เอกชนมึน ศก.ไทยปี 63 ไร้ปัจจัยบวก

30 พ.ย. 2562 | 07:07 น.

เอกชนกุมขมับเศรษฐกิจไทยยังไร้ปัจจัยบวกต่อเนื่องถึงปีหน้า ทุกภาคชะลอไร้สัญญาณฟื้นตัว แนะรัฐบาลคุมบาทแข็ง ขณะหอการค้า 5 ภาค ประสานเสียงเศรษฐกิจทุกภาคยังชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง จากกำลังซื้อยังไม่ฟื้นตัว ประชาชนชะลอจับจ่าย

นายกลินท์  สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยในการประชุมหอการค้าทั่วประเทศครั้งที่ 37 ที่จังหวัดลำปาง( 30 พ.ย.62)ว่า  เศรษฐกิจไทยมีความท้าทายจากหลายปัจจัย ทั้งเรื่องผลกระทบจากสงครามทางการค้า ปัญหาเงินบาทที่แข็งค่า และการกระจายรายได้ที่ไม่ทั่วถึง ส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัว  แต่โอกาสทางเศรษฐกิจไทยก็ยังมี  จากไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนในอาเซียน ภาพรวมต่างชาติยังสนใจที่จะมาลงทุน และทำธุรกิจด้านการค้า บริการและการท่องเที่ยวกับไทย

เอกชนมึน ศก.ไทยปี 63 ไร้ปัจจัยบวก

                                            กลินท์  สารสิน

ด้านนายวิศิษฐ์  ลิ้มลือชา รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย(สรท.) ระบุว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้ยังคงชะลอตัวต่อเนื่องถึงต้นปีหน้า สาเหตุส่วนหนึ่งจากค่าเงินบาททายังแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง  ซึ่งตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันค่าบาทไทยแข็งค่าถึง 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมถึงสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนที่ยังยืดเยื้อ ซึ่งส่งผลกระทบกับไทยในบางอุตสาหกรรม รวมถึงผลกระทบกับเศรษฐกิจและการส่งออกของไทยในภาพรวม เนื่องจาก 70% ของจีดีพีของไทยยังพึ่งพาภาคการส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า คาดปี 2562 มูลค่าการส่งออกของไทยจะติดลบ 1 -1.5%  ซึ่งจะฉุดให้เศรษฐกิจของประเทศที่ชะลอตัวถึงปีหน้า

 

“ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณบวกใด ๆ ที่จะส่งผลให้เศรษฐกิจปีหน้าขยายตัวได้ดี ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการจ้างงานในบางอุตสาหกรรมที่มีการลดคนงาน”

เอกชนมึน ศก.ไทยปี 63 ไร้ปัจจัยบวก

ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐโดยเฉพาะการกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ เช่น การมาจัดประชุมในจังหวัดที่เป็นเมืองรองมองว่าช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในแง่ของจิตวิทยา แต่ได้เพียงเล็กน้อย เพราะผู้บริโภคยังไม่มีกำลังซื้อ ทั้งนี้ภาคเอกชนต้องการให้แก้ปัญหาเงินบาทแข็งค่าก่อนเพราะไทยยังต้องพึ่งพาการส่งออกจากเงินบาทแข็งค่า ทำให้สินค้าไทยราคาแพง กระทบต่อความสามารถในการแข่งขัน

เอกชนมึน ศก.ไทยปี 63 ไร้ปัจจัยบวก

                           ธนวรรธน์  พลวิชัย

สอดคล้องกับ ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย และผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจ และธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ที่กล่าวว่า จากการประชุมร่วมกับหอการค้า 5 ภาค ในหัวข้อแนวทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาค  พบว่าขณะนี้เศรษฐกิจทุกภูมิภาคอยู่ในภาวะชะลอตัว เนื่องจากสินค้าเกษตรตกต่ำ ปัญหาสงครามการค้าและเงินบาทที่แข็งค่าทำให้การส่งออกขยายตัวติดลบ โดยประเมินว่ามูลค่าทางการค้าจะหายไปกว่า 3 แสนล้านบาท   

นอกจากนี้ ยังได้รับผลกระทบจากเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง ผู้บริโภคมีการปรับพฤติกรรมซื้อขายสินค้าผ่านทางออนไลน์มากขึ้น ทำให้กำลังซื้อส่วนหนึ่งหายไปอยู่บนออนไลน์ ประมาณ 50,000 -1 แสนล้านบาท ขณะที่กำลังซื้อปกติก็ลดลง ดังนั้นแม้ว่ารัฐบาลจะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมาแล้วหลายรอบหลายแสนล้านบาท ก็ไม่สามารถกระตุ้นกำลังซื้อให้กลับมาได้

เอกชนมึน ศก.ไทยปี 63 ไร้ปัจจัยบวก

“ภาคเอกชนห่วงค่าเงินบาทที่แข็งค่า  7 % ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ขณะที่ค่าเงินหยวนอ่อนค่าลง 3 % ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนใช้จ่ายน้อยลง การท่องเที่ยวภาพรวมก็ชะลอการจับจ่ายทำให้เศรษฐกิจไทยปีนี้คาดว่าขยายตัวต่ำกว่า 3%  หรือขยายตัวได้ที่ 2 .5-2.6%  ทั้งนี้เห็นว่ารัฐบาลต้องหามาตรการเพื่อเร่งฟื้นเศรษฐกิจในหน้า ทั้งการเร่งผ่านงบประมาณเพื่อให้เม็ดเงินหมุนในระบบผ่านการลงทุน ดูแลค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพไม่ให้ต่ำกว่า 30 บาท ต่อดอลลาร์สหรัฐฯ”

เอกชนมึน ศก.ไทยปี 63 ไร้ปัจจัยบวก

ขณะที่นายพีระรักษ์ พิชญกุล เลขาธิการหอการค้าจังหวัดลำปาง ระบุว่า การจัดงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศครั้งที่ 37 ที่จังหวัดลำปางในครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่จัดขึ้นในเมืองรอง  ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยคาดว่าตลอดระยะเวลาจัดงาน 3 วัน จะช่วยทำให้เกิดเงินสะพัดในจังหวัดประมาณ 50 ล้านบาท จากการซื้อสินค้าและบริการ

โดยในวันพรุ่งนี้(1 ธ.ค.62)หอการค้าไทยจะทำข้อสรุปการสัมมนาแนวทางแก้ปัญหาเศรษฐกิจและทำสมุดปกขาวเสนอต่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีต่อไป