‘พีน่าเฮาส์’ ปรับแผน เล็งยกเครื่องเอาท์เลต

“พีน่า เฮาส์” ปรับโรดแมปรับสภาพเศรษฐกิจชะลอตัว เบนเข็มโฟกัส 2 กลุ่ม “คาแรกเตอร์-อิมปอร์ตแบรนด์” พร้อมลดโลคัลแบรนด์ หลังผู้บริโภคจับจ่ายน้อยลง เตรียมนำเข้าสปอร์ตแฟชั่นเสริมทัพ เล็งยกเครื่องใหญ่ “พรีเมี่ยม เอาท์เล็ท” ครั้งแรกรอบ 20 ปี

                    นัสวีร์ ตันติจิรสกุล

นางสาวนัสวีร์ ตันติจิรสกุล รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท พีน่า เฮาส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิต นำเข้า และจัดจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกายมากมาย อาทิ แบรนด์พีน่า (Pena) เทนแอนด์โค (Ten & Co.) แกลลอป, ดอช, ทิมเบอร์แลนด์, DC Super Heroes และผู้บริหารศูนย์การค้า พรีเมี่ยม เอาท์เล็ท เปิดเผยว่า ยุทธศาสตร์การดำเนินงานของบริษัทนี้จะให้ความสำคัญใน 2 กลุ่มหลักได้แก่ กลุ่มธุรกิจคาแรกเตอร์ และอิมปอร์ต แบรนด์ โดยจะให้ความสำคัญกับการเติบโตอิงไปกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อเป็นหลัก จากเดิมที่บริษัทมีการดำเนินธุรกิจใน 3 กลุ่มได้แก่ กลุ่มธุรกิจคาแรค เตอร์, โลคัลแบรนด์ และอิมปอร์ตแบรนด์ โดยจะลดแผนงานในส่วนของโลคัลแบรนด์ เนื่องจากกลุ่มธุรกิจดังกล่าวมีกลุ่มลูกค้าหลักที่เป็นคนไทยและจากช่วงที่ผ่านมา สภาพเศรษฐกิจกำลัง ซื้อที่ชะลอตัวของไทย ทำให้ลูกค้าและการจับจ่ายลดลง ซึ่งในปีนี้มีแผนใช้งบลงทุนราว 50-60 ล้านบาท ในการขยายสาขาแบรนด์ในเครือ

“ต้องยอมรับว่าปีนี้สภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อค่อนข้างชะลอตัว ทำให้บริษัทมีการปรับแผนงานหลายอย่าง โดยปีนี้จะปรับลดการทำตลาดในกลุ่มโลคัลแบรนด์ลง เนื่องจากผู้บริโภคมีการชะลอตัวค่อนข้างมาก”

ขณะที่ในกลุ่มธุรกิจคาแรกเตอร์บริษัทเปิดตัวร้าน DC Super Heroes (ดีซี ซุปเปอร์ ฮีโร่) โดยปัจจุบันเปิดบริการ 3 สาขา ใช้เงินลงทุนกว่า 10 ล้านบาทต่อสาขา เปิดที่เทอร์มินัล 21 พัทยา, เมญ่า เชียงใหม่, ไอคอนสยาม และเตรียมเปิดสาขาภูเก็ต ภายในไตรมาสแรกปีหน้า จำหน่ายสินค้าลิขสิทธิ์ซูเปอร์ฮีโร่ดังค่ายดีซี คอมมิคส์ อาทิ แบทแมน, ซูเปอร์แมน ฯลฯ โดยได้รับลิขสิทธิ์จาก “วอร์เนอร์ บรอส คอนซูมเมอร์ โปรดักส์” มีสินค้าครอบคลุมเสื้อผ้า ของใช้ในบ้าน ของสะสม ตุ๊กตา โดยมีแผนการขยายสาขาร้านดีซี ซุปเปอร์ ฮีโร่ อีก 2-3 สาขา ภายใน 2 ปีข้างหน้า เน้นทำเลเมืองท่องเที่ยว เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติที่มีกำลังซื้อสูง

นอกจากนี้ยังมีแผนยกเครื่องใหญ่ในกลุ่มธุรกิจพรีเมี่ยม เอาท์เล็ท ในปี 2563 ซึ่งถือเป็นการปรับทัพครั้งใหญ่ในรอบ 20 ปี ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท เอาท์เล็ท มอลล์ จำกัด ซึ่งถือเป็นบริษัทในเครือ ทั้งในส่วนของการปรับแผนการดำเนินงาน เพื่อเป็นการรองรับการแข่งขันในธุรกิจเอาต์เลตของเมืองไทยที่มีการแข่งขันสูงขึ้น ในช่วงที่ผ่านมา โดยเบื้องต้นอยู่ในช่วงการดำเนินงานเพื่อปรับแผนงานกลุ่มธุรกิจดังกล่าวใหม่ โดยวางเป้าหมายระยะยาวในปี 2565 สามารถสร้างรายได้ในกลุ่มธุรกิจเอาต์เลตเพิ่มเป็น 800 ล้านบาท จากปีนี้ที่คาดการณ์ว่าจะปิดรายได้ที่ 480 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามบริษัทวางเป้าหมายโดยภาพรวมทั้งกรุ๊ปไว้ที่กว่า 5,000 ล้านบาท หรือมีการเติบโตเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีที่ผ่านมาที่ปิดรายได้ 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ที่มาจากกลุ่มธุรกิจคาแรกเตอร์ 40%, โลคัลแบรนด์ 40% และอิมปอร์ตแบรนด์ 20%  

หน้า 32 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3508 ระหว่างวันที่ 26 - 28  กันยายน 2562