เปิดวิชันนายกฯขายตรงไทย รับไม้ต่อสร้าง‘ขายตรงสีขาว’

25 ส.ค. 2561 | 08:47 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

ผ่านพ้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วกับการเปิดตัวนายกสมาคมการขายตรงไทยพร้อมคณะกรรมบริหารชุดใหม่ ภายใต้การนำของ “สุเทพ ยืนยงค์วิทยากุล” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นิว ไลฟ์ เวิลด์ ไวด์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกสมาคมการขายตรงไทยวาระ 2 ปี (กรกฎาคม 2561-มิถุนายน 2563)

“ฐานเศรษฐกิจ” ได้มีโอกาสร่วมพูดคุยถึงทิศทางการดำเนินงาน พร้อมวิสัยทัศน์ของทางสมาคมนับจากนี้
“4CPlus” รับเทรนด์ดิจิตอล

นายสุเทพ เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินงานของทางสมาคมนับจากนี้จะยังคงสานต่อนโยบายเดิมในการผลักดันการเติบโตต่อเนื่องให้กับอุตสาหกรรมการขายตรงไทย พร้อมปณิธานใหม่ที่จะสร้างความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมขายตรง ด้วยการดูแลและตอบแทนสิ่งดีๆ คืนสู่สังคม ขณะเดียวกันจะส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรในสายขายตรงให้รู้จักปรับตัว ก้าวให้ทันกับโลกสมัยใหม่ในยุคดิจิตอล ภายใต้นโยบาย “4C Plus” ที่จะนำพาอุตสาหกรรมขายตรงไทย ให้เติบโตอย่างต่อเนื่องบนโลกดิจิตอลเพื่อก้าวทันกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป

[caption id="attachment_308634" align="alignleft" width="300"] สุเทพ ยืนยงค์วิทยากุล สุเทพ ยืนยงค์วิทยากุล[/caption]

ทั้งนี้นโยบาย “4C Plus” ประกอบไปด้วย 1. Core Culture คือการส่งเสริมและปลูกฝังการมีจิตวิญญาณการเป็นผู้ประกอบการ และนักธุรกิจ ขายตรงที่ยึดมั่นในคุณธรรมและจรรยาบรรณ 2. Community & Charity การเสริมสร้างภาพลักษณ์อุตสาหกรรมขายตรงไทยและการทำความดีตอบแทนสังคม 3. Competitiveness & Righteousness การยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่บริษัทสมาชิก และนักธุรกิจขายตรงให้เข้าถึงเทคโนโลยีสื่อสารสมัยใหม่บนพื้นฐานการดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้อง และ 4. Connection & Development การเข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้าง รวมถึงคุ้มครองสิทธิและประโยชน์ของผู้บริโภค ตลอดจนการสร้างสายสัมพันธ์ความสามัคคีของกลุ่มสมาชิกในสมาคม และการขยายฐานสมาชิกให้เพิ่มมากขึ้น

อย่างไรก็ตามทิศทางของอุตสาหกรรมขายตรงไทยว่า ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 7.1 หมื่นล้านบาท และในปีนี้คาดว่าตลาดจะเติบโตราว 3% จากปีที่ผ่านมา โดยการเติบโตที่ต่อเนื่องนั้นมาจากปัจจัยด้านความเอาใจใส่ของผู้บริโภคทั้งในเรื่องสุขภาพและความงาม และยังคงเป็นแนวโน้มที่ดีต่อไป ซึ่งผู้บริโภคยินดีจะจ่ายเงินเพิ่มมากขึ้นเพื่อซื้อสินค้าที่มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ดีกว่า สอดคล้องกับตลาดขายตรงที่ผู้ประกอบการต่างให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้ากลุ่มสุขภาพและความงามที่มีนวัตกรรมและแตกต่าง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค

ขณะที่อีกหนึ่งปัจจัยหลักที่ผลักดันให้ธุรกิจขายตรงยังมีการเติบโตคือการเข้ามาของ “ดิจิตอล” ซึ่งนับว่ามีผลดีที่จะช่วยให้การธุรกิจมีความสะดวก รวดเร็ว และง่ายขึ้น โดยทางสมาคมได้มีการนำ Digital Marketing เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนธุรกิจขายตรงให้เติบโต อีกทั้งยังมีการนำมาใช้ดูแลซึ่งกันและกันระหว่างสมาชิก บริษัท และสมาคมให้สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ซึ่งแตกต่างจากในอดีตที่การทำธุรกิจขายตรงนั้น จะมีการติดต่อทางโทรศัพท์ การนัดเจอหน้าที่ต้องใช้เวลาในการขับรถหรือเดินทาง

090861-1927-9-335x503-3
แก้ปม“ขายตรง” สู่ “White Ocean”

นายสุเทพ ยังกล่าวต่ออีกว่า ที่ผ่านมาภาพลักษณ์ของธุรกิจขายตรงมักจะถูกกังขาจากประชาชนทั่วไปว่าการเข้ามาทำธุรกิจขายตรงนั้นจะมีภาพลักษณ์ที่ดีหรือสง่างามในสายตาคนทั่วไปหรือไม่ เนื่องมาจากกระแสข่าวในด้านลบที่ออกมา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาแชร์ลูกโซ่ ,การต้มตุ๋นหลอกลวง ซึ่งตรงนี้คืออีกจุดหนึ่งที่ทางสมาคมพยายามเร่งแก้ไขและสร้างภาพลักษณ์ธุรกิจขายตรงสู่ความเป็น “ธุรกิจขายตรงสีขาว” หรือ “White Ocean” เพื่อให้การดำเนินธุรกิจมีภาพลักษณ์ที่ดี มีความยุติธรรม พร้อมทั้งป้องกลุ่มผู้ที่จะเข้ามาหลอกลวง

“ปัญหาเรื่องเครือข่าย Money Game และแชร์ลูกโซ่ที่เน้นให้ผลตอบแทนจากแผนการลงทุนที่ผิดกฎหมาย ซึ่งยังคงแฝงตัวอยู่ในอุตสาหกรรมขายตรงไทยนั้น นับเป็นปัญหาเรื้อรังและจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยสมาคมจะมุ่งให้ความสำคัญกับการนำกลยุทธ์สีขาวเข้ามาใช้เพื่อสร้างธุรกิจขายตรงให้การเติบโตแบบยั่งยืน ผ่านการให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับธุรกิจขายตรงผ่านสถาบันการศึกษา และประชาชนทั้งในภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง เช่นการจัดงานมหกรรม หรือการออกไปโรดโชว์ ตามพื้นที่และจังหวัดต่างๆ เพื่อให้เป็นสื่อกลางในการเผยแพร่ข้อมูลเพื่อให้ผู้บริโภคไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของเรื่องดังกล่าว”

 

 

หน้า 36 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,395 ระหว่างวันที่ 26-29 สิงหาคม 2561

e-book-1-503x62-7