6 มิ.ย.'มูลนิธิผู้บริโภค'นัดแฉโรงงานกะทิติดฉลากสวมแบรนด์ไทยขายลวงโลก
เครือข่ายมะพร้าวดัดหลังโรงงานกะทินัดมูลนิธิผู้บริโภคร้องสวมฉลากแบรนด์ไทย ทั้งที่นำเข้าจากเพื่อนบ้าน ชี้ต้องแยกฉลากให้ชัด เพื่อให้ผู้บริโภคได้เลือกว่าต้องการรับประทานของไทยหรือของเพื่อนบ้าน เพื่อความเป็นธรรม
นายพงษ์ศักดิ์ บุตรรักษ์ ผู้ประสานงานกลุ่มเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เผยกับ“ฐานเศรษฐกิจ” ในวันที่ 6 มิถุนายนนี้ ทางมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคได้นัดกับเครือข่ายชาวสวนมะพร้าว หลังได้ร้องเรียนให้มูลนิธิฯช่วยตรวจสอบสินค้ากะทิกล่องที่ผลิตจากโรงงานในไทยว่าเป็นน้ำกะทิ 100% หรือไม่ และมีสารอื่นชนิดใดเจือปนอยู่น้ำกะทิบ้าง สืบเนื่องจากเบาะแสจากผู้ผลิตกะทิกล่องให้ข้อมูลในการประชุมระหว่างตัวแทนเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวกับผู้ประกอบการโรงงานกะทิรายหนึ่งได้แจ้งข้อมูลในที่ประชุมให้ทราบว่า
“กะทิกล่องที่ผลิตจากมะพร้าวนำเข้าจากต่างประเทศได้กะทิคุณภาพด้อยกว่าต้องเติมสารปรุงแต่งได้แก่ แบะแซ น้ำมันปาล์ม เพื่อให้มีความเข้มข้น ความมันและรสชาติเหมือนกะทิที่ทำจากมะพร้าวไทย ถ้ากะทิกล่องจากมะพร้าวไทยไม่ต้องเติมสารปรุงแต่งใด ๆ ก็ได้กะทิคุณภาพดีมีรสชาติเข้มข้น และความมันเป็นที่นิยม ทั้งนี้ได้ตรวจพบสารฟอกขาว และสารกันบูด รวมทั้งการระบุแหล่งผลิตบนฉลากข้างกล่องกะทิกล่องว่า Thailand ผลผลิตจากประเทศไทยซึ่งถือเป็นการแสดงแหล่งผลิตบนฉลากเป็นเท็จหรือไม่
“การนำเข้ามะพร้าวจากต่างประเทศยังส่งผลให้มีการลักลอบนำเข้ามะพร้าวจำนวนมหาศาล ทำให้มะพร้าวไทยราคาตกต่ำ ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวเดือดร้อนอย่างหนัก จากการปฏิบัติหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์ รวมทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้อนุญาตนำเข้าสินค้ามะพร้าวและผู้ออกกฎหมาย หลักเกณฑ์ เงื่อนไขระเบียบการนำเข้ามะพร้าวร่วมมือกับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมผลิตกะทิกล่องและอาหารใช้มะพร้าวจากต่างประเทศจำนวนมหาศาลในกระบวนการผลิต
หากหน่วยงานรับผิดชอบการรักษาคุณภาพสินค้ากะทิกล่องทำให้เป็นสินค้าคุณภาพดีจากมะพร้าวไทย เชื่อว่าจะเพิ่มปริมาณการสั่งซื้อสินค้ามะพร้าวจากเกษตรของไทยในระยะยาวและยั่งยืน ส่งผลดีต่อรายได้ของเกษตรกรชาวสวนมะพร้าวไทยและเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้นเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวไทยจึงร้องเรียนมายังมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคดังนี้
1.ขอให้ตรวจสอบว่ากะทิที่กล่องผลิตจากโรงงานในประเทศไทย เป็นน้ำกะทิ 100% หรือไม่
2.ขอให้ตรวจสอบว่ามีสารเจือปนในกะทิกล่อง ได้แก่ แบะแซ น้ำมันปาล์ม สารฟอกขาว สารกันบูด และสารอื่นๆ หรือไม่ ชนิดใดบ้าง
3.ขอให้ตรวจสอบการแจ้งส่วนประกอบในน้ำกะทิบนฉลาก รวมทั้งระบุแหล่งผลิตของกะทิกล่องต่อผู้บริโภคเป็นจริง หรือไม่อย่างไร
4.ขอให้แจ้งผลการตรวจสอบเป็นหนังสือภายหลังจากการตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว โดยส่งตามชื่อและที่อยู่ข้างบน
