เอกชนห่วงการเมืองวุ่นวาย ทำเลือกตั้งสะดุด ฉุดความเชื่อมั่นการค้า ลงทุน กระทบความมั่นใจนักลงทุน หวังรัฐบาลชุดใหม่สานต่อนโยบายฟื้นเศรษฐกิจ
สถานการณ์ทางการเมืองไทยก่อนการเลือกตั้ง ในวันที่ 24 มี.ค. นี้ ร้อนแรงขึ้นทุกขณะ เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้มีเดิมพันสูง บรรดานักธุรกิจต่างกังวลกับข่าวลือ หรือ กระแสต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วง 40 วันก่อนเลือกตั้ง ทำให้บรรยากาศทางการเมืองมีความอึมครึม ส่งผลให้บรรดานักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
➣
ส.อ.ท. ลุ้นการเมืองไทยสงบ
"สถานการณ์การเมืองในประเทศไทย ถ้ากลับไปสู่การเดินบนถนน มีประท้วง และไปสู่การขัดแย้งอย่างรุนแรงอีก ก็มีแต่จะนำพาเศรษฐกิจไทยเดินไปสู่การชะลอตัวของนโยบายด้านต่าง ๆ แต่ถ้าการเมืองเดินไปอย่างสงบ มั่นใจว่า นโยบายที่รัฐบาลเดินมาถูกทางแล้ว โดยเฉพาะการพัฒนาพื้นที่อีอีซี ก็น่าจะเกิดการสานต่อได้ในรัฐบาลใหม่ ไม่ว่าจะเป็น พรรคการเมืองใดเข้ามาก็ตาม เพราะมองว่าเป็นนโยบายที่ดีอยู่แล้ว และนักลงทุนต่างชาติยอมรับ ก็ควรเดินหน้าต่อไป" นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าว
➣
อย่าตระหนกข่าวลือรายวัน
ขณะที่ นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธาน ส.อ.ท. มองว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีเดิมพันสูง จากมีพรรคการเมืองเข้าร่วมชิงชัยกว่า 80 พรรค ผู้สมัครกว่า 1.3 หมื่นคน ขณะที่ คนรุ่นใหม่ที่จะใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งแรกมีกว่า 7 ล้านเสียง ถือเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญ ข่าวลือ หรือ กระแสต่าง ๆ ในช่วง 40 วันก่อนเลือกตั้ง จะยังมีเหตุการณ์เกิดขึ้นอีกมาก จึงฝากถึงนักลงทุนทั้งไทยและเทศให้เฝ้าติดตามสถานการณ์การเมืองอย่างมีสติ อย่าตื่นตระหนก และอ่อนไหวกับข่าวลือรายวัน
[caption id="attachment_388579" align="aligncenter" width="503"]
กลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย[/caption]
ด้าน นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ผลการสำรวจนักลงทุนต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลี และอีกหลายประเทศ บริษัทแม่ยังมั่นใจขยายการลงทุนในไทย ไม่ได้ชะลอแต่อย่างใด หลังได้รัฐบาลใหม่ และมีความชัดเจนด้านต่าง ๆ แล้ว คาดว่าจะมาลงทุนมากขึ้น
นางสาวกัณญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองในขณะนี้ อาจกระทบบ้างต่อตลาดเงินตลาดทุน แต่ในส่วนของเรียลเซ็กเตอร์ ซึ่งเป็นการลงทุนหวังผลระยะยาว มองเรื่องนโยบายและเสถียรภาพรัฐบาล หลังการเลือกตั้งเป็นหลัก ส่วนข่าวลือต่าง ๆ ที่ไม่จริง วอนขอให้ทุกฝ่ายยุติ เพราะไม่เป็นผลดีต่อบ้านเมือง
ขณะที่ ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับตลาดเงินตลาดทุน ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ยังคงมองว่า เป็นความไม่แน่นอนทางการเมืองในช่วงนี้ เป็นผลกระทบระยะสั้น หากการเลือกตั้งยังคงเดินไปตามแผนที่กำหนดไว้จะไม่มีผลกระทบใดต่อตลาดหุ้น พร้อมรอดูโฉมหน้ารัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาบริหาร ว่า จะสานต่อนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ให้โตต่อเนื่องได้อย่างไร
[caption id="attachment_388577" align="aligncenter" width="500"]
[/caption]
➣
เลื่อนเลือกตั้งกระทบเชื่อมั่น
"ความกังวลหลักของนักลงทุน คือ การเลื่อนเลือกตั้ง แต่ต้องรอดูในช่วง 2-3 วันนี้ หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ มั่นใจว่า ทุกอย่างจะยังดำเนินไปอย่างปกติและจะกลับเข้าสู่ภาวะเดิม ขณะเดียวกัน นักลงทุนส่วนใหญ่จะจับตาที่กติกาการเลือกตั้งแบบใหม่ โดยมองว่า ผลตอบรับที่จะมีต่อตลาดหุ้นนั้นจะอยู่ในช่วงหลังเลือกตั้งมากกว่า" นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) กล่าว
[caption id="attachment_388570" align="aligncenter" width="298"]
อมรเทพ จาวะลา ผู้บริหาร สำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย[/caption]
ด้าน นายอมรเทพ จาวะลา ผู้บริหาร สำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า ก่อนการเลือกตั้งจะเห็นการเทขายสินทรัพย์เสี่ยง ทำให้เงินบาทอ่อนค่าและจะกลับมาแข็งค่าไตรมาส 2 หรือกลางปี หากสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ราบรื่น นักลงทุนจะกลับเข้ามาภายหลังรัฐบาลใหม่เปิดสภาผู้แทนราษฎรปลายเดือน พ.ค. ความเชื่อมั่นจะกลับมา
➣
หนุนเดินหน้า "เลือกตั้ง"
นายวรวุฒิ อุ่นใจ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย มองว่า การเลือกตั้งจะเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดการตัดสินใจเดินหน้าทางการค้าและการลงทุน ถ้าเลื่อนการเลือกตั้งออกไป หรือ ชะลอการเลือกตั้ง จะส่งผลกระทบไม่มาก แต่หากยกเลิกการเลือกตั้งจะกระทบความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ อาจจะชะลอแผนการลงทุน และหากเกิดรัฐประหารจะส่งผลกระทบหนักที่สุด เพราะอาจจะโดนคว่ำบาตร เกิดปัญหาความไม่สงบในประเทศได้
➣
การเมือง คือ ความเสี่ยง
นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) ยอมรับว่า สิ่งที่มีผลกระทบต่อธุรกิจมากที่สุด ณ ขณะนี้ คือ ปัจจัยภายในประเทศ ทั้งเรื่องเศรษฐกิจและการเมือง เป็นตัวบ่งบอกอารมณ์การจับจ่ายใช้สอยของคน ช่วงที่ผ่านมา ก็สะท้อนถึงความไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม คาดหวังรัฐบาลคงมีการวางรูปแบบผลักดันให้เศรษฐกิจเดินต่อไป จีดีพีเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ระดับ 4% ใกล้เคียงกับช่วงปีก่อน ซึ่งจะทำให้ตลาดอสังหาฯ ขยายตัวได้ในระดับเดียวกันกับปีก่อนเช่นกัน
[caption id="attachment_388582" align="aligncenter" width="503"]
ชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.)[/caption]
นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เผยว่า สถานการณ์การเมืองก่อนหน้านี้ ยอมรับว่า หนักใจว่าจะเดินต่ออย่างไร แต่ตอนนี้น่าจะคลี่คลาย มีการแข่งขันในเวทีการเลือกตั้งตามกระบวนการ ซึ่ง สทท. ก็มีแผนจะเชิญผู้แทนพรรคการเมืองราว 5-7 พรรค ที่จะเชิญมาพูดถึงแนวทางในการพัฒนาท่องเที่ยวของแต่ละพรรค หากพรรคไหนได้เป็นรัฐบาลก็จะได้ไปติดตามงานได้ตามที่หาเสียงไว้จากการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น และหากภาวะเศรษฐกิจยังไม่มีปัญหาอะไรรุนแรง รวมถึงการแซงก์ชันทางเศรษฐกิจระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกาไม่ได้รุนแรง ก็เชื่อว่า ท่องเที่ยวไทยจะเติบโตได้สูงถึง 10% จากปกติที่คาดว่าจะโต 7-8% โดยคาดว่าจะมีรายได้จากการท่องเที่ยว 3.3 ล้านบาท ทั้งการเดินทางเที่ยวในประเทศของคนไทยและต่างชาติมาเที่ยวไทย โดยนักท่องเที่ยวจีนกลับมาเที่ยวไทยเป็นปกติแล้ว
[caption id="attachment_388573" align="aligncenter" width="305"]
ลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)[/caption]
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นในขณะนี้เป็นเพียงผลทางจิตวิทยาระยะสั้นเท่านั้น เพราะเป็นช่วงของการเปลี่ยนผ่าน ขณะนี้ถือว่าเร็วเกินไปที่จะบอกว่าจะกระทบเศรษฐกิจแค่ไหน โดย สศค. ยังมองจีดีพีที่ 4% แต่ถ้ามองในแง่เสถียรภาพเศรษฐกิจของไทย มีพื้นฐานแข็งแกร่ง จึงเชื่อมั่นว่าจะสามารถรับมือกับความผันผวนที่จะเกิดขึ้นได้
……………….
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,444 วันที่ 14 - 16 ก.พ. 2562 หน้า 01-02
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
●
"ทษช." จ่อร้องศาล รธน. ขอทราบข้อกล่าวหา พร้อมยื่นหลักฐาน
●
ศาล รธน. ถกพรุ่งนี้ รับคำร้องยุบ "ทษช." ไว้พิจารณาหรือไม่