“กฤษฎา” สั่งด่วนรับมือฝนถล่มใต้เร่งช่วยเหลือเกษตรกร

16 ธันวาคม 2561
S__4333572-560x420

วันนี้ (16 ธ.ค.61) นายกฤษฏา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการทุกหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรฯ บูรณาการช่วยเหลือดูแลเกษตรกรและประชาชนในพื้นที่ที่เกิดน้ำท่วมและเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมน้ำหลาก ทั้งนี้ก่อนเข้าสู่ฤดูฝนของภาคใต้ กระทรวงเกษตรฯ ตั้งศูนย์อำนวยการและบัญชาการสถานการณ์ เพื่อติดตามประเมินสถานการณ์และเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะปริมาณฝนและน้ำท่าที่จะเพิ่มขึ้น โดยทุกพื้นที่ต้องประสานกับผู้ว่าราชการ16 จังหวัด เพื่อบูรณาการหน่วยงานแก้ไขปัญหาจุดเสี่ยงน้ำท่วมเป็นประจำ ทั้งนี้มอบให้รองปลัดกระทรวงเกษตรฯ เป็นประธานศูนย์ฯ โดยมีสำนักแผนงานและโครงการพิเศษเป็นฝ่ายเลขานุการประสานงานกรมต่างๆ เข้าพื้นที่สำรวจความเสียหาย หากมีพื้นที่ประสบภัย รวมทั้งประสานความร่วมมือกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเพื่อช่วยเหลือประชาชน กำหนดให้ศูนย์อำนวยการฯสรุปสถานการณ์เป็นรายวันจนกว่าสถานการณ์กลับสู่ปกติเพื่อให้ช่วยเหลือเกษตรกรได้ทันเหตุการณ์ S__1908945

“จากกรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ว่า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง และสตูล อาจะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยได้มอบหมายกรมชลประทานติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะสภาพฝนที่ตกลงมาในพื้นที่เพื่อเป็นข้อมูลในการวางแผนการระบายน้ำและเก็บกักน้ำไว้ใช้ได้อย่างเพียงพอ  โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง 75 จุดตั้งแต่จังหวัดเพชรบุรีลงมา” S__39231820

สำหรับเครื่องจักร-เครื่องมือที่กรมชลประทานจัดเตรียมไว้ตามโครงการชลประทานต่างๆ รวมไปถึงพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมทั่วประเทศประกอบด้วย เครื่องสูบน้ำ 1,851 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 317 ชุด เครื่องกำเนิดไฟฟ้า82 เครื่อง เรือขุด 32 ลำ รถขุด 161 คันรถแทรกเตอร์ 35 คัน รถบรรทุก/ยานพาหนะ 324 คัน และสะพานเหล็กแบบถอดประกอบได้ 1 ชุดซึ่งสำรองไว้ที่ภาคใต้ รวมทั้งสิ้น 2,803 หน่วย เพื่อให้สามารถช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่เสี่ยงภัยได้อย่างรวดเร็วทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ ให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรฯ ไปตรวจติดตามการทำงานช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อุทกภัย พร้อมตรวจสอบส่วนราชการสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ทุกหน่วยในพื้นที่บูรณาการกันไปดูแลช่วยเหลือเกษตรกรตามที่ได้กำหนดแนวทางไปปฎิบัติไว้หรือไม่ รวมถึงกำชับให้มีประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ (อ.พ.ก.)จังหวัด และรายงานสถานการณ์แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอในพื้นที่ด้วย เพื่อจะได้รับสถานการณ์และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้มากที่สุด

S__20464202

ด้าน นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำในอำเภอเมืองนครศรีธรรมราชต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด รายงานจากสำนักงานโครงการชลประทานนครศรีธรรมราชแจ้งว่า คลองนครน้อย (คลองหน้าเมือง) น้ำบ่าล้นตลิ่งแล้ว ส่วนคลองคูพาย คลองสวนหลวง และคลองป่าเหล้าปริ่มตลิ่ง มีแนวโน้มจะเพิ่มระดับสูงขึ้นอีก ส่วนชุมชนในซอยเส้นถนนพัฒนาการ-คูขวาง น้ำท่วมทุกซอยและเอ่อล้นจากซอยมายังผิวถนนพัฒนาการ-คูขวางเป็นบางจุด ความลึกเฉลี่ย 30 – 40 เซนติเมตรได้สั่งการให้โครงการชลประทานทุกโครงการฯ ในพื้นที่บูรณาการกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด รวมทั้งวางแผนบริหารจัดการน้ำ ไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน พร้อมทั้งจัดเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ และติดตั้งเครื่องสูบน้ำและผลักดันน้ำ ไว้คอยช่วยเหลือประชาชนแล้วบริเวณสี่แยกพัฒนาการคูขวาง 2 เครื่อง บริเวณซอยสวัสดิรักษา 2 เครื่อง บริเวณคลองป่าเหล้า 2 เครื่อง บริเวณสนามบิน  2 เครื่อง บริเวณสวนสมเด็จฯ 84 จำนวน 4 เครื่อง บริเวณคลองนครน้อย 3 เครื่อง (อยู่ระหว่างติดตั้ง) และเครื่องผลักดันน้ำอยู่ระหว่างติดตั้งอีก 4 เครื่อง key-west-81664_1920 ก่อนหน้านี้กรมชลประทานเตรียมการโดยกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำในคลองต่างๆไว้แล้ว นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการขุดลอกคลองธรรมชาติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำให้เร็วขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคลองธรรมชาติรอบๆ สนามบิน และคลองในเขตเทศบาลนครศรีธรรมราชได้แก่ คลองสังหยู คลองสนามบิน คลองวัดหญ้า คลองคอน คลองน้ำแคบ และคลองฝรั่งถม ซึ่งดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ภายใต้งบประมาณโครงการไทยนิยม ยั่งยืนของรัฐบาล

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว