"สนธิรัตน์"ยันตอนนี้ไม่มีใครได้รับการคุ้มครองสิทธิบัตรสารสกัดจากกัญชา

13 พ.ย. 2561 | 02:56 น.
"สนธิรัตน์"ยัน ตอนนี้ไม่มีใครได้รับการคุ้มครองสิทธิบัตรสารสกัดจากกัญชา รวมทั้งจะสนับสนุนหากศึกษาพบว่ากัญชาสร้างประโยชน์ต่อประเทศ แต่ก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายที่ทำได้

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  กล่าวถึงกรณีการยื่นจดสิทธิบัตรสารสกัดกัญชาตามธรรมชาติของบริษัทต่างชาติในประเทศไทยนั้นว่า  ขณะนี้ยังไม่มีใครได้รับจดสิทธิบัตรหรือได้รับการคุ้มครองแต่อย่างไร  โดยตามขั้นตอนขณะนี้อยู่ในส่วนของการประกาศโฆษณา 90  วันเพื่อเปิดให้มีการคัดค้าน หากพ้นระยะเวลาก็เข้าสู่กระบวนการตรวจสอบต่อไป ทั้งนี้เหตุที่มีการรับยื่นขอจดสิทธิบัตรนั้นตามหลักสากลทั่วไปหรือกฎหมาย หน่วยงานที่ดูแลจะปฎิเสธการยื่นคำร้องเพื่อขอจดสิทธิบัตรไม่ได้ ดังนั้นหน่วยงานอย่างกรมทรัพย์สินทางปัญญาที่รับหน้าที่ดูแลในเรื่องนี้ก็ต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนและกฎหมาย เพื่อตรวจสอบไปตามปกติ

แต่ทั้งนี้เมื่อพ้นระยะเวลาโฆษณาก็จะไปสู่ขบวนการตรวจสอบต่อไปหากมีการคัดค้านก็ต้องพิจารณาตามหลักฐาน เอกสารเพิ่มเติม ซึ่งใช้ระยะเวลา 5  ปีในการพิจารณา แต่อย่างไรก็ดี ตามกฎหมายของไทยแล้วไม่สามารถจดสิทธิบัตรเพื่อคุ้มครอง สารสกัดที่มาจากพืช หรือสัตว์ได้  ดังนั้นการขอยื่นคุ้มครองสิทธิบัตรสารสกัดจากกัญชาของบริษัทดังกล่าวจึงไม่สามารถที่จะรับจดสิทธิบัตรเพื่อขอรับการคุ้มครองได้  แต่หากบริษัทดังกล่าวจะนำไปยื่นที่ต่างประเทศนั้นก็เป็นขบวนการ ขั้นตอนที่สามารถทำได้

กรอบคำพูด 2.indd “ดังนั้นไม่ต้องการให้ประชาชนหรือหน่วยงานส่วนงานที่เกี่ยวข้องกังวลในเรื่องนี้ ยังสามารถวิจัย พัฒนากัญชาเพื่อประโยชน์ต่อประเทศได้ต่อไปอีกทั้ง  ตนก็พร้อมจะสนับสนุนหากกัญชาสามารถสร้างประโยชน์ต่อประเทศหรือเป็นพืชเศรษฐกิจได้ แต่ทั้งนี้ ก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายที่สามารถรองรับได้ ซึ่งต้องมีความชัดเจนและเมื่ออนาคตมีความชัดเจนทางกฎหมายจริง ก็เห็นสมควรที่จะต้องสนับสนุน พัฒนาเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมให้ได้”

นอกจากนี้ทางนายกรัฐมนตรีก็ยังให้ความสำคัญในการศึกษาถึงผลประโยชน์จากกัญชายังได้มอบหมายให้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษาว่าจะพัฒนาและต่อยอดในการใช้ประโยชน์ได้อย่างไรบ้าง อีกทั้งให้ศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้อง จะดำเนินการอย่างไรเพื่อให้สอดคล้องและจะได้ดำเนินการแก้ไขต่อไป โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดที่จะได้รับโดยไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชน และผู้ที่เกี่ยวข้อง

“สำหรับนักวิจัยไทยยังสามารถนำการประดิษฐ์ เช่น ตำรับยา สารสังเคราะห์ชนิดใหม่ หรือวิธีการพัฒนาสายพันธุ์พืชกัญชา จากการวิจัยและมาขอจดสิทธิบัตรได้อีกด้วย อันจะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ยาในอนาคต  อีกทั้ง กรมทรัพย์สินทางปัญญา ที่ดูแลเรื่องนี้  จะดำเนินการตามกฎหมายสิทธิบัตรด้วยความรอบคอบรัดกุมและเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย และยินดีเปิดรับข้อมูลและหลักฐาน  ทางวิชาการจากทุกภาคส่วนเพื่อใช้ประกอบการพิจารณา เพื่อให้ระบบสิทธิบัตรของไทยเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และจะเป็นพื้นฐานของการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศต่อไป”

[caption id="attachment_346099" align="aligncenter" width="335"]  เพิ่มเพื่อน [/caption]