คืนความศักดิ์สิทธิ์ กฎหมายปราบนอมินี

เหตุการณ์เรือท่องเที่ยวล่มที่จังหวัดภูเก็ต จนส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก นับเป็นโศกนาฏกรรมครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์การท่องเที่ยวของไทย และถูกกดดันอย่างหนักจากรัฐบาลจีนให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด

ต้องยอมรับว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนอกจากสภาพอากาศและมาตรฐานความปลอดภัยในการเดินเรือแล้ว “ทัวร์ศูนย์เหรียญ และนอมินี” ก็เป็นปัญหาใหญ่ปัญหาหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังอุบัติเหตุครั้งนี้ ซึ่งเราเห็นด้วยกับรัฐบาลและ “พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล” รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ที่ประกาศจัดการกับทัวร์ศูนย์เหรียญ และบริษัทนอมินีอย่างจริงจัง

นอกจากการตรวจสอบทัวร์ศูนย์เหรียญและนอมินีด้านการท่องเที่ยวแล้ว รัฐบาลควรใช้โอกาสนี้ขยายผลการตรวจสอบนอมินีไปยังธุรกิจอื่นๆ อย่างจริงจังด้วย โดยเฉพาะ อสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจเกษตร ที่มีเสียงพูดกันหนาหูว่ากลุ่มทุนจีนได้ใช้นอมินีเข้ามาทำธุรกิจเหล่านี้เป็นจำนวนมาก

เราไม่ปฏิเสธการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนของทุนต่างชาติ แต่การเข้ามาลงทุนนั้นต้องปฏิบัติตามกฎหมายไทยที่มีอยู่ในมาตรฐานเดียวกัน ในขณะที่หน่วยงานกำกับดูแล โดยเฉพาะกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ที่ดูแลการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ตามพ.ร.บ. การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ต้องไม่ปล่อยให้นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาประกอบธุรกิจโดยผิดกฎหมาย

[caption id="attachment_298056" align="aligncenter" width="501"]

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล[/caption]

อย่างไรก็ตามหากดูจากข้อมูลการตรวจสอบบริษัทต่างชาติที่เข้ามาประกอบธุรกิจในไทย และใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพรางหรือนอมินีของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา คือตั้งแต่ปี 2556 ถึงปี 2560 กลับน่าผิดหวังอย่างยิ่งในการดำเนินการเอาผิดกับนอมินีต่างชาติ

จากรายงานผลงานประจำปีของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาพบว่า กรมได้เข้าไปตรวจสอบบริษัทต่างชาติที่เข้ามาประกอบธุรกิจในไทย และใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพรางหรือนอมินีในเชิงลึกกว่า 2,000 บริษัท แต่การตรวจสอบส่วนใหญ่กลับไม่พบความผิด มีเพียง 61 บริษัทเท่านั้นที่พบว่าใช้คนไทยเป็นนอมินีถือหุ้นแทน และส่งเรื่องต่อให้กรมสอบสวนคดี พิเศษดำเนินคดี

ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่จะมีบริษัทนอมินีเกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด หลังจากนี้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเรียกความศักดิ์สิทธิ์ของ พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 กลับคืนมา ด้วยการดำเนินการอย่างจริงจังกับการตรวจสอบเอาผิดกับบริษัทนอมินีต่างชาติ ที่ทำธุรกิจแบบผิดกฎหมายและเอาเปรียบ