นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า ดีมานด์สินค้าพรีเมียมทาวน์โฮม 3 ชั้นในปีนี้ ยังคงคึกคักอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นเรียลดีมานด์ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง หากพิจารณายอดเปิดโครงการพรีเมียมทาวน์โฮม 3 ชั้นในเมืองของผู้ประกอบการรายใหญ่ย้อนหลัง 3 ปี พบว่ามีซับพลาย์เสนอขายทั้งหมด 15,100 ยูนิต มียอดขายแล้วกว่า 4,350 ยูนิต (หรือคิดเป็น 29% ของตลาด) ซึ่งจากจำนวนสินค้าที่ขายได้เป็นสินค้าแบรนด์บ้านกลางเมืองถึง 43% ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนอันดับ 1 ของยอดขายทั้งตลาด โดยบริษัทฯ พบแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของกลุ่มลูกค้าคนเมืองที่มีอายุไม่เกิน 35 ปีให้ความสนใจซื้อพรีเมียมทาวน์โฮมแบรนด์ ‘บ้านกลางเมือง’ เพื่ออยู่อาศัย เฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 39% ในปี 2554 เป็นกว่า 60 % ในปี 2558
แนวโน้มดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมการอยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่ที่เปลี่ยนจากการอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียม มาเป็นการใช้ชีวิตในทาวน์โฮมแทน เพราะทาวน์โฮมเป็นสินค้าที่สามารถเติมเต็มความต้องการทั้งในแง่ขนาดพื้นที่ใช้สอยที่มากขึ้น และตั้งอยู่ในโลเคชั่นใจกลางเมือง ซึ่งจากความสำเร็จของยอดขายสินค้าแบรนด์ ‘บ้านกลางเมือง’ ที่สามารถครองส่วนแบ่งเป็นอันดับ 1 ในตลาดอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นความเชี่ยวชาญของบริษัทฯ ในการพัฒนาและส่งมอบพรีเมียมทาวน์โฮมแบรนด์ ‘บ้านกลางเมือง’ ที่มีความโดดเด่นในการบริหารจัดการพื้นที่ใช้สอยภายในที่เชื่อมต่อทุกพื้นที่อย่างไม่จำกัด พร้อมการออกแบบที่หรูหราสอดรับพฤติกรรมลูกค้าระดับบน และมีโลเคชั่นใจกลางเมืองที่ตรงกับสิ่งลูกค้ามองหา
“เพื่อให้สอดรับกับดีมานด์พรีเมียมทาวน์โฮม 3 ชั้นที่เพิ่มขึ้นในปีนี้ เอพี พร้อมรุกตลาดมากขึ้น ทุ่มงบการตลาดกว่า 60 ล้านบาท จัดแคมเปญ บ้านกลางเมือง LIMITLESS SPACE นวัตกรรมดีไซน์เพื่อพื้นที่ ... ที่ไม่จำกัด ตอกย้ำการเป็นผู้นำตลาดพรีเมียมทาวน์โฮม 3 ชั้นในเมือง ทั้งในแง่ส่วนแบ่งในตลาดที่มากที่สุด และประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในการพัฒนาพรีเมียมทาวน์โฮมมายาวนานกว่า 25 ปี รวมทั้งสิ้นกว่า 60 โครงการ ภายใต้กลยุทธ์หลัก การบริหารพื้นที่ใช้สอยที่สอดรับกับไลฟ์สไตล์กลุ่มลูกค้าระดับบน และความโดดเด่นเรื่องทำเลที่ตั้งใจกลางเมือง ก่อเกิด นวัตกรรมดีไซน์ บ้านกลางเมือง 6 โมเดลใหม่ โดยแต่ละโมเดลจะมีการจัดวางฟังก์ชั่นการใช้งานภายในตัวบ้านที่โดดเด่นเฉพาะตัวที่แตกต่างคู่แข่งในตลาด”