สถาบันไฟฟ้าฯคาดส่งออกสินค้าไฟฟ้า-อิเล็กทรอนิกส์ปีนี้โต 3.26%
สถาบันไฟฟ้าฯ เผยข้อมูลส่งออกสินค้าไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ปี 2561 มีมูลค่า 6.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.16% คาดปี 2562 ขยายตัว 3.26% หรือมีมูลค่าราว 6.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เชื่อเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่เป็นตลาดส่งออกหลัก จะปรับตัวเพิ่มขึ้น อาทิ ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป และอาเซียน
นายสมบูรณ์ หอตระกูล ผู้อำนวยการสถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สถาบันเครือข่ายกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงสถานการณ์การส่งออกของอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ว่า ในปี 2561 ภาพรวมมีมูลค่าการส่งออก 62,108.53 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.16% แบ่งเป็น สินค้าไฟฟ้า 17,491.67 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวเพิ่ม 1.01% สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ 38,063.26 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.27% และสินค้าไฟฟ้ากำลัง 6,553.59 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.63%
ทั้งนี้สัดส่วนประเทศตลาดส่งออกหลักในภาพรวม 5 อันดับ ได้แก่ อาเซียน 18.47 % ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.38% สหรัฐอเมริกา 17.89 % ปรับตัวลดลง 2.30% สหภาพยุโรป 14.46 % ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.64% ญี่ปุ่น 11.50 % ปรับตัวเพิ่มขึ้น 12.19% และจีน 9.03% ปรับตัวลดลง 0.49%
โดยสินค้าไฟฟ้าที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกตลาด ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 9.73% โดยเฉพาะญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป ส่วนสินค้าที่ปรับตัวลดลง อาทิ เครื่องอุปกรณ์สําหรับป้องกันวงจรไฟฟ้า ปรับตัวลดลง 3.19% ในตลาดส่งออกหลัก อาทิ สหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกาค่อนข้างมาก ตู้เย็น ปรับตัวลดลง 6.59% โดยปรับตัวลดลงตลาดในจีนค่อนข้างมาก และญี่ปุ่นเล็กน้อย กล้องถ่ายบันทึกภาพ ปรับตัวลดลง 3.93% ในตลาดส่งออกหลัก อาทิ จีน สหภาพยุโรป และอาเซียน เป็นต้น เนื่องจากผลกระทบมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐอเมริกา และการตอบโต้ทางการค้าของสหรัฐอเมริกา กับ จีน ทำให้ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าหลายรายการปรับตัวลดลง
ขณะที่สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกตลาดส่งออกหลัก ยกเว้นตลาดจีนมีการปรับตัวลดลงเล็กน้อยอาทิ ญี่ปุ่น ปรับตัวเพิ่มขึ้น 9.56% จากเครื่องโทรศัพท์ วงจรรวมและไมโครแอสแซมบลี (Integrated Circuit) และเครื่องพิมพ์ เครื่องทำสำเนา เป็นต้น และสหภาพยุโรป ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.91% จากอุปกรณ์ประกอบของเครื่องคอมพิวเตอร์ วงจรรวมและไมโครแอสแซมบลี (Integrated Circuit) และเครื่องพิมพ์ เครื่องทำสำเนา เป็นต้น ส่วนสินค้าไฟฟ้ากำลังปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกตลาดส่งออกหลัก ยกเว้นตลาดสหรัฐอเมริกา อาทิ จีน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 19.71% จากแผงสวิตซ์และแผงควบคุมกระแสไฟฟ้า เครื่องเปลี่ยนไฟฟ้า และโซล่าเซลล์ เป็นต้น และญี่ปุ่น ปรับตัวเพิ่มขึ้น 13.17% จากสายไฟฟ้า ชุดสายไฟ แผงสวิตซ์และแผงควบคุมกระแสไฟฟ้า และเครื่องเปลี่ยนไฟฟ้า เป็นต้น
สำหรับแนวโน้มปี 2562 ประมาณการว่าภาคการผลิตของอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์จะปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.97% โดยในส่วนของเครื่องใช้ไฟฟ้าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.38% และอิเล็กทรอนิกส์จะปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.56 % ส่วนการส่งออก ในภาพรวมคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.26% หรือมีมูลค่าราว 64,133.26 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสินค้าไฟฟ้าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.97% และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์จะปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.55 % โดย เชื่อว่าเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่เป็นตลาดส่งออกหลักจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอาทิ ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป และอาเซียน
“ปัจจุบันอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์มีสถานประกอบการรวมทั้งสิ้น 2,419 ราย แบ่งเป็นขนาดเล็ก 1,503 ราย ขนาดกลาง 530 ราย และขนาดใหญ่ 386 ราย โดยสถานประกอบการขนาดเล็กส่วนใหญ่เป็นการลงทุนของผู้ประกอบการสัญชาติไทย มีการจ้างงานในอุตสาหกรรมรวมจำนวน 753,357 ราย ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์”
นายสมบูรณ์ หอตระกูล ผู้อำนวยการสถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สถาบันเครือข่ายกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงสถานการณ์การส่งออกของอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ว่า ในปี 2561 ภาพรวมมีมูลค่าการส่งออก 62,108.53 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.16% แบ่งเป็น สินค้าไฟฟ้า 17,491.67 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวเพิ่ม 1.01% สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ 38,063.26 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.27% และสินค้าไฟฟ้ากำลัง 6,553.59 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.63%
ทั้งนี้สัดส่วนประเทศตลาดส่งออกหลักในภาพรวม 5 อันดับ ได้แก่ อาเซียน 18.47 % ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.38% สหรัฐอเมริกา 17.89 % ปรับตัวลดลง 2.30% สหภาพยุโรป 14.46 % ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.64% ญี่ปุ่น 11.50 % ปรับตัวเพิ่มขึ้น 12.19% และจีน 9.03% ปรับตัวลดลง 0.49%
โดยสินค้าไฟฟ้าที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกตลาด ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 9.73% โดยเฉพาะญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป ส่วนสินค้าที่ปรับตัวลดลง อาทิ เครื่องอุปกรณ์สําหรับป้องกันวงจรไฟฟ้า ปรับตัวลดลง 3.19% ในตลาดส่งออกหลัก อาทิ สหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกาค่อนข้างมาก ตู้เย็น ปรับตัวลดลง 6.59% โดยปรับตัวลดลงตลาดในจีนค่อนข้างมาก และญี่ปุ่นเล็กน้อย กล้องถ่ายบันทึกภาพ ปรับตัวลดลง 3.93% ในตลาดส่งออกหลัก อาทิ จีน สหภาพยุโรป และอาเซียน เป็นต้น เนื่องจากผลกระทบมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐอเมริกา และการตอบโต้ทางการค้าของสหรัฐอเมริกา กับ จีน ทำให้ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าหลายรายการปรับตัวลดลง
ขณะที่สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกตลาดส่งออกหลัก ยกเว้นตลาดจีนมีการปรับตัวลดลงเล็กน้อยอาทิ ญี่ปุ่น ปรับตัวเพิ่มขึ้น 9.56% จากเครื่องโทรศัพท์ วงจรรวมและไมโครแอสแซมบลี (Integrated Circuit) และเครื่องพิมพ์ เครื่องทำสำเนา เป็นต้น และสหภาพยุโรป ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.91% จากอุปกรณ์ประกอบของเครื่องคอมพิวเตอร์ วงจรรวมและไมโครแอสแซมบลี (Integrated Circuit) และเครื่องพิมพ์ เครื่องทำสำเนา เป็นต้น ส่วนสินค้าไฟฟ้ากำลังปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกตลาดส่งออกหลัก ยกเว้นตลาดสหรัฐอเมริกา อาทิ จีน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 19.71% จากแผงสวิตซ์และแผงควบคุมกระแสไฟฟ้า เครื่องเปลี่ยนไฟฟ้า และโซล่าเซลล์ เป็นต้น และญี่ปุ่น ปรับตัวเพิ่มขึ้น 13.17% จากสายไฟฟ้า ชุดสายไฟ แผงสวิตซ์และแผงควบคุมกระแสไฟฟ้า และเครื่องเปลี่ยนไฟฟ้า เป็นต้น
สำหรับแนวโน้มปี 2562 ประมาณการว่าภาคการผลิตของอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์จะปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.97% โดยในส่วนของเครื่องใช้ไฟฟ้าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.38% และอิเล็กทรอนิกส์จะปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.56 % ส่วนการส่งออก ในภาพรวมคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.26% หรือมีมูลค่าราว 64,133.26 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสินค้าไฟฟ้าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.97% และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์จะปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.55 % โดย เชื่อว่าเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่เป็นตลาดส่งออกหลักจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอาทิ ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป และอาเซียน
“ปัจจุบันอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์มีสถานประกอบการรวมทั้งสิ้น 2,419 ราย แบ่งเป็นขนาดเล็ก 1,503 ราย ขนาดกลาง 530 ราย และขนาดใหญ่ 386 ราย โดยสถานประกอบการขนาดเล็กส่วนใหญ่เป็นการลงทุนของผู้ประกอบการสัญชาติไทย มีการจ้างงานในอุตสาหกรรมรวมจำนวน 753,357 ราย ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์”
