เทคโนโลยีใหม่หนุนซินเน็คโตไม่หยุด
ซินเน็ค มองดิจิตอล ดิสรัปชันเป็นโอกาส เทคโนโลยีออกมาไม่หยุดหนุนธุรกิจเติบโต คาดรายได้ปี 61 แตะ 3.75 หมื่นล้านบาท สูงสุดในกลุ่มผู้ค้าส่งไอที เร่งเสริมผลิตภัณฑ์ใหม่กลุ่ม IoT รับกระแส 5G
ดิจิตอลดิสรัปชันส่งผลกระทบทุกวงการ แม้แต่ผู้ผลิต และตัวแทนนำเข้าสินค้าไอที ก็ได้รับผลกระทบจากคลื่นดิจิตอลที่เข้ามา ท่าม กลางตลาดโดยภาพรวมที่ติดลบหรือเติบโตขึ้นเล็กน้อย แนวทางที่ดีสุด คือ การปรับ ตัวเพื่อรับการเปลี่ยนแปลง และมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เข้ามาเพื่อสร้างรายได้และการเติบโต
นางสาวสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทซินเน็ค ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ผู้ค้าส่งสินค้าไอทีรายใหญ่ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ซินเน็ค โดยมีการเสริมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดต่อเนื่อง โดยขณะนี้มีผลิตภัณฑ์ที่ทำตลาดอยู่ 60 แบรนด์ ซึ่งกลุ่มสมาร์ทโฟนนั้นบริษัททำตลาดให้กับ 3 แบรนด์ใหญ่ ทั้งแอปเปิล ซัมซุง และหัวเว่ย ภาพรวมของซินเน็ค นั้นเติบโตขึ้นต่อเนื่องหลายปี เนื่อง จากมีการปรับตัวอยู่ตลอดเวลา
โดยปีนี้เติบโตขึ้น 5 พันล้านบาท คาดว่าจะมีรายได้ 3.75 หมื่นล้านบาท โดยเป็นผู้ค้าส่งสินค้าไอทีที่มีรายได้สูงสุด และคาดว่าปี 2562 รายได้จะเพิ่มขึ้นเป็น 3.8 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ปัจจัยที่ทำให้ซินเน็คเติบโตมาจากการมีเสริมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดเพิ่มต่อเนื่อง ซึ่งผู้ผลิตแต่ละราย ก็มีการเปิดตัวสินค้าใหม่ต่อเนื่อง
[caption id="attachment_381508" align="aligncenter" width="425"]
สุธิดา มงคลสุธี[/caption]
โดยขณะนี้มีผลิตภัณฑ์ที่ทำตลาดอยู่ 60 แบรนด์ ซึ่งกลุ่มสมาร์ทโฟนนั้นบริษัททำตลาดให้กับ 3 แบรนด์ใหญ่ ทั้งแอปเปิล ซัมซุง และหัวเว่ย ส่วนคอมพิวเตอร์ และโน้ตบุ๊กนั้นซินเน็คเป็นตัวแทนจำหน่ายให้กับทุกแบรนด์ ส่วนกลุ่มองค์กรนั้น โซลูชันด้านระบบเครือข่าย หรือ เน็ตเวิร์ก มีการเติบโตขึ้นราว 20%
นอกจากนี้ยังเป็นการเติบโตจากตลาดเกม ซึ่งเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือ โน้ตบุ๊กที่มีราคาสูง ขณะที่ช่องทางจำหน่ายลูกค้าร้านค้าปลีกไอทีที่เป็นเชนสโตร์ ก็มีการเติบโตขึ้น จากการเติบโตของตลาดเกม โดยเชนสโตร์ค้าปลีกไอทีสามารถดึงดูดผู้บริโภคเข้าร้านได้ดีกว่าร้านค้าปลีกรายย่อยที่ขณะนี้เริ่มทยอยปิดตัวลงไป เช่นเดียวกับลูกค้าช่องทางออนไลน์ โดยกลุ่มมาร์เก็ตเพลสชื่อดังอย่างลาซาด้า และช้อปปี้ มียอดการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ขณะเดียวกันยังมีผลิตภัณฑ์ใหม่ ทั้งโดรน และวีอาร์ (Virtual Reality) เข้ามาสร้างโอกาสในตลาดใหม่ๆ นอกจากนี้ซินเน็คยังมีบริษัทในเครือ คือ บริษัทพีที ออโต้เมท จำกัด ที่พัฒนาโซลูชันด้าน อินเตอร์เน็ตในทุกสรรพสิ่ง หรือ IoT และระบบออโตเมชัน ให้กับโรงงานอุตสาหกรรม โดยที่ผ่านมาได้เริ่มทำตลาดให้กับโรงงานอุตสาหกรรมในเขตระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ อีอีซี แล้ว โดยตลาดดังกล่าวถือเป็นตลาดใหม่ที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง เนื่องจากโรงงานอุตสาหกรรมตื่นตัวกับการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต
นางสาวสุธิดา กล่าวต่อไปว่าซินเน็ค มองดิจิตอลดิสรัปชันเป็นโอกาส เพราะสินค้าเทคโนโลยีนั้นมีผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาตลอดเวลา ซึ่งจุดแข็งของบริษัทคือเป็นดิสตริบิวเตอร์สินค้าไอที ที่มีความแข็งแกร่งทางด้านบริการหลังการขายมากสุด นอกจากนี้การเข้ามาของเทคโนโลยี 5G จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระบบเครือข่ายภายในบ้านมหาศาล เช่นเดียวกับอุปกรณ์ IoT ที่เติบโตขึ้นจาก 5G โดยในปีนี้บริษัทจะเสริมผลิตภัณฑ์กลุ่ม IoT เข้ามาทำตลาดมากขึ้น
หน้า 11 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,440 ระหว่างวันที่ 31 มกราคม - 2 กุมภาพันธ์ 2562
ดิจิตอลดิสรัปชันส่งผลกระทบทุกวงการ แม้แต่ผู้ผลิต และตัวแทนนำเข้าสินค้าไอที ก็ได้รับผลกระทบจากคลื่นดิจิตอลที่เข้ามา ท่าม กลางตลาดโดยภาพรวมที่ติดลบหรือเติบโตขึ้นเล็กน้อย แนวทางที่ดีสุด คือ การปรับ ตัวเพื่อรับการเปลี่ยนแปลง และมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เข้ามาเพื่อสร้างรายได้และการเติบโต
นางสาวสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทซินเน็ค ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ผู้ค้าส่งสินค้าไอทีรายใหญ่ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ซินเน็ค โดยมีการเสริมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดต่อเนื่อง โดยขณะนี้มีผลิตภัณฑ์ที่ทำตลาดอยู่ 60 แบรนด์ ซึ่งกลุ่มสมาร์ทโฟนนั้นบริษัททำตลาดให้กับ 3 แบรนด์ใหญ่ ทั้งแอปเปิล ซัมซุง และหัวเว่ย ภาพรวมของซินเน็ค นั้นเติบโตขึ้นต่อเนื่องหลายปี เนื่อง จากมีการปรับตัวอยู่ตลอดเวลา
โดยปีนี้เติบโตขึ้น 5 พันล้านบาท คาดว่าจะมีรายได้ 3.75 หมื่นล้านบาท โดยเป็นผู้ค้าส่งสินค้าไอทีที่มีรายได้สูงสุด และคาดว่าปี 2562 รายได้จะเพิ่มขึ้นเป็น 3.8 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ปัจจัยที่ทำให้ซินเน็คเติบโตมาจากการมีเสริมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดเพิ่มต่อเนื่อง ซึ่งผู้ผลิตแต่ละราย ก็มีการเปิดตัวสินค้าใหม่ต่อเนื่อง
[caption id="attachment_381508" align="aligncenter" width="425"]
โดยขณะนี้มีผลิตภัณฑ์ที่ทำตลาดอยู่ 60 แบรนด์ ซึ่งกลุ่มสมาร์ทโฟนนั้นบริษัททำตลาดให้กับ 3 แบรนด์ใหญ่ ทั้งแอปเปิล ซัมซุง และหัวเว่ย ส่วนคอมพิวเตอร์ และโน้ตบุ๊กนั้นซินเน็คเป็นตัวแทนจำหน่ายให้กับทุกแบรนด์ ส่วนกลุ่มองค์กรนั้น โซลูชันด้านระบบเครือข่าย หรือ เน็ตเวิร์ก มีการเติบโตขึ้นราว 20%
นอกจากนี้ยังเป็นการเติบโตจากตลาดเกม ซึ่งเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือ โน้ตบุ๊กที่มีราคาสูง ขณะที่ช่องทางจำหน่ายลูกค้าร้านค้าปลีกไอทีที่เป็นเชนสโตร์ ก็มีการเติบโตขึ้น จากการเติบโตของตลาดเกม โดยเชนสโตร์ค้าปลีกไอทีสามารถดึงดูดผู้บริโภคเข้าร้านได้ดีกว่าร้านค้าปลีกรายย่อยที่ขณะนี้เริ่มทยอยปิดตัวลงไป เช่นเดียวกับลูกค้าช่องทางออนไลน์ โดยกลุ่มมาร์เก็ตเพลสชื่อดังอย่างลาซาด้า และช้อปปี้ มียอดการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ขณะเดียวกันยังมีผลิตภัณฑ์ใหม่ ทั้งโดรน และวีอาร์ (Virtual Reality) เข้ามาสร้างโอกาสในตลาดใหม่ๆ นอกจากนี้ซินเน็คยังมีบริษัทในเครือ คือ บริษัทพีที ออโต้เมท จำกัด ที่พัฒนาโซลูชันด้าน อินเตอร์เน็ตในทุกสรรพสิ่ง หรือ IoT และระบบออโตเมชัน ให้กับโรงงานอุตสาหกรรม โดยที่ผ่านมาได้เริ่มทำตลาดให้กับโรงงานอุตสาหกรรมในเขตระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ อีอีซี แล้ว โดยตลาดดังกล่าวถือเป็นตลาดใหม่ที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง เนื่องจากโรงงานอุตสาหกรรมตื่นตัวกับการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต
นางสาวสุธิดา กล่าวต่อไปว่าซินเน็ค มองดิจิตอลดิสรัปชันเป็นโอกาส เพราะสินค้าเทคโนโลยีนั้นมีผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาตลอดเวลา ซึ่งจุดแข็งของบริษัทคือเป็นดิสตริบิวเตอร์สินค้าไอที ที่มีความแข็งแกร่งทางด้านบริการหลังการขายมากสุด นอกจากนี้การเข้ามาของเทคโนโลยี 5G จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระบบเครือข่ายภายในบ้านมหาศาล เช่นเดียวกับอุปกรณ์ IoT ที่เติบโตขึ้นจาก 5G โดยในปีนี้บริษัทจะเสริมผลิตภัณฑ์กลุ่ม IoT เข้ามาทำตลาดมากขึ้น
หน้า 11 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,440 ระหว่างวันที่ 31 มกราคม - 2 กุมภาพันธ์ 2562
