หัวเว่ย บุกหนัก 5G อวดมีสัญญาอยู่ในมือ 50 ฉบับ

26 มิ.ย. 2562 | 05:17 น.

นายไรอัน ติง กรรมการบริหารและประธานบริหาร กลุ่มธุรกิจโทรคมนาคม ของหัวเว่ย กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ “Industries + 5G, Enabling New Growth”  (อุตสาหกรรม + 5G  ขับเคลื่อนการเติบโตรูปแบบใหม่)ในงาน MWC Shanghai 2019 ระหว่างวันที่ 26-28 มิถุนายน จัดขึ้นที่นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน

“ขณะนี้ หัวเว่ยมีสัญญา 5G เชิงพาณิชย์แล้วกว่า 50 ฉบับ และได้นำส่งสถานีฐานไปแล้วกว่า 150,000 ชุด”  

อย่างไรก็ตามทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญอย่างมากกับการนำ 5G มาใช้ในเชิงพาณิชย์  ตั้งแต่ครึ่งปีแรก มีหลาย ๆ ประเทศ ทั้งเกาหลีใต้ สหราชอาณาจักร สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี และคูเวต ได้เปิดตัวเครือข่าย 5G เชิงพาณิชย์แล้ว 

“หัวเว่ย เป็นผู้สร้างเครือข่ายให้กับ 2 ใน 3 ของประเทศเหล่านี้  อุตสาหกรรมต่าง ๆ กำลังเริ่มนำ 5G เข้ามาใช้ และเทคโนโลยี 5G เองก็เริ่มมีบทบาทโดดเด่นในการผลักดันให้เกิดกระบวนการปรับเปลี่ยนด้านดิจิทัลอย่างครอบคลุม และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับหลาย ๆ อุตสาหกรรม   โซลูชั่นแบบแยกส่วนและแบบครบชุดของหัวเว่ยจะส่งเสริมให้โอเปอเรเตอร์มีจุดยืนที่แตกต่างในการสร้างเครือข่าย 5G เชิงพาณิชย์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ครอบคุลมการใช้งานและประหยัดพื้นที่การติดตั้ง ที่จะช่วยขับเคลื่อนให้เกิดการเติบโตอย่างต่อเนื่อง”

เทคโนโลยี 5Gกำลังนำเทคโนโลยี VR, AR และบริการวิดีโอแบบ Ultra-HD ต่าง ๆ ไปสู่ Mobile Video รุ่น 3.0 หลังจากที่มีการเปิดใช้งาน 5G เชิงพาณิชย์ในประเทศเกาหลีใต้ได้สองเดือน พบว่าจำนวนผู้ใช้ 5G ได้เพิ่มขึ้นเป็นหนึ่งล้านคน โดยมีค่าเฉลี่ยการใช้งานต่อวันอยู่ที่ 1.3 กิกะไบท์ต่อคน โดยรายได้เฉลี่ยของผู้ใช้หนึ่งคน (Average Revenue Per User: ARPU) ในเครือข่าย 5G สูงกว่า 4G ประมาณ 75% แต่หากเทียบราคาต่อ 1 กิกะไบต์จะต่ำกว่า 4G ถึง 90% เท่ากับว่าผู้ใช้งานและผู้ให้บริการเครือข่ายต่างได้รับประโยชน์ทั้งคู่

นอกจากนี้ เทคโนโลยี 5G ยังรองรับอัตราการรับ-ส่งข้อมูลที่สูงเป็นพิเศษ จากเดิมถ่ายทอดสดทางทีวีนั้นจะต้องใช้รถติดตั้งอุปกรณ์ถ่ายทอดสดที่มีมูลค่าอย่างน้อยราว 80 ล้านหยวน (หรือกว่า 350 ล้านบาท) หลายคัน รวมถึงเจ้าหน้าที่หน้างานอีก 150 คนเพื่อบันทึก ตัดต่อ ส่งสัญญาณภาพและออกอากาศ

แต่ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปด้วยการออกอากาศผ่านระบบคลาวด์ ซึ่งมีราคาแพคเกจต่ำกว่า 10,000 หยวน (ราว 44,604 บาท) ประกอบด้วยอุปกรณ์รับส่งสัญญาณ 5G CPE และเจ้าหน้าที่ 5 คน ซึ่งเพียงพอแล้วสำหรับการออกอากาศ โดยจะมีการส่งวิดีโอแบบเรียลไทม์กลับไปที่สถานีโทรทัศน์ผ่านเครือข่าย 5G การออกอากาศจึงสามารถทำได้ทุกที่และทุกเวลา 

ด้านการดูแลความสงบเรียบร้อยนั้น  โดรน 5G สามารถเข้าถึงจุดเกิดเหตุได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ขัดต่อข้อจำกัดด้านการเข้าถึงพื้นที่ที่ไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่เข้าไป แล้วถ่ายวิดีโอความชัดระดับ 4K HD ส่งกลับไปที่ศูนย์ควบคุมในทันที เพื่อดำเนินการเฝ้าระวังและสั่งการจากส่วนกลาง เพื่อให้มั่นใจว่ารายละเอียดทุกอย่างได้บันทึกไว้อย่างครบถ้วน