‘ส้ม-ชนากานต์’ส่งออกขนมผสมกัญชาขายเมืองลุงแซม
“ส้ม-ชนากานต์” พลิกบทบาทจากนางงามสู่การเป็นเชฟและเจ้าของร้านขนมไทยเต็มตัว ชูกลยุทธ์ดีไซน์สวย ขนมอร่อยเพิ่มมูลค่า วอนภาครัฐหนุนขนมไทยสู่ระดับนานาชาติ ประเดิมส่งขนมผสมกัญชาวางขายสหรัฐอเมริกา
นางสาวชนากานต์ ชัยศรี เจ้าของร้าน “บ้านส้ม ขนมสวย” และมิส ไทยแลนด์ เวิลด์ 1990 เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ร้านบ้านส้ม ขนมสวย เปิดมานานกว่า 8 ปี โดยเน้นความแตกต่างของขนมไทย ที่มีดีไซน์สวยงามแตกต่างจากร้านขนมไทยอื่น รวมทั้งปรับเพิ่มเมนูใหม่ต่อเนื่องในทุกปีให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์คนทานขนม อาทิ ขนมไทยตามฤดูกาล, ขนมไทยตามเทศกาล เช่น งานขึ้นบ้านใหม่ ปีใหม่ สงกรานต์ ฯลฯ, ขนมไทยตามวันเกิด, ขนมไทยมงคล เป็นต้น
“จุดเริ่มต้นการเปิดร้านขนมและการเป็นเชฟ เนื่องจากมองว่าสามารถต่อยอดเป็นอาชีพที่เลี้ยงดูชีวิตได้ยาวนาน และขนมไทยเป็นขนมที่มีโอกาสเติบโตในตลาดได้ดี รวมทั้งเป็นเอกลักษณ์ของไทย ดังนั้นจึงเริ่มไปเรียนการทำขนมไทยอย่างจริงจังและเปิดร้าน ขณะเดียวกันส่วนตัวต้องการสร้างความแตกต่างให้ขนมไทยมีมูลค่าเพิ่ม คือนอกจากการผลิตขนมไทยให้สวยงาม รสชาติดีแล้ว ยังต้องออกแบบขนมแต่ละประเภทให้สอดคล้องกับคนทานตามสไตล์ของบุคคลที่ไม่เหมือนกัน”
ทั้งนี้ที่ผ่านมาได้รับการตอบรับที่ดีมายาวนานต่อเนื่องตั้งแต่วันแรกจนถึงปัจจุบัน ลูกค้าส่วนใหญ่ที่ซื้อไปมีการกลับมาซื้อซํ้ากว่า 95% ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอายุ 30 ปีขึ้นไปกว่า 70% และ 20-29 ปีประมาณ 30% ทั้งนี้เมื่อย้อนไปจากวันแรกที่เริ่มทำขนมเพียงแค่ 1 เมนู คือขนมเปียกปูน ในช่วงเวลานั้นขายดีและเลือกขายเมนูเดียว แต่จากความชอบของลูกค้าที่แตกต่างจึงทำให้ร้านบ้านส้ม ขนมสวยต้องคิดเมนูใหม่ๆ เพิ่ม จนปัจจุบันมีเมนูขนมไทยแล้วกว่า 50 เมนู และขนม ทุกชนิดของร้านคือไม่ใช้เครื่อง ผลิต และต้องทานสด ใหม่
ขณะที่ช่องทางการจัดจำหน่ายส่วนใหญ่กว่า 90% มาจากช่องทางออนไลน์ เช่น อินสตาแกรม เฟซบุ๊ก เป็นต้น ทั้งนี้ล่าสุดทางร้านได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยรามคำแหงทดลองทำขนมทองเอกมาผสมกัญชา เพื่อส่งออกไปขายในต่างประเทศ โดยจะเริ่มที่สหรัฐอเมริกาเนื่องจากประเทศดังกล่าวค่อนข่างเสรีในเรื่องกัญชา และสาเหตุที่เลือกทองเอก เนื่องจากทองเอกเป็นขนมที่คนไทยนิยมนำไปไว้ในงานมงคลต่างๆ พร้อมทั้งคาดหวังจะผลักดันให้ขนมไทยเป็นที่รู้จักในสายตาชาวต่างชาติมากขึ้น
นางสาวชนากานต์ กล่าวอีกว่า ฝากภาครัฐให้ความสำคัญกับขนมไทย เนื่องจากขนมไทยเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย ของคนไทย อีกทั้งยังเป็นขนมที่มีความประณีต และสามารถทัดเทียมได้กับขนมเบเกอรี่ของต่างชาติ ดังนั้นจึงอยากให้ภาครัฐช่วยสนับ สนุนผู้ประกอบการขนมไทยในประเทศให้ก้าวสู่ระดับนานาชาติ เพราะหากพูดถึงกระบวนการทำขนมไทยเทียบกับเบเกอรี่นั้น ขนมไทย มีความยาก ประณีต และใช้เวลาที่มากกว่า ดังนั้นอยากให้มองถึงมูลค่าของขนมไทยและผลักดันให้ขนมไทยเป็นที่รู้จักในตลาดต่างประเทศมากขึ้น
หน้า 32 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3465 ระหว่างวันที่ 28 เมษายน-1 พฤษภาคม 2562
