5 จุดเปลี่ยนแวดวงธุรกิจ ปี 2562
ตลอดปี 2562 “ฐานเศรษฐกิจ” เกาะติดนำเสนอข่าวเศรษฐกิจการตลาดมาต่อเนื่อง นำเสนอข่าวสารความเคลื่อนไหว การวิเคราะห์ข้อมูล แนวโน้มธุรกิจ และแผนการตลาดในหลากหลายธุรกิจ ในช่วงส่งท้ายปีนี้ จึงรวบรวมนำเสนอ 5 ข่าวเด่นที่ถูกกล่าวขานมากที่สุดในปี 2562
7 ช่องปิดฉากทีวีดิจิทัล
กลายเป็นข่าวดีของคนในวงการทีวีดิจิทัล เมื่อคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ออกประกาศให้ผู้ประกอบกิจการทีวีดิจิทัลสามารถยื่นขอคืนใบอนุญาตประกอบกิจการทีวีดิจิทัลได้ในเดือนเมษายน หลังจากที่ต้องทนแบกรับภาระมานานกว่า 5 ปีจากการเข้าประมูลทีวีดิจิทัล ที่สุดแล้วในวันที่ 10 พฤษภาคม วันสุดท้ายของการยื่นขอคืนใบอนุญาตฯ พบว่ามี 7 ช่องที่มีความประสงค์จะยุติการดำเนินกิจการทีวีดิจิทัลอีกต่อไป ได้แก่ ไบรท์ ทีวี ช่อง 20, สปริงนิวส์ 19, สปริง 26 (NOW), วอยซ์ ทีวี, MCOT Family ช่อง 14, ช่อง 3 แฟมิลี่ และช่อง 3 เอสดี โดยให้เหตุผลว่า ไม่สามารถแบกรับต้นทุกที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และเป็นรายจ่ายที่เกิดขึ้นทุกวันได้ ประกอบกับเม็ดเงินโฆษณาในกลุ่มสื่อทีวีที่ดูเหมือนจะสวนทางและลดลง
โดยผู้ประกอบการทั้ง 7 ช่อง ต่างได้รับเงินชดเชยจากกสทช. เป็นเม็ดเงินกว่า 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งหลังจากมีการคืนใบอนุญาตที่ผ่านมามีนักลงทุน ที่ปรึกษาแวดวงต่างๆ ได้วิเคราะห์กันจำนวนมากว่า การคืนใบอนุญาตของ 7 ช่องจะส่งผล บวกต่อภาพรวมอุตสาหกรรมทีวีดิจิทัลดีขึ้น แต่ในด้านของผู้ประกอบการที่เหลืออยู่ยังคงต้องเผชิญกับแรงกดดันต่อไปจากรายได้โฆษณาที่ลดลง
ทอท.ปิดพื้นที่“เซ็นทรัล วิลเลจ”
อีกข่าวที่โด่งดังไปทั่วโลก กับข้อพิพาทระหว่าง “เซ็นทรัล วิลเลจ กับทอท.” หลังจากในวันที่ 22 สิงหาคม 2562 บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เข้าปิดพื้นที่ทางเข้า-ออก โครงการเซ็นทรัล วิลเลจ ลักชัวรีเอาต์เล็ต มูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิของบมจ. เซ็นทรัลพัฒนา หรือซีพีเอ็น โดยให้เหตุผลว่า โครงการดังกล่าวรุกลํ้าพื้นที่ราชพัสดุ พื้นที่สีเขียว และก่อสร้างอาคารในเขตปลอดภัยการเดินอากาศ ส่งผลให้ผู้รับเหมาก่อสร้าง ผู้ประกอบการร้านค้าเช่าภายในโครงการไม่สามารถเข้าไปดำเนินการก่อสร้าง ตกแต่งภายในโครงการได้
ร้อนถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นกรมธนารักษ์ กรมทางหลวง กรมการบินพลเรือน ต้องเข้ามาตรวจสอบ ขณะที่ฝ่ายซีพีเอ็นเองได้ยื่นต่อศาลปกครองกลางขอคุ้มครองชั่วคราว จนกระทั่งในวันที่ 30 สิงหาคม 2562 ก่อนถึงกำหนดเปิดให้บริการเซ็นทรัล วิลเลจไม่ถึง 24 ชม. ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งให้ทอท. รื้อถอนสิ่งกีดขวางออกจากเขตทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 370 บริเวณทางเข้า-ออกหน้าโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ และยุติการดำเนินการใดๆ อันเป็นการขัดขวาง รบกวน หรือทำให้เกิดอุปสรรคต่อการเข้าพื้นที่ ทำให้เซ็นทรัล วิลเลจสามารถเปิดทำการได้ตามกำหนดที่วางไว้
ข้อพิพาทดังกล่าว นอกจากจะเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลก ยังสร้างชื่อให้ “เซ็นทรัล วิลเลจ” เป็นที่รู้จักและหลายคนอยากมาพิสูจน์ว่าเป็นไปตามข้อกล่าวหาหรือไม่
ตั้ง“อริยะ”กู้วิกฤติช่อง 3
เป็นที่รู้กันดีว่า “บีอีซี เวิลด์” ผู้บริหารช่อง 3 ต้องแบกภาระขาดทุนมายาวนาน โดยเฉพาะหลังจากที่ประมูลทีวีดิจิทัลได้ถึง 3 ช่อง ความยากลำบากของบีอีซี เวิลด์ ไม่ใช่เพียงแค่การบริหารจัดการอย่างไรให้มีเรตติ้งดี มีรายได้ มีกำไร แต่เป็นการบริหารอย่างไรภายใต้การเข้ามาดิจิทัล ดิสรัปชัน ที่ทำให้เกิดแพลตฟอร์มต่างๆ มากมาย และกลายเป็น “คอนซูเมอร์ ดิสรัปชัน” เมื่อผู้ชมหันหลังไปหน้าจออื่น ที่ไม่ใช่จอทีวีอีกต่อไป
การได้ผู้บริหารมืออาชีพอย่าง “อริยะ พนมยงค์” มานั่งเป็น “กรรมการผู้อำนวยการ” บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา จึงถูกจับจ้องว่างานนี้ “อริยะ” จะเข้ามากู้วิกฤติการเงินของช่อง 3 ได้อย่างไร และเมื่อเข้ามาอริยะก็ได้พิสูจน์ฝีมือโดยเริ่มจากการยุติออกอากาศทีวีดิจิทัล 2 ช่อง คือ ช่อง 13 แฟมิลี่ และช่อง 28 เพื่อให้ช่อง 3 สามารถมุ่งบริหารรายการบนช่อง 33 เพียงช่องเดียว
รวมทั้งการเลย์ออฟพนักงานออกอีกระลอก เพื่อลดต้นทุน ปรับโพสิชันนิงใหม่โดยเริ่มจากรายการข่าว ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้พิสูจน์ความสามารถโดยการนำกลยุทธ์ทั้งช่องทางทีวี ออนไลน์ และออนกราวด์มารวมกันทำงานได้อย่างไม่มีใครคาดคิด เช่น ตั้งศูนย์คลินิกหมอความศูนย์ร้องทุกข์ที่เชื่อมต่อกับสื่อทีวี เป็นต้น วันนี้ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่า “อริยะ” สร้างรายได้จากบ้านหลังใหม่มาทดแทนบ้านหลังเดิมได้หรือยัง คงต้องจับตามองต่อไป
ฆ่าไม่ตาย!“ชานมไข่มุก”ฟีเวอร์
ถือว่า “กระหึ่ม” วงการเครื่องดื่มเมืองไทยก็ว่า เมื่อ “ชานมไข่มุก” เครื่องดื่มที่เคยโด่งดังในอดีต จะรีเทิร์นกลับมาแจ้งเกิดอีกครั้ง ซึ่งน้อยรายจะทำได้ เพราะวันนี้ทุกหัวระแหงต่างมีร้านชานมไข่มุกผุดเป็นดอกเห็ด ทั้งแบรนด์สุดพรีเมียม The Alley (กวาง) หรือจะเป็น เสือพ่นไฟ (ไทเกอร์) รวมถึงระดับกลาง ยันระดับล่าง ส่งผลให้ตลาดพุ่งทะยานแตะ 3,000 ล้านบาท เติบโตกว่า 40% สวนกระแสเศรษฐกิจและจีดีพีประเทศ
อีกหนึ่งเสียงที่ยืนยันความฮอตของ “ชานมไข่มุก” คือ Grab Food โดยข้อมูลจาก Grab Food ระบุว่า คนไทย กินชานมไข่มุกมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เฉลี่ยเดือนละ 6 แก้ว จนมีผู้เล่นหน้าใหม่ทั้งแบรนด์ไทย-เทศ ทยอยตบเท้าเข้าร่วมชิงแชร์จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์สัญชาติไทยอย่าง “Seoulcial Club” กับชานมซิกเนเจอร์สุดโด่งดัง “เสือพ่นไฟ” เจ้าของเอกลักษณ์ชานมซีรีส์เสือสายพันธุ์ฮิพ “เสือพ่นไฟ-เบบี้ไทเกอร์-ราชาเสือ-ราชินีเสือ”, แบรนด์ยอดนิยมอย่าง The Alley, Kamu Tea, Brown Cafe, KOI The เป็นต้น
ความร้อนแรงของชานมไข่มุกยังไม่ซา เพราะมีแบรนด์ที่จ่อจะเปิดตัวลงสนามนี้อีกมากทั้งแบรนด์ไทยและแบรนด์ต่างชาติ งานนี้รับรองว่าแฟนพันธุ์แท้ชานมไข่มุก มีกินได้ไม่เบื่อแน่นอน
ดีเดย์ 1 ม.ค. 63 งดให้ถุงพลาสติก
ในแต่ละปีมีถุงพลาสติกที่เกิดจากห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อมากกว่า 1.35 หมื่นใบ แม้ถุงเหล่านี้จะถูกนำไปรีไซเคิล หรือใช้ซํ้า แต่ที่สุดแล้วก็กลายเป็นขยะ ทำให้ผู้ประกอบการค้าปลีก ที่เป็นสมาชิกสมาคมผู้ค้าปลีกไทยรวมถึงภาคีเครือข่ายสมาคมกว่า 75 แห่งทั่วประเทศ ประกาศเจตนารมณ์งดให้ถุงพลาสติกหูหิ้ว ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป พร้อมเดินหน้าแคมเปญ Everyday Say No to Plastic Bags ลด ละ เลิก ขยะพลาสติก เพื่อลดปัญหาขยะพลาสติก
นอกจากนี้ บมจ. ซีพี ออลล์ ผู้บริหารร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ก็ออกมาเชิญชวนให้คนไทยลดการใช้ถุงพลาสติก ผ่านโครงการ “รวมพลังคนไทย เลิกใช้ถุงพลาสติก” พร้อมกับประกาศงดให้ถุงพลาสติกตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ด้วยเช่นกัน ถือเป็นอีกหนึ่งบริบทที่หน่วยงานเอกชนจะช่วยกันลดปัญหาสังคมที่จะเกิดขึ้นในระยะยาว
หน้า 31-32 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,533 วันที่ 22-25 ธันวาคม 2562
