อีเวนต์ EVพรึบ!‘ลีฟ’หวังขายล็อตใหญ่
บูม!อีเวนต์ยานยนต์พลังงานไฟฟ้า ครึ่งปีแรกผุดเป็นดอกเห็ด เอกชน-รัฐบาลเร่งสร้างการรับรู้ในเทคโนโลยี พร้อมสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) รองรับการใช้งานในอนาคต ด้าน “นิสสัน” หวังขาย “ลีฟ”ล็อตใหญ่ เล็งเพิ่มดีลเลอร์ทำตลาด พร้อมแต่งตั้ง “เดลต้า” ให้เป็นผู้ติดตั้งจุดชาร์จไฟฟ้าตามบ้านและโชว์รูม 32 แห่งอย่างเป็นทางการ
ช่วง 2-3 ปีหลังที่ยานยนต์พลังงานไฟฟ้ากลายเป็นกระแสของโลก ซึ่งรัฐบาลไทยมุ่งหมายให้เกิดการผลิตและการใช้งานอย่างแพร่หลาย พร้อมต่อยอดและรักษาอุตสาหกรรมยานยนต์อันแข็งแกร่งเอาไว้
ในส่วนของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้รับการสนับสนุนเต็มๆเรื่องภาษีเงินได้นิติบุคคล และยกเว้นภาษีนำเข้าเครื่องจักร (ตามเงื่อนไขที่กำหนด) แต่การส่งเสริมให้คนไทยเป็นเจ้าของได้ง่าย มีเพียงภาษีสรรพสามิตที่ปรับลดลงมา เช่นไฮบริด เสียตํ่าสุด 4% และอีวี 0% (ช่วงโปรโมชัน) จากปกติ 2% ในกรณีที่มีการประกอบในประเทศพร้อมชิ้นส่วนสำคัญ (ถ้านำเข้าโดน 8%)
สำหรับรถพลังงานไฟฟ้า 100% “อีวี” หลายบริษัทผู้ผลิตรถยนต์มองว่า หากรัฐบาลอยากสร้างตลาดจริงๆ (สอดคล้องกับการสนับสนุนด้านการผลิต) ควรมีมาตรการส่งเสริมมากกว่านี้ ทั้งด้านการเงิน การอำนวยความสะดวกในการใช้งาน หรือสิทธิพิเศษเพิ่มเติม
“เรื่องราคารถยนต์ไฟฟ้าที่สูงเกินไปยังเป็นอุปสรรคในการกระตุ้นให้คนหันมาใช้อย่างจริงจัง จึงอยากให้ภาครัฐมีมาตรการจูงใจเข้ามาสนับสนุนทั้งด้านการ พัฒนาเทคโนโลยีในช่วงแรกที่มีต้นทุนสูง พร้อมกับกระตุ้นให้คนมีกำลังซื้อ เช่น การลดหย่อนภาษีให้มากขึ้น” นายยศพงษ์ ลออนวล นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย กล่าว
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการกระตุ้นกระแส “อีวี” ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ยังเห็นการเกิดขึ้นของอีเวนต์เกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ตลอดจนงานสัมมนาที่ภาคเอกชนและรัฐบาล พยายามสะท้อนให้เห็นถึงทิศทางใหม่ที่กำลังมาเคาะประตูบ้านคนไทย
ล่าสุด15 พฤษภาคมที่ผ่านมา แบรนด์รถยนต์ “เอ็มจี”เป็นเจ้าภาพ เปิดเวทีแลกเปลี่ยนมุมมองและความพร้อมของประเทศไทยต่อ “อีวี” ด้วยจัดสัมมนา “EVolution of Automotive”
“รถยนต์พลังงานไฟฟ้าเริ่มเข้ามาทำการตลาดในไทยมากขึ้น ประกอบกับการสนับสนุนของภาครัฐซึ่งมีนโยบายและแผนขับเคลื่อนด้านพลังงานที่จูงใจต่อภาคผู้ผลิต อาทิ การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล การยกเว้นอากรการนำเข้าชิ้นส่วนและอุปกรณ์ และยังมีมาตรการในการลดภาษีสรรพสามิตสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการลงทุนของ BOI ตลอดจนการขยายตัวของสถานีชาร์จ (EV Charger) มากขึ้น ทั้งจากการลงทุนของหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน เพื่อรองรับการขยายตัวของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นการสร้างระบบนิเวศของตลาดรถยนต์พลัง งานทางเลือกในประเทศไทยให้สมบูรณ์แบบ” นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
ทั้งนี้ “เอ็มจี”มีแผนนำเข้าเอสยูวี “แซดเอส”รุ่นขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% มาเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในเดือนมิถุนายนนี้ คาดราคาประมาณ 1.5 ล้านบาท
ส่วนงานใหญ่ที่จัดโดย “สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย” (EVAT) คือ Electric Vehicle Technology Conference and Exhibition (iEVTech2019) เริ่มเปิดฉาก วันที่ี 5-8 มิถุนายนนี้ ที่ไบเทค บางนา
นายยศพงษ์ ลออนวล นายกสมาคม เปิดเผยว่า EVAT เล็งเห็นความสำคัญในการสนับสนุนให้เกิดการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า จึงร่วมกับ “ยูบีเอ็ม เอเชีย” จัดงาน iEVTech2019 และการประชุม ASEAN EV Summit 2019 ภายใต้หัวข้อ Connecting ASEAN E-Mobility ซึ่งปีนี้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานสัมมนาที่เกี่ยวข้องกับความก้าวหน้าของยานยนต์ไฟฟ้าที่ครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน โดยงานนี้จะจัดคู่ขนานไปกับงาน ASE 2019-ASEAN Sustainable Energy Week 2019 งานแสดงนวัตกรรมและการประชุมสัมมนาวิชาการระดับนานาชาติด้านพลังงาน
นอกจากการจัดนิทรรศการแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้าแล้ว และจัดให้มีการลงทะเบียนเพื่อทดลองขับรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งยานยนต์ไฟฟ้าปลั๊ก-อินไฮบริด และยานยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) จากค่ายรถยนต์ชั้นนำของโลก อาทิ นิสสัน ฮุนได ฟอมม์ บีเอ็มดับเบิลยู เป็นต้น
ด้าน “นิสสัน” ที่ตอบรับเข้าร่วมเกือบทุกงานอีเวนต์อีวี และมีโปรดักต์ “ลีฟ” อีวีรุ่นขายดีที่สุดของโลกทำตลาดในไทย แต่ปัจจุบันยอดขายยังไม่ถึง 100 คัน ทว่านิสสันหวังเพิ่มตัวเลขด้วยการขายฟลีต ปิดดีลกับหน่วยงานราชการและเอกชน ที่ปัจจุบันมีการพูดคุยกันอยู่ และในอนาคตจะให้สิทธิ์กับทุกดีลเลอร์ได้ขายลีฟ จากปัจจุบันที่มีอยู่ 32 แห่ง
ที่ผ่านมา นิสสันยังเดินหน้าสร้างระบบนิเวศของตลาดอีวีอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้าที่ซื้อรถไปใช้งาน เช่น การลงนามความร่วมมือกับการไฟฟ้านครหลวง ล่าสุดยังแต่งตั้งบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ให้เป็นผู้ให้บริการหลักในการติดตั้งเครื่องชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเป็นทางการ แก่โชว์รูมนิสสัน 32 แห่ง รวมถึงเป็นทางเลือกให้ลูกค้าติดตั้งเครื่องชาร์จพลังงานไฟฟ้า ขนาด 7.36 กิโลวัตต์ที่บ้าน ในราคา 4.5 หมื่นบาท อีกด้วย
หน้า 28-29 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจปีที่ 39 ฉบับที่ 3,474 วันที่ 30 พฤษภาคม - 1 มิถุนายน พ.ศ. 2562
