สั่งยุบ ทษช. ศาลตัดสินผิด รธน.!!

07 มี.ค. 2562 | 08:36 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

ศาล รธน. สั่งยุบพรรค ทษช. ตัดสิทธิเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรค 10 ปี และไม่สามารถไปจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ได้อีก
 

สั่งยุบ ทษช. ศาลตัดสินผิด รธน.!!


เมื่อเวลา 15.07 น. ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยคำร้องที่ กกต. ยื่นเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาสั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 ฐานกระทำการอันเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จากกรณีเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี

โดยศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่า การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของไทย วางหลักการพื้นฐานไว้ตั้งแต่เริ่มต้น ที่ให้สถานะของสถาบันพระมหากษัตริย์ทรงอยู่เหนือการเมืองและเป็นกลางทางการเมือง เพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของปวงชนชาวไทย และรัฐธรรมนูญไทยทุกฉบับยึดหลักการพื้นฐานนี้สืบเนื่องต่อมาโดยลำดับ

การเสนอชื่อบุคคลที่พรรค ทษช. จะสนับสนุนเป็นนายกรัฐมนตรีเข้ามาแข่งขันในทางการเมือง จึงเป็นการกระทำที่เล็งเห็นผล มีผลทำให้หลักการพื้นฐานการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขถูกเซาะบ่อนทำลายให้เสื่อมทรามลงโดยปริยาย

ผู้ถูกร้องจะอ้างว่า ที่ดำเนินการไปเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพไม่ได้ เพราะการใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญไม่ใช่สิทธิเสรีภาพที่สั่นคลอนหลักการพื้นฐานการปกครอง รัฐธรรมนูญของของนานาประเทศทั่วโลก ล้วนมีบทบัญญัติกลไกป้องกันไว้ ที่จะต้องไม่ใช้สิทธิเสรีภาพที่กลับมาทำลายหลักการพื้นฐานตามประเพณีการปกครองเสียเอง เมื่อนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเป็นฝักฝ่ายทางการเมือง ทำให้สูญเสียความเป็นกลางทางการเมือง ก็ไม่อาจดำรงความเป็นศูนย์รวมจิตใจของปวงชนชาวไทยได้อีกต่อไป

รวมถึงจะยกเรื่องเจตนาขึ้นมาอ้างมิได้ เพราะอาจเพียงแค่เป็นปฎิปักษ์ ไม่ต้องให้ถึงกับเกิดผลให้เป็นความเสียหายในทันที ก็ต้องป้องกันไว้แต่เพียงเริ่มต้น มิให้ฮือโหมเป็นความเสียหายใหญ่โตได้ การกระทำที่เป็นปฏิปักษ์เป็นเงื่อนไขทางภววิสัย ไม่ขึ้นกับความต้ังใจหรือเจตนา แม้เพียงเป็นการกระทำที่ทำให้ถูกดูหมิ่น เกลียดชัง ก็เข้าข่ายเป็นการกระทำที่เป็นปฎิปักษ์ได้แล้ว

"การกระทำของผู้ถูกร้องที่นำผู้ใกล้ชิดพระบรมราชจักรีวงศ์มาดำเนินการ เป็นการเล็งเห็นผลเพื่อการแข่งขันทางการเมือง ที่สุ่มเสี่ยงทำให้สถานะสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ต้องอยู่เหนือการเมืองและเป็นกลางทางการเมืองต้องสูญเสียไป เข้าข่ายการกระทำตามมาตรา 92 (2) ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ศาลรัฐธรรมนูญจึงมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ยุบพรรคการเมือง"

นอกจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญยังมีมติ 6:3 ให้ตัดสิทธิการสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ของคณะกรรมการบริหารพรรค ทษช. ที่ร่วมมีมติเสนอชื่อเป็นเวลา 10 ปี นับแต่วันมีคำวินิจฉัย และมีมติเอกฉันท์ห้ามกรรมการบริหารพรรค ทษช. ในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่เป็นเวลา 10 ปี

หลังศาลมีคำวินิจฉัย ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค ทษช. ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนสั้น ๆ ว่า ขอขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้พรรคไทยรักษาชาติ พร้อมน้อมรับคำตัดสินของศาล และน้อมรับพระราชโองการไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อมด้วยความจงรักภักดี รู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง ทั้งนี้ อยากเห็นบ้านเมืองเดินไปในทางที่ดี ไม่ว่าตนจะมีสถานะอย่างไรก็พร้อมทำประโยชน์ให้ประเทศชาติ

ผลจากคำพิพากษาดังกล่าว มีผลให้ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรค ทษช. ทั้งหมด ขาดคุณสมบัติในการลงสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากไม่มีพรรคสังกัด และบัตรลงคะแนนที่ลงให้ผู้สมัครพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) จะถือเป็นบัตรเสีย

สั่งยุบ ทษช. ศาลตัดสินผิด รธน.!!