"เอ็นเอชกรุ๊ป" เรือธง 'ไมเนอร์' ขึ้นแท่นเชนโรงแรมระดับโลก!!

23 ก.ย. 2561 | 06:52 น.
ก้าวย่างที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจสำหรับการเข้าสู่ปีที่ 51 ของ "ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล" หรือ MINT ถือว่าเป็นปีที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก สำหรับการดำเนินธุรกิจโรงแรม โดยเฉพาะนับจากเมื่อเดือนมิถุนายนปีนี้ ที่ MINT ตัดสินใจเข้าไปลงทุนซื้อกิจการของ "เอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ป" (NH Hotel Group) เชนโรงแรมจากประเทศสเปน ด้วยการเริ่มเข้าไปถือหุ้นในสัดส่วน 9.5% จากนั้นก็ทยอยซื้อหุ้นเพิ่ม จนเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นเชนโรงแรมดังของสเปนเป็น 44.5% ซึ่งกระบวนการทำคำเสนอซื้อหุ้นจะเสร็จสิ้นภายในเดือนตุลาคมปีนี้

ปักธง 540 รร.ทั่วโลก
ทั้ง MINT ยังมีเป้าหมายที่จะถือหุ้นใน เอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ป ในสัดส่วน 51-55% และมีแผนจะให้ เอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ป ยังคงเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มาดริดต่อไป โดยเม็ดเงินในการเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดดังกล่าว MINT ประเมินว่า ต้องใช้เงินลงทุนราว 1.3 พันล้านยูโร (5-6 หมื่นล้านบาท)

ดีลนี้ถือว่ามีมูลค่าการลงทุนที่สูงกว่าทุกครั้งก็ว่าได้ เพราะตอนที่ MINT ไปซื้อ เชนทิโวลี โฮเทลส์ แอนด์ รีสอร์ทส์ ซึ่งเชนโรงแรมเก่าแก่ของโปรตุเกส เมื่อปี 2559 ตอนนั้นลงทุนอยู่ที่ 294.2 ล้านยูโร นี่เองจึงทำให้ MINT เลือกที่จะออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน ไถ่ถอนเมื่อเลิกบริษัท ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนกำหนด หลังครบอายุ 5 ปี ที่จะเปิดเสนอขายระหว่างวันที่ 24-27 ก.ย. จำนวนไม่เกิน 1.5 หมื่นล้านบาท เพื่อระดมเงินมาใช้ในการลงทุน โดยที่ยังคงรักษาอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นในปี 2562 ให้อยู่ที่ 1.3 เท่า

การยอมลงทุนสูงมากในครั้งนี้ของ MINT ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่า โปรไฟล์ เอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ป มีดีกรีความเป็นเครือข่ายโรงแรมอันดับ 6 ของทวีปยุโรป และอยู่ในอันดับ 27 ของโลก มีโรงแรมในเครือทั้งหมด 385 แห่ง จำนวนห้องพักรวมเกือบ 6 หมื่นห้อง

ดังนั้น เมื่อรวมกับ เอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ป ปัจจุบัน ไมเนอร์ โฮเทลส์ จะเป็นเจ้าของแบรนด์โรงแรมรวมกว่า 9 แบรนด์ ได้แก่ แบรนด์อนันตรา, อวานี, โอ๊คส์, ทิโวลี, เอเลวาน่า และแบรนด์ในเครือ เอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ป ได้แก่ NH Hotels, NH collectionHotels, nhow Hotels, Hesperia มีโรงแรมและรีสอร์ตในเครือรวมกว่า 540 แห่งทั่วโลก


mp22-3402-a

ขึ้นเชนอันดับ 23 ของโลก
ทั้งยังทำให้ ไมเนอร์ โฮเทลส์ ก้าวขึ้นมาเป็นเชนโรงแรมระดับโลก โดยจากข้อมูลของ Hotelsmag.com เดือน ก.ค.-ส.ค. 2561 เผยว่า เชนไมเนอร์ โฮเทลส์ ซึ่งเป็นเชนของคนไทย ขยับมาเป็นโรงแรมที่มีจำนวนห้องพักมากที่สุดอยู่ในอันดับ 23 ของโลก ด้วยโรงแรมจำนวน 538 แห่ง มีห้องพักจำนวน 7.91 หมื่นห้อง เพิ่มจากการจัดอันดับในปี 2560 ที่ไมเนอร์ โฮเทลส์ อยู่ที่อันดับ 68 และเอ็นเอช โฮเทลส์ กรุ๊ป อยู่ในอันดับ 27 โดยที่แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ของสหรัฐอเมริกา ที่ครองอันดับ 1 เชนที่มีโรงแรมมากที่สุดในโลก ด้วยห้องพัก 1.19 ล้านห้อง จำนวน 6.33 พันโรงแรม ตามมาด้วยอันดับ 2 คือ ฮิลตัน เชน ของสหรัฐอเมริกา และอินเตอร์คอนติเนนตัล (IHG) เชนของอังกฤษ ที่อยู่ในเป็นอันดับ 3

อีกทั้งการลงทุนใน เอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ป ยังเป็นการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ในการดำเนินธุรกิจของไมเนอร์ ที่ต้องการขับเคลื่อนกลยุทธ์การลงทุน เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับฐานการดำเนินงานของบริษัทในอุตสาหกรรมโรงแรมในทวีปยุโรป ซึ่งด้วยเครือข่ายธุรกิจของ เอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ป ที่ไม่ซํ้าซ้อนกับเครือข่ายธุรกิจเดิมของไมเนอร์ทั่วโลก จะส่งผลให้ทั้ง 2 บริษัท ได้ประโยชน์จากความเป็นผู้นำในตลาดที่มีการเติบโตสูง เครือข่ายโรงแรมและแบรนด์ที่ช่วยส่งเสริมธุรกิจให้กันและกัน ระบบเทคโนโลยี และบุคลากรที่มีความสามารถ และเป็นไปตามกลยุทธ์ของ MINT ในการหาโอกาสในการลงทุนทางการเงินที่มีความน่าดึงดูด เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับบริษัทอีกด้วย


ต่อยอดแบรนด์อาหารสู่ยุโรป
ไม่เพียงแต่เรื่องของโรงแรม  MINT ยังมองการต่อยอดแบรนด์อาหารที่เหมาะสม อาทิ เดอะ คอฟฟี่ คลับ, เบนิฮานา เข้าไปสู่โรงแรมต่าง ๆ ภายใต้แบรนด์ของ เอ็นเอช โฮเทล ด้วย เนื่อง จาก MINT ก็ถือเป็นผู้นำในธุรกิจร้านอาหาร ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย การร่วมมือกันจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้า และโอกาสการเติบโตธุรกิจมากกว่าที่แต่ละบริษัทจะทำได้เอง

นอกจากการขยายการเข้าไปลงทุนใน เอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ป ไมเนอร์ โฮเทลส์ ก็ยังมองที่จะขยายการรับบริหารและลงทุนในแบรนด์โรงแรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น อวานี ซึ่งปัจจุบันแบรนด์โรงแรมดังกล่าวมีมากถึง 23 แห่งแล้วในหลายประเทศ ทั้งที่เป็นการลงทุนของไมเนอร์เองและการรับบริหาร ส่วนแบรนด์อื่น ๆ ก็ยังคงขยายการรับบริหารอย่างต่อเนื่องในหลายประเทศ


William

โดยไมเนอร์ โฮเทลส์ ตั้งเป้าหมายว่า ในปี 2564 จะทำรายได้จากโรงแรมในต่างประเทศได้ในสัดส่วนมากถึง 68% เทียบกับในปี 2551 ที่รายได้ส่วนใหญ่กว่า 90% มาจากตลาดโรงแรมในไทย และเพิ่มจากปัจจุบัน ที่รายได้จากต่างประเทศมีสัดส่วนราว 54% และในไทยอยู่ที่ 46% และการขยายแบรนด์ไปต่างประเทศ รวมถึงการเทกโอเวอร์เชนที่เกิดขึ้น ยังช่วยสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ สร้างความหลากหลายของแหล่งรายได้ ทำให้ไมเนอร์ โฮเทลส์ ก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นในระดับโลกอย่างแท้จริงนั่นเอง

อนึ่ง ไมเนอร์ โดยวิลเลี่ยม ไฮเน็ค ได้ลงทุนธุรกิจโรงแรมในปี 2521 ในพัทยา ปัจจุบัน ดำเนินธุรกิจครบ 50 ปี มีโรงแรมในเครือกว่า 540 แห่ง ร้านอาหาร 2,130 สาขา และจุดจำหน่ายสินค้าแฟชั่นและเครื่องใช้ในบ้านกว่า 429 แห่ง

จากเงินลงทุนกว่า 1 พันดอลลาร์สหรัฐฯ (2.5 หมื่นบาท เมื่อ 50 ปีที่ผ่านมา) ปัจจุบัน มีมูลค่าตามราคาตลาดมาก กว่า 1.7 แสนล้านบาท มีพนักงานมากกว่า 8 หมื่นคนทั่วโลก


รายงาน โดย ธนวรรณ วินัยเสถียร
หน้า 22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3402 ระหว่างวันที่ 20 - 22 กันยายน 2561


ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว