มติอัยการเลือก "อรรถพล ใหญ่สว่าง" นั่งประธานบอร์ด ก.อ.

14 มี.ค. 2562 | 12:46 น.

เลือก "อรรถพล ใหญ่สว่าง" อดีต อสส. นั่งประธานบอร์ด ก.อ. ตามกฎหมายใหม่ คุมโยกย้าย-วินัยอัยการ หลัง คสช. ยึดอำนาจเจอเด้งเข้ากรุสำนักนายกฯ

ผลการตรวจนับบัตรลงคะแนนเลือกประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) และ ก.อ.ผู้ทรงคุณวุฒิ ที่อัยการทั่วประเทศร่วมลงคะแนนเลือก จากผู้ลงคะแนนทั้งสิ้น 3,061 ใบ ผลปรากฏว่า นายอรรถพล ใหญ่สว่าง อดีตอัยการสูงสุด (อดีต อสส.) ได้คะแนนสูงสุด 1,810 คะแนน ได้รับเลือกเป็นประธาน ก.อ. คนแรก จากการลงคะแนนเลือกของอัยการตามกฎหมายใหม่

ขณะที่ ผู้ได้คะแนนมาเป็นอันดับที่  2 คือ นายพชร ยุติธรรมดำรง อดีตอัยการสูงสุด จำนวน 1,036 คะแนน, นายทวีศักดิ์ วรพิวุฒิ อดีตรองอัยการสูงสุด คะแนนเป็นอันดับที่สาม 91 คะแนน, นายสมชาย คูวิจิตรสุวรรณ อดีต อธ.อัยการสำนักงานคดีเศรษฐกิจฯ คะแนนอันดับสี่ 63 คะแนน และนายปรีชา วราโห อดีตรองอัยการสูงสุด อันดับที่ห้า 61 คะแนน

ในส่วนของ ประธาน ก.อ. นั้น ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ให้มีการลงคะแนนเลือกบุคคลตามกฎหมายใหม่ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2561 ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2561 ซึ่งผู้ที่มีสิทธิ์ลงสมัครรับเลือกนั้น ต้องเป็นอดีตข้าราชการอัยการ ห้ามเป็นสมาชิกพรรคการเมือง หรือ เจ้าหน้าที่พรรคการเมืองในช่วง 10 ปีที่มีการเลือกนี้

เดิมตำแหน่ง ประธาน ก.อ. ผู้ที่ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุดจะได้เป็นประธาน ก.อ. โดยตำแหน่ง โดยกฎหมายใหม่กำหนดให้อัยการสูงสุดเป็นรองประธาน ก.อ.

ขณะที่ องค์ประกอบคณะกรรมการ ก.อ. จะมี 15 คน ประกอบด้วย ประธาน ก.อ. 1 คน ที่ได้รับเลือกจากอัยการ, อัยการสูงสุดเป็นรองประธาน ก.อ. 1 คน, รองอัยการสูงสุดตามลำดับอาวุโส 5 คน เป็นกรรมการ ก.อ., กรรมการ ก.อ.ผู้ทรงคุณวุฒิ อีก 6 คน ที่อัยการทั่วประเทศ ลงคะแนนเลือกจากกลุ่มอัยการชั้น 5 ขึ้นไป เข้ามา, กรรมการ ก.อ.ผู้ทรงคุณวุฒิ อีก 2 คน ที่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้านการงบประมาณ การพัฒนาองค์กร หรือ การบริหารจัดการ ซึ่งไม่ใช่อัยการที่อัยการทั่วประเทศลงคะแนนเลือกเข้ามาเช่นกัน
 

มติอัยการเลือก "อรรถพล ใหญ่สว่าง" นั่งประธานบอร์ด ก.อ.


โดยตำแหน่งประธาน ก.อ. และกรรมการ ก.อ.ผู้ทรงคุณวุฒิ จะมีวาระดำรงตำแหน่งดังกล่าวเป็นเวลา 2 ปี และได้เป็น ก.อ. เพียงวาระเดียว ซึ่งเดิมกฎหมายกำหนดให้กรรมการ ก.อ.ผู้ทรงคุณวุฒิ มีวาระการดํารงตําแหน่งคราวละ 2 ปี และอาจได้รับเลือก หรือ แต่งตั้งใหม่ได้ แต่จะดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกิน 2 วาระไม่ได้

ส่วนอำนาจหน้าที่กรรมการ ก.อ. ทั้ง 15 คนนั้น ก็จะพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการอัยการ และการพิจารณาดำเนินการทางวินัยและการสั่งลงโทษทางวินัยข้าราชการอัยการที่กระทำผิดระเบียบ รวมทั้งการพิจารณาออกระเบียบบริหารงานบุคคลอัตรากำลังข้าราชการฝ่ายอัยการ

ทั้งนี้ สำหรับการเลือก ประธาน ก.อ. ของอัยการกันเองครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ มีผู้ผ่านคุณสมบัติตามกฎหมายเสนอตัวลงสมัครทั้งสิ้น 5 คน ประกอบด้วย 1.นายทวีศักดิ์ วรพิวุฒิ อดีตรองอัยการสูงสุด, 2.นายปรีชา วราโห อดีตรองอัยการสูงสุด, 3.นายพชร ยุติธรรมดำรง อดีตอัยการสูงสุดคนที่ 8 (ปี 2548-2550), 4.นายสมชาย คูวิจิตรสุวรรณ อดีตอธิบดีอัยการสำนักงานคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร, 5.นายอรรถพล ใหญ่สว่าง อดีตอัยการสูงสุด คนที่ 11 (ปี 2556-2557)


สำหรับ นายอรรถพล ใหญ่สว่าง นั้น เคยดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุดคนที่ 11 ผู้บริหารสูงสุดในสำนักงานอัยการสูงสุด ระหว่างวันที่ 1 ต.ค. 2556 เดือน มิ.ย. 2557 โดยระหว่างที่ดำรงตำแหน่งดังกล่าวได้เพียง 8 เดือนเศษ เมื่อมีการยึดอำนาจทำการรัฐประหารโดยคณะ คสช. วันที่ 22 พ.ค. 2557 ต่อมาเดือน มิ.ย. 2557 คสช. ได้มีคำสั่งเด้งให้นายอรรถพลพ้นจากตำแหน่งอัยการสูงสุด แล้วให้ไปดำรงตำแหน่งช่วยงานที่สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี

นับตั้งแต่ปี 2557 เรื่อยมา นายอรรถพลก็ยังคงลงสมัครรับเลือกเป็น ก.อ.ผู้ทรงคุณวุฒิ ทั้งนี้ สำหรับนายอรรถพลระหว่างปฏิบัติหน้าที่ข้าราชการอัยการนั้น ก็ได้เป็นที่รู้จักของสื่อมวลชน เมื่อเป็นโฆษกสำนักงานอัยการฯ

ขณะที่ มีผลงานคดีใหญ่คดีดังเป็นที่รู้จัก เช่น คดียุบพรรคไทยรักไทย และเมื่อเป็นอัยการสูงสุดก็สั่งฟ้องคดีกล่าวหา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี กับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ และอดีต ผอ.ศอฉ. ในความผิดฐานร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าและพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล จากการออกคำสั่งปฏิบัติการขอคืนพื้นที่การชุมนุมจาก นปช. ช่วงปี 2553

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบุคคลที่เสนอตัวลงชิงชัยเป็น ก.อ.ผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านการงบประมาณ การพัฒนาองค์กร หรือ การบริหารจัดการ มีด้วยกัน 9 คน แต่จะเลือกผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดเพียง 2 คนเท่านั้น จากผู้สมัครที่ไม่ใช่ข้าราชการฝ่ายอัยการและไม่เคยเป็นอัยการนั้น ประกอบด้วย 1.พล.อ.จิระ โกมุทพงศ์ อดีตเจ้ากรมพระธรรมนูญ, 2.นายชูชัย เลิศพงศ์อดิศร ประธานคณะกรรมาธิการแรงงานและสวัสดิการสังคม, 3.นายณัฐเมศวร์ เรืองพิชัยพร อดีต ก.อ.ผู้ทรงคุณวุฒิ, 4.นายธรรมนิตย์ สุมันตกุล อดีตรองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา, 5.นายนันทวัชร์ สุพัฒนานนท์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาระบบบริหาร, 6.พล.ต.ต.บุญส่ง จีระเรืองวัฒนา อดีตรองผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี, 7.นางพิมพร โอวาสิทธิ์ รองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ, 8.นายไพรัช วรปาณิ กรรมการผู้อำนวยการสถาบันการเงิน, 9.นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม

ขณะที่ กรรมการ ก.อ.ผู้ทรงคุณวุฒิ อีก 6 คน ที่ให้เลือกจากกลุ่มอัยการชั้น 5 ขึ้นไป และอดีตข้าราชการอัยการบำนาญนั้น รอบนี้มีอัยการเสนอตัวสมัคร รวมทั้งสิ้น 17 คน โดยมีอัยการซึ่งเป็นที่รู้จัก อาทิ นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีอัยการ สำนักงานชี้ขาดคดีอัยการสูงสุด, นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ, นายวิเชียร ถนอมพิชัย อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา

มติอัยการเลือก "อรรถพล ใหญ่สว่าง" นั่งประธานบอร์ด ก.อ.