‘แบลคมอร์ส’แตกไลน์คลอดอาหารเสริมบิวตี้
“แบลคมอร์ส” เปิดตัวสินค้าใหม่ในกลุ่มบิวตี้ ทั้งผลิตภัณฑ์อาหารเสริมแบบดื่ม และผลิตภัณฑ์สกินแคร์ รุกตลาด พร้อมชูช่องทางออนไลน์ทั้ง Website,Facebook,Line สร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องไปยังกลุ่มเป้าหมาย วางเป้าสิ้นปีโกยยอดโต 7% ตามเป้า
นางสาวผุสดี สุจิตจร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แบลค มอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมของบริษัทในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาของบริษัทมีการเติบโต 7-8% ซึ่งถือว่าเป็นการเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้แม้จะได้รับผลกระทบด้านจำนวนนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายของบริษัทลดลงในช่วงที่ผ่านมา โดยแผนงานนับจากนี้บริษัทจะให้ความสำคัญกับการเดินหน้าขยายไลน์สินค้าใหม่ๆเพื่อสร้างการเติบโตโดยช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดตัวอาหารเสริมประเภทดื่ม 2 รายการ แบลคมอร์ส โพมิโอลีฟ,แบลคมอร์ส คอลลาเจน แอคทีฟ
[caption id="attachment_356735" align="aligncenter" width="377"]
ผุสดี สุจิตจร[/caption]
พร้อมกันนี้เข้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิว 4 รายการใหม่ในกลุ่มวิตามิน อี ได้แก่ แบลคมอร์ส เนเชอรัล วิตามิน อี ครีม ลาโนลิน, แบลคมอร์ส เนเชอรัล วิตามิน อี ครีม เฟิร์ม & สมูท สกิน,แบลคมอร์ส เนเชอรัล วิตามิน อี ครีม สกิน ไบร์ท และแบลคมอร์ส เนเชอรัล วิตามิน อี ครีม สกิน แบริเออร์ ออกมาทำตลาดตั้งแต่ช่วงสิงหาคมที่ผ่านมา
สำหรับแนวทางการสื่อสารทางการตลาดของบริษัทไปยังกลุ่มเป้าหมาย โดยจะเน้นการให้ความรู้ในการดูแลสุขภาพที่ถูกต้องไปยังผู้บริโภค โดยเน้นการสื่อสารผ่านช่องทาง Website,Facebook,Line และร่วมมือกับสถาบันวิจัยแบลคมอร์ส ประเทศออสเตรเลีย จัดการประชุมวิชาการ โดยเชิญวิทยากรทั้งในและจากประเทศออสเตรเลียให้ความรู้เกี่ยวกับวิตามิน สารอาหาร การดูแลสุขภาพที่ดีและถูกต้องให้กับเภสัชกร นักวิชาการ และบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อเป็นสื่อกลางที่จะนำความรู้และการใช้ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและวิตามินอย่างถูกต้อง และสื่อสารต่อไปยังผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ
“ไลน์สินค้าในกลุ่มสกินแคร์มีวางจำหน่ายที่ประเทศออสเตรเลียมากว่า 10 ปีแล้ว และมีจำหน่ายในประเทศจีนช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งการที่เลือกนำเข้าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเข้ามาทำตลาดในไทยเพิ่มเติมเนื่องจากมองว่าตลาดบิวตี้ในเอเชียมีศักยภาพทางการเติบโตที่สูง โดยเฉพาะในไทยที่กลุ่มอาหารเสริมเพื่อความงาม ที่มีการเติบโตมากกว่าทุกเซ็กเมนต์ที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน ซึ่งแน่นอนว่าสินค้าในกลุ่มบิวตี้ของบริษัทจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น เป็นสินค้าเรือธงอย่างแน่นอน ขณะที่กลุ่มสกินแคร์จะเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันรายได้”
ทั้งนี้ประเมินว่าภาพรวมอุตสาหกรรมอาหารเสริมเพื่อความงามในปี 2562 จะกลับมาเติบโตได้ดีอีกครั้ง ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ผู้ประกอบการหลายแบรนด์เริ่มลงมาแข่งขันกันมากขึ้น กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนที่คาดการณ์ว่าจะฟื้นกลับมาอีกครั้ง โดยคาดการณ์ว่าปีหน้าภาพรวมบริษัทจะมีการเติบโตที่ 5-8% จากปีนี้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 5-7%
อย่างไรก็ตามปัจจุบันภาพรวมอุตสาหกรรมอาหารเสริมเพื่อความงามมีสัดส่วน 20% จากภาพรวมธุรกิจอาหารเสริมในช่องทางร้านขายยาที่มีมูลค่ากว่า 2,500 ล้านบาท มีการเติบโตที่ 10% โดยในส่วนของบริษัทมีการเติบโตในเซ็กเมนต์ดังกล่าวที่ 40%
หน้า 36 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,424 ระหว่างวันที่ 6-8 ธันวาคม 2561
นางสาวผุสดี สุจิตจร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แบลค มอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมของบริษัทในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาของบริษัทมีการเติบโต 7-8% ซึ่งถือว่าเป็นการเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้แม้จะได้รับผลกระทบด้านจำนวนนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายของบริษัทลดลงในช่วงที่ผ่านมา โดยแผนงานนับจากนี้บริษัทจะให้ความสำคัญกับการเดินหน้าขยายไลน์สินค้าใหม่ๆเพื่อสร้างการเติบโตโดยช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดตัวอาหารเสริมประเภทดื่ม 2 รายการ แบลคมอร์ส โพมิโอลีฟ,แบลคมอร์ส คอลลาเจน แอคทีฟ
[caption id="attachment_356735" align="aligncenter" width="377"]
พร้อมกันนี้เข้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิว 4 รายการใหม่ในกลุ่มวิตามิน อี ได้แก่ แบลคมอร์ส เนเชอรัล วิตามิน อี ครีม ลาโนลิน, แบลคมอร์ส เนเชอรัล วิตามิน อี ครีม เฟิร์ม & สมูท สกิน,แบลคมอร์ส เนเชอรัล วิตามิน อี ครีม สกิน ไบร์ท และแบลคมอร์ส เนเชอรัล วิตามิน อี ครีม สกิน แบริเออร์ ออกมาทำตลาดตั้งแต่ช่วงสิงหาคมที่ผ่านมา
สำหรับแนวทางการสื่อสารทางการตลาดของบริษัทไปยังกลุ่มเป้าหมาย โดยจะเน้นการให้ความรู้ในการดูแลสุขภาพที่ถูกต้องไปยังผู้บริโภค โดยเน้นการสื่อสารผ่านช่องทาง Website,Facebook,Line และร่วมมือกับสถาบันวิจัยแบลคมอร์ส ประเทศออสเตรเลีย จัดการประชุมวิชาการ โดยเชิญวิทยากรทั้งในและจากประเทศออสเตรเลียให้ความรู้เกี่ยวกับวิตามิน สารอาหาร การดูแลสุขภาพที่ดีและถูกต้องให้กับเภสัชกร นักวิชาการ และบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อเป็นสื่อกลางที่จะนำความรู้และการใช้ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและวิตามินอย่างถูกต้อง และสื่อสารต่อไปยังผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ
“ไลน์สินค้าในกลุ่มสกินแคร์มีวางจำหน่ายที่ประเทศออสเตรเลียมากว่า 10 ปีแล้ว และมีจำหน่ายในประเทศจีนช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งการที่เลือกนำเข้าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเข้ามาทำตลาดในไทยเพิ่มเติมเนื่องจากมองว่าตลาดบิวตี้ในเอเชียมีศักยภาพทางการเติบโตที่สูง โดยเฉพาะในไทยที่กลุ่มอาหารเสริมเพื่อความงาม ที่มีการเติบโตมากกว่าทุกเซ็กเมนต์ที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน ซึ่งแน่นอนว่าสินค้าในกลุ่มบิวตี้ของบริษัทจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น เป็นสินค้าเรือธงอย่างแน่นอน ขณะที่กลุ่มสกินแคร์จะเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันรายได้”
ทั้งนี้ประเมินว่าภาพรวมอุตสาหกรรมอาหารเสริมเพื่อความงามในปี 2562 จะกลับมาเติบโตได้ดีอีกครั้ง ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ผู้ประกอบการหลายแบรนด์เริ่มลงมาแข่งขันกันมากขึ้น กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนที่คาดการณ์ว่าจะฟื้นกลับมาอีกครั้ง โดยคาดการณ์ว่าปีหน้าภาพรวมบริษัทจะมีการเติบโตที่ 5-8% จากปีนี้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 5-7%
อย่างไรก็ตามปัจจุบันภาพรวมอุตสาหกรรมอาหารเสริมเพื่อความงามมีสัดส่วน 20% จากภาพรวมธุรกิจอาหารเสริมในช่องทางร้านขายยาที่มีมูลค่ากว่า 2,500 ล้านบาท มีการเติบโตที่ 10% โดยในส่วนของบริษัทมีการเติบโตในเซ็กเมนต์ดังกล่าวที่ 40%
หน้า 36 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,424 ระหว่างวันที่ 6-8 ธันวาคม 2561
