ไฮไลต์ถก6เวทีใหญ่ ดันอาเซียนค้าดิจิทัล

28 ต.ค. 2562 | 07:30 น.

 

เปิดไฮไลต์ประเด็นด้านเศรษฐกิจชงผู้นำอาเซียนถก 6 เวทีใหญ่ ช่วงอาเซียนซัมมิท วงอาเซียน-จีน อาเซียน-ญี่ปุ่น อาเซียน-อินเดีย ดันอัพเกรดเปิดเสรีค้าลงทุนเพิ่ม “สแตนลีย์ คัง” หวังเห็นศก. ดิจิทัลขับเคลื่อนภูมิภาคสู่อนาคต

การประชุม สุดยอดอาเซียน หรืออาเซียนซัมมิทครั้งที่ 35 ที่ไทยในฐานะประธานอาเซียนจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม-4 พฤศจิกายน 2562ไฮไลต์หลักจะอยู่ในวันที่ 3-4 พฤศจิกายนที่จะมีการประชุมสุด ยอด (ระดับผู้นำ) ในหลายเวที ได้แก่ อาเซียน-จีน, อาเซียน-อินเดีย, อาเซียน+3, อาเซียน-สหรัฐฯ และการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก ซึ่งแต่ละเวทีมีไฮไลต์ประเด็นด้านเศรษฐกิจที่เตรียมหารือไว้แล้ว

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ประเด็นด้านเศรษฐกิจที่รัฐมนตรีเศรษฐกิจของอาเซียนได้คุยกันไว้ในเบื้องต้น เพื่อนำเสนอให้ผู้นำอาเซียนหยิบยกขึ้นหารือกับคู่เจรจาในแต่ละเวทีได้วางไว้คร่าวๆ แล้ว โดยเวทีการประชุมสุดยอดอาเซียน-จีน ประเด็นหารือสำคัญได้แก่ การยกระดับความตกลงการค้าเสรี(เอฟทีเอ)อาเซียน-จีนเพื่อเปิดเสรีและลดภาษีเพิ่มเติม รวมถึงการสนับสนุนความเชื่อมโยงข้อริเริ่ม BRI (หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน)กับแผนแม่บทว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน

เวทีสุดยอดอาเซียน-อินเดีย ประเด็นการทบทวนความตกลงการค้าสินค้าภายใต้เอฟทีเออาเซียน-อินเดีย เพื่อให้มีการเปิดเสรีและลดภาษีเพิ่มเติม, เวทีสุดยอดอาเซียน+ 3 (อาเซียนบวกจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้) ประเด็น สนับสนุนระบบการค้าพหุภาคีที่เปิดกว้าง ครอบคลุม โปร่งใสและยึดตามกฎระเบียบขององค์การการค้าโลก(WTO) และการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค(RCEP)

เวทีสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ ประเด็นเรื่องการค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์(อี-คอมเมิร์ซ) การค้า ดิจิทัล (digital trade) และการให้ความช่วยเหลืออาเซียนเรื่องการเชื่อมโยงระบบอิเล็กทรอ นิกส์ ณ จุดเดียวของอาเซียน(ASEAN Single Window) , เวทีสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น ประเด็นการบังคับใช้พิธีสาร เพื่อแก้ไขความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจอาเซียน-ญี่ปุ่น(AJCEP) เพื่อเปิดเสรีบริการ การเคลื่อนย้ายบุคคลธรรมดา และการลงทุน(เดิมมีแต่เรื่องการเปิดเสรีสินค้า)

ส่วนเวทีสุดยอดเอเชียตะวันออก (อาเซียน+8) ประเด็นการเตรียมพร้อมสำหรับการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 (4IR)

“ในทุกเวทีเจรจาที่เกี่ยวเนื่องครั้งนี้คาดหวังผู้นำจะได้รับทราบว่าอาเซียนมีความร่วมมือกับประเทศคู่เจรจาอย่างไรบ้าง ที่ทำไปแล้วมีอะไรบ้าง และที่ต้องเร่งดำเนินการมีอะไรบ้าง”

ไฮไลต์ถก6เวทีใหญ่  ดันอาเซียนค้าดิจิทัล

นายสแตนลีย์ คัง ประธานหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย (JFCCT) เผยว่า JFCCT มีกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการประชุมครั้งสำคัญนี้ในฐานะพลังขับเคลื่อนของภาคเอกชน โดยจะเข้าร่วมกิจกรรมการสัมมนาผู้นำธุรกิจอาเซียน ASEAN Business and Investment Summit: ABIS) ในวันที่ 2-3 พฤศจิกายน 2562 และการประชุมผู้นำธุรกิจแห่งภูมิภาคอินโด-แปซิฟิค

“การประชุมซัมมิทที่จะถึงนี้จะมีก้าวย่างไปข้างหน้าอีกหนึ่งก้าวสำคัญ นั่นคือการบรรลุความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ อาร์เซ็ป(อาเซียน+ 6) ที่จะเป็นตลาดเสรีที่ใหญ่มากขึ้นกว่าอาเซียน
เดิม หากเกิดขึ้นได้ตามเป้าหมายอย่างเร็วที่สุด จะทำให้การค้าและการลงทุนในภูมิภาคเพิ่มพูนมากขึ้น”

นอกจากเรื่องอาร์เซ็ปแล้ว ธุรกิจเอกชนยังอยากขอให้ภาครัฐขับเคลื่อนเรื่องเศรษฐกิจดิจิทัล และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งไทยเองก็กำลังขับเคลื่อนไปสู่ทิศทางที่ดี มีการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานรุดหน้าเป็นลำดับ สิ่งเหล่านี้ล้วนเอื้อต่อการพัฒนาบรรยากาศการค้าและการลงทุน ยกตัวอย่างในต้นปีหน้า (2563) ไทยกำลังจะเปิดประมูลโครงการสื่อสารระดับ 5G ที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เรื่องนี้ไม่เพียงจะทำให้โครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารของไทยทันสมัยและก้าวหน้ามากขึ้น แต่การเปิดประมูลยังจะช่วยกระตุ้นบรรยากาศของการลงทุนใหม่ๆ จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวตามไปด้วย

หน้า 1 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,517 วันที่ 27 - 30 ตุลาคม พ.ศ. 2562

ไฮไลต์ถก6เวทีใหญ่  ดันอาเซียนค้าดิจิทัล