‘ประวิตร’ เคาะงบ 1.5 หมื่นล้าน ประกันรายได้ชาวสวนปาล์ม

เปิดตัวเลขสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบ 4.5 แสนตัน บอร์ดเกษตรกรโวยพาณิชย์ กังขาโผล่มาจากไหน ดัน กฟผ.เร่งโครงการปาล์มปั่นกระแสไฟซื้อต่อ 1.3 แสนตัน ยังสำรองเพิ่มไว้ 1 แสนตันฉุกเฉินเผื่อราคาไม่ขยับตามเป้าหมายพ้น 4 บาทต่อกก.  2 ตัวแทนเกษตรกรประกาศข่าวดี 3 แสนรายสำหรับคนที่ปลูกปาล์มทั้งประเทศเข้าร่วม ยกเว้นคนปลูกใหม่

วันที่ 19 ส.ค.62  นายพันศักดิ์ จิตรรัตน์ ประธานคณะกรรมการด้านปาล์มน้ำมันและพืชพลังงาน สภาเกษตรกรแห่งชาติ และกรรมการในคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ผลจากการประชุมเมื่อวันที่  7 สิงหาคมที่ผ่านมา สรุปประชุมภาคีเกี่ยวข้องตลอดห่วงโซ่อุปทานในการบริหารปาล์มน้ำมันทั้งระบบ  โดยมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในที่ประชุม

นำเสนอผ่านประชุม กนป.ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและในฐานะประธานคณะกรรมการฯ ได้แก่ เร่งดำเนินการประกันรายได้ให้เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน 18% ที่ 4 บาทต่อกิโลกรัม ช่วยเหลือเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตรทุกครัวเรือน ในพื้นที่ไม่เกิน 25 ไร่ ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตร จำนวน 3 แสนราย เป็นพื้นที่ปลูกต้นปาล์มที่ให้ผลผลิตแล้ว อายุมากกว่า 3 ปี คาดว่าจะใช้งบประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท

รวมถึงมาตรการอื่นๆ มอบหมายให้กรมการค้าภายในพิจารณาแนวทางติดเครื่องวัดปริมาณน้ำมันปาล์ม ประกาศบี 10 เป็นมาตรฐานบังคับภายในเดือนพฤศจิกายน 2562 และเพิ่มการใช้บี 20 และเร่งรัดร่าง พ.ร.บ.ปาล์มน้ำมันให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว พร้อมกับเร่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ปฎิรูปปาล์มน้ำมัน ปี 2561-2580

ด้านนายอธิราษฎร์ ดําดี กรรมการ กนป. กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ รายงานสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบ 4.5 แสนตัน รู้สึกตกใจว่าตัวเลขโผล่มาจากไหน อีกด้านก็เร่งให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิดแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เดินหน้าต่อโครงการใช้น้ำมันปาล์มดิบเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้าตามเป้าหมายที่เหลืออีก 1.3 แสนตัน และอนุมัติสำรองไว้อีก 1 แสนตัน หากราคาปรับลงจะได้เดินหน้าโครงการต่อเนื่อง เผื่อไว้สำรองกรณีฉุกเฉินจะได้ไม่ต้องเสียเวลามาประชุมอนุมัติบ่อย อย่างไรก็ตามทาง กฟผ.ขอเวลา 2 สัปดาห์ คาดว่าจะเป็นการซื้อราคาชี้นำตลาดเพื่อให้ราคาผลปาล์มขยับขึ้น

ทั้งนี้การกำหนดรายได้ที่เหมาะสมสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันที่ 4 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) หรือตันละ 4,000 บาท จะใช้เกณฑ์ต้นทุนการผลิตเฉลี่ยทั้งประเทศ กก.ละ  3 บาท บวกค่าขนส่ง 25 สตางค์ และผลตอบแทนให้เกษตรกร 23% คิดเป็นกิโลกรัมละ 75 สตางค์ ส่วนการคำนวณผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ต่อปี ปี 2562 สศก. คำนวณ 2 สูตร ก็คือ ใช้อัตราผลผลิตเฉลี่ยทั้งประเทศ 3,083 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี เท่ากันทุกราย หรือใช้อัตราผลผลิตเฉลี่ยรายจังหวัด ยังไม่ได้เคาะความชัดเจน เพราะจะต้องแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกำหนดราคาตลาดอ้างอิงปาล์มน้ำมันเพื่อทำหน้าที่พิจารณาหลักเกณฑ์การกำหนดราคาตลาดอ้างอิง เพื่อใช้ในการคำนวณการจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างระหว่างอัตราประกันรายได้กับราคาตลาดอ้างอิงให้แก่เกษตรกร โดยให้กำหนดราคาตลาดอ้างอิงเท่ากันสำหรับทุกจังหวัดกับแหล่งผลิต

องค์ประกอบของคณะอนุกรรมการอธิบดีกรมการค้าภายในเป็นประธานอนุกรรมการ ประกอบด้วยผู้แทนจากภาครัฐ เกษตรกร และเอกชน ได้แก่ สศก. กรมส่งเสริมการเกษตร ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สภาเกษตรกรแห่งชาติ สมาคมโรงสกัดน้ำมันปาล์ม ผู้อำนวยการกองส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตร 1 กรมการค้าภายในอนุกรรมการและเลขานุการ