‘ชมภิญญ์’ธรรมชาติบำบัดสร้างธุรกิจ
ด้วยความที่ตนเองประสบปัญหาเรื่องของสุขภาพ โดยถูกตรวจพบว่าเป็นมะเร็งเนื่องจากต้องทำงานอยู่กับสารเคมีค่อนข้างมาก อีกทั้งในช่วงนั้นวิธีการใช้ธรรมชาติบำบัด หรือองค์ความรู้เรื่องธรรมชาติยังไม่ได้เป็นที่แพร่หลายอย่างในปัจจุบัน
“คัทรินทร์ ประยุกต์วิทยาฐาน” จึงต้องพยายามเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิต เพราะมองว่าถึงจะพยายามรักษาแต่ไม่เปลี่ยนตนเองก็คงจะไม่เกิดประโยชน์ อีกทั้งยังนึกถึงลูกชายซึ่งเวลานั้นเพิ่งอยู่ในวัยเพียง 3 ขวบเท่านั้น ตนจึงต้องประคองชีวิตให้อยู่ยืนยาวให้ได้ หลังจากนั้นจึงเริ่มศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการรักษาโรค ประกอบกับตนเองชื่นชอบผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการบำรุงผิว แต่เมื่อเดินเข้าไปสอบถามทางร้านที่เปิดให้บริการ ส่วนใหญ่จะได้รับคำตอบว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้ไม่ได้ผลิตมาจากธรรมชาติทั้งหมด
จุดกำเนิดแรงบันดาลใจ
คัทรินทร์ ในฐานะนักสร้างสรรค์กลิ่น ผลิตภัณฑ์นํ้ามันหอมระเหยสกัดแบรนด์
“ชมภิญญ์” (Chommpinn) บอกกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ตนรู้สึกโชคดีเมื่อครั้งที่ไปเรียนโยคะ ทำให้ได้พบกับเพื่อนที่เป็นแพทย์แผนไทย ซึ่งให้แรงบันดาลใจเกี่ยวกับการทดลองใช้นํ้ามัน เพราะมีความบริสุทธิ์สูง โดยตนมีโอกาสไปศึกษากับอาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านดังกล่าว จนสามารถทำผลิตภัณฑ์ขึ้นมาเพื่อเสิร์ฟให้กับตนเองได้ ซึ่งผลิตภัณฑ์ในลำดับแรกที่ทำออกมาจะเกี่ยวกับการบำรุงผิวหน้า และผิวตัวตามสัญชาตญาณของผู้หญิงที่มีความรักสวยรักงาม
หลังจากนั้น จึงได้มีการต่อยอดไปสู่ผลิตภัณฑ์อื่นเพิ่มเติม ทั้งนํ้ามันหอมระเหย ยาสระผม นํ้ามันบำรุงผม โดยมีจุดเด่นที่สำคัญของแบรนด์อยู่ที่ความบริสุทธิ์ ซึ่งจะมีสูงมากเนื่องจากไม่มีการใช้สารเคมี หรือสารกันเสีย อีกทั้งแบรนด์จะเลือกใช้วัตถุดิบซึ่งมาจากพืชที่มีคุณภาพมากที่สุดของแต่ละประเภทมาเป็นวัตถุดิบในการกลั่น ไม่ว่าจะเป็นที่แบรนด์กลั่นเอง เช่น นํ้ามันหอมระเหยขมิ้น ซึ่งจะมีการคัดสายพันธุ์ รวมถึงแหล่งเพาะปลูก เวลาเก็บเกี่ยวที่เหมาะสม โดยเป็นขมิ้นที่มีสาระสำคัญของขมิ้นสูงที่สุด ซึ่งรับมาจากเกษตรกรโดยตรง และใช้กระบวนการกลั่นพิเศษ โดยนํ้ามันหอมระเหยขมิ้นจะช่วยต้านการซึมเศร้า ลดความเครียด และลดการอักเสบต่างๆ ในร่างกายหรือไม่ได้กลั่นเอง เป็นต้น เช่นเดียวกับที่แบรนด์ไม่ได้กลั่นเองก็ต้องเป็นแบบที่คุณภาพดีที่สุด
“ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นตนทำด้วยความตั้งใจ และความศรัทธา เพราะผลิตภัณฑ์มีจุดกำเนิดมาจากการที่ตนเป็นโรคมะเร็ง ดังนั้น จึงต้องการผลิตภัณฑ์ที่เป็นความบริสุทธิ์อย่างแท้จริงเพื่อสุขภาพ เมื่อจะผลิตออกมาเพื่อจำหน่ายจึงกลายเป็นข้อดีที่ผู้บริโภคจะได้รับ”
ขยายตลาดในและต่างประเทศ
สำหรับช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในปัจจุบันนั้น จะอยู่ที่เคทีซียูชอป (KTC USHOP), เลมอนฟาร์ม, ร้านนายอินทร์ร้านจำหน่ายผลิต ภัณฑ์เพื่อสุขภาพ, ตัวแทนจำหน่ายซึ่งเป็นผู้ใช้ผลิต ภัณฑ์จริงแล้วต้องการนำไปจำหน่าย และบนช่องทางออนไลน์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก และเว็บไซต์
ส่วนแผนการขยายตลาดระยะต่อไป แบรนด์ต้องการหาตัวแทนจำหน่ายของแต่ละจังหวัด ในการร่วมแบบของการเป็นพันธมิตรร่วมทำธุรกิจ หรือพาร์ตเนอร์ที่สามารถช่วยสนับสนุนซึ่งกันและกันได้ เนื่องจากตนไม่เก่งเรื่องการตลาด โดยเป็นตัวแทนที่มีความรู้ความเข้าใจเป็นผู้ที่รักผลิตภัณฑ์ประเภทดังกล่าวนี้ และเข้าใจวิธีการใช้งาน สามารถต่อยอดแตกตัวแทนออกไปได้อีก ไม่ใช่เป็นการจำหน่ายแบบฉาบฉวยเสมือนแค่การนำผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ไปวางจำหน่ายแล้วก็ขายเท่านั้น
อย่างไรก็ดี ล่าสุดแบรนด์ยังได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดที่เป็นนํ้ามันหอมระเหยแบบสเปรย์ เพื่อความสะดวกในการใช้งาน จากเดิมที่จะใช้วิธีการหยดตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่เป็นผู้บริโภคยุคใหม่ อีกทั้งแบรนด์ยังมีแนวทางในการต่อยอดผลิตภัณฑ์ด้วยการนำเสนอให้ออกมาในรูปแบบของนํ้าหอมบำบัด ซึ่งหมายถึงว่าได้กลิ่นที่หอมด้วย และสามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้แทนสารเคมี เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมมากขึ้น
ด้านตลาดต่างประเทศนั้น ล่าสุดได้มีตัวแทนจำหน่ายซึ่งเป็นคนไทยนำผลิตภัณฑ์ไปจำหน่ายแล้วที่ประเทศบรูไน โดยอยู่ระหว่างการเจรจาทางธุรกิจกับตัวแทนจำหน่ายอีก 2 ประเทศ ได้แก่ อังกฤษและญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังได้มีการดำเนินการนำผลิตภัณฑ์ไปจำหน่ายบนเว็บไซต์เถาเป่า (www.Taobao.com)
เน้นโตทีละสเต็ปอย่างยั่งยืน
คัทรินทร์ บอกต่อไปอีกว่า แบรนด์ไม่ได้มีการตั้งเป้าทางธุรกิจเป็นตัวเลข เพราะในความเป็นจริงถือว่าไม่ถูกต้องทางธุรกิจ แบรนด์หวังแค่เพียงจะทำการสื่อสารเรื่องของธุรกิจดังกล่าวนี้ให้กระจายออกไปได้กว้างขึ้น มีการจัดทำเว็บไซต์เพื่อให้ความรู้ และมีการสร้างการรับรู้ให้กับลูกค้า โดยมองว่าการสร้างยอดขายและการสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องจะต้องดำเนินไปคู่กัน
“วันนี้แม้ธุรกิจของเราจะไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากมายเท่าใดนัก แต่ก็สามารถที่จะดูแลครอบครัว และบุคคลที่รักได้อย่างไม่ต้องกู้หนี้ยืมสิน โดยแบรนด์ไม่มีโมเดลการขยายธุรกิจด้วยการกู้หนี้ แต่ต้องการจะก้าวไปอย่างช้าๆและมั่นคง เพราะเท่าที่สังเกตจะเห็นว่าธุรกิจใดก็ตามที่ต้องการโตแบบก้าวกระโดด เมื่อวันหนึ่งต้องการยอดจำนวนมากก็จะต้องไปลดคุณภาพของผลิตภัณฑ์ เราไม่ต้องการให้เป็นแบบนั้นกับแบรนด์ชมภิญญ์ แต่ต้องการก้าวไปทีละสเต็ปอย่างมั่นคงและเสถียร กำไรอาจจะไม่ได้มีมากแต่มาจากการมีลูกค้าที่ใช้ดีแล้วบอกต่อ และมีการซื้อเรื่อยๆ”
คัทรินทร์ บอกทิ้งท้ายว่า ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์จะมุ่งเน้นไปที่การทำให้เกิดความสุขตั้งแต่เริ่มตื่นนอนจนถึงการกลับสู่ห้องนอน เพราะตระหนักได้ว่าความสุขมีความสำคัญกับชีวิต โดยเลือกใช้นํ้ามันเป็นหลักและนำสารอโรมา เข้ามาเกี่ยวข้อง ผ่านการสกัดจากพืชมาสร้างให้เป็นผลิตภัณฑ์ ตามสโลแกน กำเนิดจากความรัก สกัดจากธรรมชาติ
หน้า 8 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,517 วันที่ 27 - 30 ตุลาคม พ.ศ. 2562
