‘วุฒิ’ หลังชนฝาเดินหน้าลุยขออาชีพประมงคืน
วิบากกรรมประมงไทยปะทุเดือด สู้มา 2 ปี 4 เดือนไร้การเหลียวแลทั้งที่ไม่มีความผิด ศาลยกฟ้อง ซ้ำร้ายโดนกรมประมงยึดใอนุญาตทำการประมง จำต้องขายบ้านหอบเสื้อผ้าพร้อมลูกเมียมาอยู่กับพ่อกับแม่ เผยตัดสินใจก้าวเดินมุ่งหน้าสู่กรุง จากระนอง 30 กม.โดนสกัด 'รองผู้ว่าฯ-อธิบดีกรมประมง' เบรก เร่งหาทางช่วยเหลือ ยังไม่วางใจปลุกทั้งประเทศลุกฮือสู้ความอยุติธรรม
ย้อนไปเมื่อเดือนเมษายน 2558 สหภาพยุโรป (อียู) ให้ใบเหลืองประเทศไทยจากปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุม (IUU) หน่วยงานต่าง ๆ ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มีการแก้ปัญหาอย่างเข้มข้น ทั้งจัดระเบียบกองเรือประมงใหม่ ผ่านกฎหมายกฎกระทรวงกว่า 300 ฉบับ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ได้รับคำชื่นชมจากนานาประเทศ และในที่สุดไทยก็ปลดใบเหลืองสำเร็จเมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่ปัญหากฎหมายที่ออกกลับทำให้ชาวประมงในประเทศลำบาก ถูกจับกุมดำเนินคดี และสูญอาชีพชาวประมง แต่บางคนก็ยังอดทนเพราะไม่รู้ว่าจะไปเริ่มต้นทำอาชีพอะไร
นายวุฒิ พิบูลรุจนานนท์ ผู้ประกอบการชาวประมง จังหวัดระนอง เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” สาเหตุที่ตัดสินใจก้าวเดินมุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ เพื่อทวงอาชีพของตัวเองคืน จากระนอง ก็เดินมาได้ระยะทางกว่า 30 กิโลเมตร ทางรองผู้ว่าราชการจังหวัดระนองมาพบและนายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง ได้โทรมาคุยแล้วขอร้องให้หยุดเดิน นัดกันในวันจันทร์ที่ 5 ส.ค.มาคุยเพื่อเคลียร์ทำความเข้าใจกันโดยจะส่งนักกฎหมายของกรมประมงมาพบมาเจรจาเบื้องต้นก่อนว่าจะแก้ปัญหากันอย่างไร
“ตั้งแต่ปี 2558 ก็มีใบอนุญาตประมงพาณิชย์ทำการประมงได้ปกติแล้วก็ทำถูกต้องทุกอย่าง แต่เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2560 มีหนังสือมาถึง และโทรศัพท์จากตำรวจ สน.บางเขนจะมาขอสอบปากคำเรื่องเรือลุกล้ำน่านน้ำประเทศเพื่อนบ้าน แล้วก็มาสอบปากคำวันที่ 23 มีนาคม 2560 ว่ามีหนังสือจากกรมประมงไปร้องทุกข์กล่าวโทษว่าเรือรุกล้ำประเทศเมียนมา ตั้งแต่ พ.ค.-มิถุนายน 2559 จำนวน 4-5 ครั้ง แสดงว่า ถูกตรวจวีเอ็มเอสย้อนหลัง เพราะปี 2559 ก็ยังทำการประมงอยู่เลย ในจังหวัดระนองโดนทั้งหมด 5 ลำ ส่งอัยการ แล้วฟ้องศาล”
นายวุฒิ กล่าวว่า ต่อสู้ในศาลประมาณ 1 ปี ส่วนเรือประมงก็ยังต่อใบอนุญาตปกติ แต่เรือยังอยู่ในชั้นศาล เสียเงินไปกว่า 4 หมื่นบาท หลังจากนั้นกรมประมงมาตรวจสอบว่าเรือผมอยู่ในระหว่างการดำเนินคดี กรมประมงก็มีหนังสือมาแจ้งแล้วเพิกถอนใบประมงพาณิชย์ อีกด้านหนึ่งศาลยกฟ้อง ผมก็นำหนังสือไปที่กรมประมง ทางกรมประมงก็แจ้งว่าไม่สามารถออกทำการประมงให้ได้ ใช้ระยะเวลาคดี 2 ปี 5 เดือน วันนี้ก็ออกไม่ได้ ต้องจ่ายค่าจอดเรือเดือนละ 4 หมื่นบาท
“วันนี้จุดประสงค์ของผมไม่ได้ทำเพื่อผมคนเดียว ผมจะทำเพื่อชาวประมงที่เดือดร้อนเหมือนผมมีอีกจำนวนมาก และตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่มีรายได้เลยสักบาทเดียวเข้าครอบครัว มีแต่รายจ่าย จนท้ายสุดต้องขายบ้าน แล้วต้องหอบลูกภรรยามาพักบ้านพ่อกับแม่ ถึงที่สุดแล้วต้องร้องหาความยุติธรรม ใจจริงผมอยากเดินให้ถึง เพราะไม่ใช่แค่ 3 เดือน หรือ 6 เดือน ดังนั้นอยากจะฝากถึงพี่น้องชาวประมงหากเดือดร้อนขอให้ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม อย่าไปผูกคอตาย หรือกัดก้อนเกลือกินออกมาสู้กันเถอะ ยิ่งทุกคนออกมาสู้จะเป็นข้อต่อรองให้กับรัฐบาลได้ แต่ถ้าทุกคนยอมก็จะต้องตายไปเรื่อยๆ"