ททท.สแกนท่องเที่ยว ลดเป้ารายได้ ปี63 โต8%

การท่องเที่ยวของไทยในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ จากปัจจัยลบรุมเร้าหลายเรื่อง ทั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และการแข็งค่าของเงินบาท ทำให้ตลอดทั้งปีนี้ยังจะเป็นไปตามเป้าหรือไม่ และในปีหน้าจะเป็น อย่างไร อ่านได้จากสัมภาษณ์
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

มั่นใจต่างชาติเที่ยวไทย39.8ล.

แม้การท่องเที่ยวของไทยในปีนี้จะมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบ ในหลายเรื่อง แต่ผมให้นโยบายแก่สำนักงาน ททท.ทั้ง 29 แห่งในต่างประเทศไปแล้วว่าสำหรับตลาดที่มีแนวโน้มติดลบ ก็พยายามทำตลาดโดยรักษาการเติบโตของนักท่องเที่ยวต่างชาติตลอดทั้งปีนี้ ให้เทียบเท่ากับปีที่ผ่านมาให้ได้

แล้วไปเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวในตลาดที่มีการเติบโตดี เพื่อขับเคลื่อนจำนวนนักท่องเที่ยว ต่างชาติเที่ยวไทยตามเป้าหมายที่รัฐบาลวางไว้ที่ 39.8 ล้านคน

“ดูจากสถานการณ์ตลาดในแต่ละภูมิภาค ตลาดที่มีแนวโน้ม ติดลบบ้าง อย่างในเอเชีย เช่น สิงคโปร์ ออสเตรเลีย ตลาดยุโรป เช่น สตอกโฮล์ม สแกนดิเนเวีย อิตาลี ตลาดตะวันออกกลาง เช่น อิหร่าน ตลาดเหล่านี้ต้องรักษาการเติบโตให้เท่ากับปีที่ผ่านมา ส่วนตลาดอื่นถึงสิ้นปีมีโอกาสสูงกว่าเป้า อาทิ  ตลาดสหรัฐอเมริกา โต 5-10% อินเดียโต 20%”

ดังนั้นในแง่ของจำนวนนักท่องเที่ยวดูแล้วปีนี้คิดว่าเป็นไป ตามเป้า ซึ่งตั้งแต่เดือนมกราคม- วันที่ 14 ตุลาคม 2562 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวไทยแล้ว กว่า 30 ล้านคน

ส่วนในแง่ของรายได้จากการท่องเที่ยว ต้องยอมรับว่าเงินบาทแข็งค่า เมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่น ก็ทำให้ต้นทุนในการเดินทางมาเที่ยวไทยของนักท่องเที่ยวต่างชาติมีสูงขึ้น แต่ททท.ก็จะพยายามกระตุ้นการใช้จ่ายในกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง และกระตุ้นไทยเที่ยวไทย เพื่อขับเคลื่อนรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งตลาดต่างชาติและไทยเที่ยวไทยอยู่ที่ 3.1 ล้านบาท

ตีฆ้องถึงเวลาทัวร์ให้ทั่วไทย

ในปีนี้คนไทยเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งเดิมคาดว่าอยู่ที่ 170 ล้านคนครั้ง แต่ตอนนี้คิดว่าไม่ตํ่ากว่า 180 ล้านคนครั้ง ซึ่งจะเห็นว่าตอนนี้ไทยมีรายได้จากตลาดในประเทศอยู่ในสัดส่วน 36% แล้ว ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ที่เรามองไว้แล้วว่าตลาดต่างประเทศจะไม่โตหวือหวา ทำให้ที่ผ่านมาจึงให้ความสำคัญกับตลาดในประเทศเพิ่มมากขึ้น

ทั้งยังกระตุ้นการเที่ยวในประเทศต่อเนื่อง ซึ่งไม่เพียงมาตร การชิมช้อปใช้ ในส่วนของททท.ก็ยังจะเปิดตัวโครงการถึงเวลาทัวร์ให้ทั่วไทย ซึ่งประกอบไปด้วย “โครงการ 100 เดียวเที่ยวทั่วไทย” (4 หมื่นรายการ) และ “โครงการวันธรรมดาราคา shockโลก” (มอบส่วนลดสูงสุด 80%) ภายใต้งบประมาณ 116 ล้านบาท

โดยโครงการ 100 เดียวเที่ยวทั่วไทยจะเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนใน วันที่ 11 พฤศจิกายน, วันที่ 12 พฤศจิกายน, วันที่ 11 ธันวาคม และวันที่ 12 ธันวาคม ผ่านเว็บไซต์ของททท. www.tourismthailand.org เพื่อให้ เดินทางเที่ยวได้ภายในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมนี้

ทั้ง 2 โครงการนี้คาดว่าจะ กระตุ้นการเดินทางไม่ตํ่ากว่า 6 หมื่นคน และทำให้คนไทยเดินทาง เที่ยวในประเทศแทนตัดสินใจไปเที่ยวต่างประเทศในช่วงดังกล่าว

ทำให้ตลอดทั้งปีนี้คาดว่ารายได้จากไทยเที่ยวไทย เพิ่ม จาก 1.05 ล้านล้านบาท เป็น 1.12 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 10-20% ซึ่งหากรวมกับรายได้จากตลาดต่างประเทศ 2.04 ล้านล้านบาทก็จะเป็นไปตามเป้า 3.1 ล้านล้านบาท

เป้าต่างชาติ41.8ล.คนปี63

สำหรับแนวโน้มในปีหน้าดูแล้วอาจจะหนักหนาพอสมควร เพราะธนาคารโลกก็คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะโตราว 3% อีกทั้งยังต้องจับตาดูการแข็งค่าของเงินบาท ทั้งปีหน้าจะมีหลายกิจกรรมเกิดขึ้นในโลก ไม่ว่าจะเป็นกีฬาโอลิมปิกที่ญี่ปุ่น การเติบ โตของตลาดเวียดนาม มาเลเซีย จัดวิสิตมาเลเซีย 2020 และจีนหันมากระตุ้นให้คนจีนเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้น ปัจจัยเหล่านี้กระทบต่อการท่องเที่ยวของไทยพอสมควร

ทั้งนี้ในปีหน้ารัฐบาลตั้งเป้าหมายเพิ่มจำนวนนักท่อง เที่ยวต่างชาติอยู่ที่ 41.8 ล้านคน ส่วนรายได้ททท.มองไว้ที่ 2.22 ล้านล้านบาท ไม่รวมการท่องเที่ยวในประเทศ

ลดการเติบโตรายได้เหลือ8%

จากการแข่งขันที่สูงมากในปีหน้า รวมถึงการคาดการณ์ขององค์การการท่องเที่ยวโลก (UNWTO) ที่คาดว่าการท่องเที่ยวของภูมิภาคเอเชียจะเติบโตไม่เกิน 7% ทำให้ททท.ต้องหันมาปรับทิศทางการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวของไทยให้อิงกับสภาพความเป็นจริงของโลก และงบประมาณที่ททท.ได้รับ ซึ่งงบประมาณปี 2563 ถูกตัดงบไปกว่าพันล้านบาทด้วย ทำให้ในปี 2563-2564 ททท. จะมีการปรับลดการเติบโตของรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งตลาดต่างชาติและไทยเที่ยวไทย จากเดิม ที่ตั้งไว้ว่าจะโต 10% เหลือโต 8%

ภายใต้โจทย์ที่รมว.การท่องเที่ยวฯวางไว้ว่า “ไทยแลนด์ 365” คือ 1. สร้างรายได้จากไทยเที่ยวไทย ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของ รายได้จากการท่องเที่ยวทั้งหมด 2. ทำรายได้จากการท่องเที่ยวของ ไทยติดอันดับ 1 ใน 6 ของโลก 3. เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 5% จาก 39.8 ล้านคนในปีนี้เพิ่มเป็น 41.8 ล้านคนในปีหน้า

ยุทธศักดิ์ สุภสร

สร้างจุดขายททท.ครบ60ปี

ส่วนกลยุทธ์ในปีหน้าททท.จะโปรโมตครบรอบ 60 ปีมาเป็นจุดขาย โดยสำหรับตลาดต่างประเทศจะจัดทำโครงการ The Best Trip in the world to Thailand ที่จะเริ่มในเดือนมีนาคมปีหน้า โดยจะเปิดรับสมัคร 60 คู่ให้เดินทางมาเที่ยวไทยในแบบสุดหรู เน้นนำเสนอโปรดักต์ลักชัวรี ให้มาเที่ยวฟรีพักฟรี

ททท.จะหารือกับการบินไทยในการสนับสนุนตั๋วเครื่องบินชั้นเฟิสต์คลาส และขอสนับสนุนจากผู้ประกอบการต่างๆ ซึ่งเราจะ คัดเลือกกลุ่มที่มีคนติดตามมากในโลกออนไลน์ หรือโดดเด่นในเซ็กเมนต์ที่เราต้องการ เพื่อให้การมาทริปที่ดีที่สุดในโลกที่ไทย ได้รับการโปรโมตและได้อิมแพ็กต์ในการทำประชาสัมพันธ์

ส่วนการเจาะตลาดคนไทย ในช่วงครบรอบ 60 ปีของททท.จะเน้นทำกิจกรรมเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมหรือกรีน แอกติวิตี

ทั้งหมดเป็นภาพรวมการท่องเที่ยวไทยในปีหน้าและทิศ ทางที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า

สัมภาษณ์ โดย ธนวรรณ วินัยเสถียร

หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,515 วันที่ 20-23 ตุลาคม 2562