อาปิโกสยายปีกตลาด2ล้อ

13 ม.ค. 2563 | 04:45 น.

 

ตลาดสองล้อคึกคักตั้งแต่ต้นปี หลังน้องใหม่แต่ชื่อไม่ใหม่ในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์อย่าง บริษัท อาปิโกไฮเทค จำกัด (มหาชน) ประกาศจับมือกับ กลุ่ม บริษัทโซจิทสึ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น และก่อตั้งบริษัท วรูม จำกัด (Vroom Co., Ltd.) เพื่อเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์แบรนด์ บาจาจ (Bajaj) เคทีเอ็ม (KTM) และฮัสกวานา (Husqvarna) ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

ภายใต้บริษัท วรูม จำกัด ได้แต่งตั้ง นายฮิเดกิ ยานากิซาวะ อดีตประธาน บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ในตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร พร้อมด้วย นายวรท กมลโชติรส ในตำแหน่งรองประธานกรรมการบริหาร

อาปิโกสยายปีกตลาด2ล้อ

“การร่วมทุนในครั้งนี้ ถือเป็นความท้าทาย และเป็นการปรับตัวของบริษัท จากเดิมที่อยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์มาสู่ธุรกิจรถจักรยานยนต์ ประกอบกับความสัมพันธ์ทางธุรกิจของเรากับโซจิทสึ คอร์ปอเรชั่น และทีมงานของวรูมจะทำให้อาปิโกประสบความสำเร็จและสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้แก่บริษัทอย่างแน่นอน” นายเย็บ ซู ชวน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) กล่าว

 

ด้านนายโยชิอากิ อิชิมูระ ประธาน บริษัท โซจิทสึ ออทรานส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัทในเครือกลุ่มบริษัทโซจิทสึฯ กล่าวว่า แม้ว่าภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์ในไทยจะชะลอตัว แต่บริษัทมั่นใจว่ารถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตที่จะแนะนำเข้าสู่ตลาดจากทั้ง 3 แบรนด์นี้จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีโดยเฉพาะในกลุ่มคนรักบิ๊กไบค์

ขณะที่นายลูก้า มาร์ติน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เคทีเอ็ม เอเชีย กล่าวว่า ตลาดในประเทศไทยมีศักยภาพโดยเฉพาะในกลุ่มรถจักรยานยนต์สปอร์ต และการได้จับมือกันเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัทที่มีประสบการณ์และประสบความสำเร็จอย่างสูงในอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย ก็คาดว่าจะช่วยสร้างแบรนด์ของบริษัททั้งเคทีเอ็ม บาจาจ ให้เป็นที่รู้จักในตลาดประเทศไทย

การจับมือร่วมกันในครั้งนี้ เบื้องต้นใช้งบลงทุนประมาณ 400 ล้านบาท และจะเริ่มทำตลาดอย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคม ทั้งการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆที่จะทำตลาด พร้อมทั้งโชว์รูมแฟล็กชิพและศูนย์บริการซึ่งตั้งอยู่ปากซอยลาดพร้าว 122 หลังจากนั้นจะเข้ารวมงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2020

สำหรับทั้ง 3 แบรนด์ เริ่มตั้งแต่ บาจาจ ถือเป็นแบรนด์รถจักรยานยนต์อันดับ 3 ของโลกมีโรงงานผลิตทั้งในประเทศอินเดียและทั่วโลก มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่กว่า 70 ประเทศ มียอดจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ในปีที่ผ่านมาทั้งหมดกว่า 4.2 ล้านคัน และจำนวน 1.7 ล้านคันถูกส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ สามารถสร้างรายได้รวมถึง 4.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

การเข้ามารุกในประเทศไทยครั้งนี้ บาจาจตั้งเป้าหมายว่าไทยจะเป็นตลาดหลักและได้วางแผนที่จะย้ายสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชีย และเปิดศูนย์การออกแบบในกรุงเทพฯ ในปี 2563

 

ส่วนเคทีเอ็ม อินดัสตรีส์ เอจี ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์เคทีเอ็ม จากประเทศออสเตรีย และฮัสกวานา จากประเทศสวีเดน ถือเป็น 2 แบรนด์ที่เติบโต โดยในปี 2561 มียอดจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์รวมทั้ง 2 แบรนด์ทั่วโลกอยู่ที่ 261,454 คัน แบ่งเป็น เคทีเอ็ม 212,899 คัน และฮัสกวานา 48,555 คัน เติบโต 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และมีรายได้ 1,560 ล้านยูโร หรือประมาณ 52,260 ล้านบาท ทำสถิติรายได้สูง 8 ปีติดต่อกัน

เคทีเอ็ม ยังเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกับบาจาจโดยจะร่วมกันออกแบบและผลิตรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ๆออกสู่ตลาดโลก ซึ่งในอาเซียนเคทีเอ็มมีโรงงานตั้งอยู่ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ส่วนบาจาจมีโรงงานตั้งอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย 

 

หน้า 28-29 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,539 วันที่ 12 - 15 มกราคม พ.ศ. 2563