สร้างแบรนด์ 'ชิมชิว' เพิ่มมูลค่า! 'โกลบอลมารีน' ต่อยอดผลิตภัณฑ์สู่เป้า 500 ล้าน

22 พ.ย. 2561 | 05:37 น.
บริษัท โกลบอล มารีนฯ สร้างแบรนด์ 'ชิมชิว' หวังเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ เจาะตลาดโมเดิร์นเทรดและภัตตาคาร-ร้านอาหาร เตรียมส่งชีสบอลเข้าเซเว่นฯ รวมถึงห้างเดอะมอลล์ และส่งออกไปเกาหลีปีหน้า เชื่อดันรายได้ปี 62 แตะ 500 ล้านบาท

นายจตุพร จันทรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอล มารีน โฟรเซ่น ฟู้ด จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารทะเลแช่แข็ง เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"
ว่า บริษัทได้ดำเนินการสร้างแบรนด์ที่เป็นของตนเองเพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับอาหารทะเลแช่แข็ง ภายใต้แบรนด์ "ชิมชิว" (ShrimpChew) จากเดิมที่ธุรกิจหลักของบริษัทจะรับเป็นผู้ผลิต และจำหน่ายให้กับแบรนด์ต่าง ๆ และส่งให้กับกลุ่มผู้ประกอบการห้องเย็น ยี่ปั๊วะ และห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศ รวมถึงส่งออกไปยังประเทศเกาหลี โดยมีผลิตภัณฑ์หลักเป็นกุ้งขาวแช่แข็งกว่า 80%


IMG_9584

สำหรับแบรนด์ "ชิมชิว" ของบริษัทนั้น จะมองช่องทางการเข้าทำตลาดที่ห้างสรรพสินค้าโมเดิร์นเทรดและภัตตาคาร-ร้านอาหาร เช่น บาร์บีคิวพลาซ่า โออิชิ (Oishi) และซูกิชิ (Sukishi) เป็นต้น ซึ่งร้านดังกล่าวเหล่านี้มีอยู่ทั่วประเทศและต้องการผลิตภัณฑ์เป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ บริษัทยังมีผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่า "ชีสบอล" ซึ่งขณะนี้กำลังได้รับความนิยมจากผู้บริโภค โดยที่ผ่านมา บริษัทได้ดำเนินการผลิตและส่งให้กับบริษัทอื่นเพื่อนำไปจำหน่ายต่อ โดยในระยะต่อไปบริษัทจะเริ่มทำชีสบอลภายใต้แบรนด์ "ชิมชิว" เพื่อทำตลาด ซึ่งล่าสุด ได้มีการเจรจาทางธุรกิจกับทาง บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด แต่ยังติดปัญหาเรื่องของบรรจุภัณฑ์ เนื่องจากตามปกติบริษัทจะใส่แพ็กเกจบรรจุแบบ 20 ลูก มองว่ามากเกินไปหากเป็นลูกค้าที่ซื้อไปรับประทานเอง

อย่างไรก็ตาม จากเรื่องดังกล่าวนี้ บริษัทได้ร่วมมือกับ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ชีสบอลให้เป็นแบบพร้อมรับประทาน เพียงแค่นำเข้าเตาไมโครเวฟ เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ซื้อ โดยบริษัทได้ประสานความร่วมมือทางธุรกิจกับผู้ผลิตแป้งและเกล็ดขนมปัง ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตเรียบร้อยแล้ว ซึ่งคาดว่าจะวางจำหน่ายในเซเว่นฯ ได้ประมาณปี 2562


IMG_9595

"จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ "ชิมชิว" อยู่ที่ความสดของอาหารแช่แข็ง ซึ่งบริษัทมีข้อได้เปรียบจากการอยู่ใกล้แหล่งอาหารทะเล ทั้งจากที่มหาชัยเองและในละแวกใกล้เคียง ซึ่งจะใช้เวลาในการขนส่งไม่นานมาที่บริษัท จากนั้นก็จะเข้าสู่กระบวนการผลิตทันที ทำให้อาหารแช่แข็งของแบรนด์ยังคงสดใหม่"

ขณะที่ ผลิตภัณฑ์ชีสบอลของบริษัท ถือว่าเป็นรายแรก ๆ ที่ทำ และปัจจุบันคู่แข่งก็มีไม่มาก โดยสิ่งที่แตกต่างก็คือ บริษัทจะเลือกใช้มอสซาเรลล่าชีสนำเข้าจากประเทศเบลเยียมมาเป็นไส้ด้านใน ขณะที่ ในส่วนของมันฝรั่งที่ห่อหุ้มชีสก็จะเลือกใช้จากไร่ที่ปลูกจาก จ.เชียงใหม่ ก่อนที่จะนำมาชุบกับเกล็ดขนมปัง ด้านของบรรจุภัณฑ์ก็จะออกแบบให้เป็นถาดหลุม ทำให้ตัวชีสบอลทับกันจนเละ และมีความเป็นพรีเมียม แต่จำหน่ายในราคาที่สามารถเข้าถึงได้


IMG_9586

"ชีสบอลของบริษัทยังมองไปถึงตลาดส่งออกด้วย โดยล่าสุด ได้มีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ไปยังประเทศเกาหลี ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค โดยปัจจุบันมีชีสบอลที่เป็นแบบหุ้มด้วยมันฝรั่งและหุ้มด้วยมันม่วง ซึ่งกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากผู้บริโภค"

นายจตุพร กล่าวต่อไปอีกว่า จากกลยุทธ์การทำตลาดดังกล่าวและการสร้างแบรนด์เป็นของตนเอง ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ หลังจากที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแช่แข็งจะมีอัตราผลตอบแทนกำไรที่ค่อนข้างน้อย และราคามีความผันผวนตามวัตถุดิบ โดยเชื่อในปี 2562 บริษัทจะมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 400 ล้านบาท จากการจำหน่ายภายในประเทศ แต่หากรวมตลาดส่งออกด้วย คาดว่าจะมีรายได้ถึง 500 ล้านบาท


หน้า 13 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3420 วันที่ 22-24 พฤศจิกายน 2561

595959859