอยู่ที่บ้านเมตตา  แต่จุดเริ่มต้นของการมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปในชื่อ ‘สรยุทธ’ เริ่มต้นจากที่หนังสือพิมพ์เดอะ เนชั่น เมื่อ 30 กว่าปีก่อน 

 

สรยุทธ เริ่มจากการเป็นนักข่าวภาคสนามสายการเมือง  ต่อมามีโอกาสได้ขยับเลื่อนขั้นจัดรายการวิเคราะห์ข่าว ITV และสิ่งที่ทำให้โด่งดังมีชื่อเสียงจนวันนี้เห็นจะมาจากรายการ ‘เก็บตก จากเนชั่น’ ที่ร่วมกับเพื่อนรัก ‘กนก รัตน์วงศ์กุล’

 

แต่แล้วก็ต้องถึงจุดแตกหักเมื่อ สรยุทธขอลาจากองค์กรเก่าแก่ที่สร้างชื่อให้มานานกว่าหลายสิบปีและหันไปซบอกช่อง 3 ถึงขั้นทำให้ 'สุทธิชัย หยุ่น'สั่งระงับทุกรายการที่เกี่ยวข้องกับสรยุทธออกทั้งหมด

 

กระทั่งจุดเริ่มต้นชีวิตใหม่ของสรยุทธได้กำเนิดขึ้น และกลับมามีชื่อเสียงอีกครั้งและเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางหมู่มวลประชาชนเมื่อเขาได้ก้าวมาเป็น ‘นักเล่าข่าว’ กับรายการ ‘เรื่องเล่าเช้านี้’ สร้างชื่อให้เขากลายเป็นนักข่าวผู้ทรงอิทธิพลหรือเป็น ‘นักข่าวร้อยล้าน’ ในชั่วพริบตา

 

ชีวิตสรยุทธ ดูแล้วไม่แตกต่างจาก "โอปราห์ วินฟรี่ย” สตรีผู้ทรงอิทธิพลระดับโลก ที่มีชีวิตวัยเด็กสุดรันทดที่ต้องต่อสู้และเผชิญปัญหามากมายนับไม่ถ้วน เมื่อย้อนไปในชีวิตเธอ โอปราห์ได้รับการเลี้ยงดูแบบโบราณที่มียายเข้มงวดแต่สามารถสอนเธอให้อ่านหนังสือออก  แต่แล้วในวัย 9- 13 ปีโลกของโอปราห์ก็ต้องพบกับเหตุการณ์ที่เลวร้ายสุดขีด เมื่อเธอถูกส่งมาอยู่กับแม่แท้ๆที่ในเมือง Milwaukee และถูกล่วงละเมิดทางเพศจากญาติที่เป็นผู้ชายและคนอื่นๆ จนตั้งครรภ์

 

จากนั้นเธอก็ได้เดินทางไปเมือง Nashville เพื่อขอไปอยู่กับพ่อของเธอ  และเมื่อไปอยู่กับพ่อของเธอๆก็ได้ให้กำเนิดลูกน้อย  แต่แล้วลูกของโอปราห์ก็อยู่ได้เพียงแค่ 2 สัปดาห์เท่านั้นก่อนจะลาจากโลกนี้ไป  แต่การอยู่กับพ่อของเธอกับไม่สูญเปล่าและกลายเป็นรางวัลชีวิตที่ผลักดันให้เธอได้กลายเป็นนักเรียนดีเด่นในวัย 17 ปี  หรือการเป็นนางงามผิวสีของรัฐ Tennessee ซึ่งสิ่งเหล่านี้เธอได้มาจากการที่มีพ่อเป็นคนเข้มงวด  

 

 

จนกระทั่งโอกาสดีๆเริ่มเข้ามาในชีวิตโอปราห์ทีละนิดตั้งแต่การได้รับข้อเสนอทำงานสถานีวิทยุแห่งหนึ่ง และได้รับทุนการศึกษาจากมหาวิทยาลัยของรัฐ Tennessee และหลังจากที่โอปราห์จบการศึกษาก็ได้พาตัวเองไปสู่การทำงานรายการโทรทัศน์ Baltimore is Calling และกลายเป็นพิธิกร A.M. Chicago ซึ่งสร้างชื่อเสียงให้โอปราห์กลายเป็นที่รู้จักในช่วงข้ามวัน  แต่จุดที่ทำให้เธอโด่งดังและมีชื่อเสียงจนกลายเป็นสตรีผู้ทรงอิทธิพลขณะนี้นั่นคือ The Oprah Winfrey Show

 

ความสำเร็จที่เกิดขึ้นกลับไม่ทำให้โอปราห์กลายเป็นคนทะนงในตัวเอง  แต่เธอกลับใช้ความมีชื่อเสียงสร้างแรงบันดาลใจให้คนทั่วโลกแทน  พร้อมทั้งก่อตั้งมูลนิธิสำหรับเด็กผู้หญิง The Oprah Winfrey Leadership Academy for Girls ทางตอนใต้ของเมือง Johannesburg ประเทศแอฟริกาใต้ เพื่อช่วยเหลือเด็กหญิงด้อยโอกาส และในปี 1998 โอปราห์ได้ก่อตั้ง The Oprah’s Angel Network เพื่อสนับสนุนโครงการเพื่อการกุศลและมอบทุนให้กับองค์กรที่ไม่แสวงผลกำไรทั่วโลก