ฐานโซไซตี : ททท.จ่อเปิดแผนท่องเที่ยวปี 62 คาดรายได้ 3.34 ล้านล้านบาท
แผนปีหน้า ททท. คาดว่าท่องเที่ยวไทยยังขยายตัว 10% มีรายได้ไม่ตํ่ากว่า 3.34 ล้านล้านบาท ส่วนเรื่องจำนวนนักท่องเที่ยว ชัดเจนว่า “เลิกพูด” กันมานาน แต่ประเมินว่าปีหน้าจะแตะ 40 ล้านคน สิ้นปีนี้จะถึง 37.5 ล้านคน ทัวร์จีนครองแชมป์เบอร์ 1 ภาพรวมท่องเที่ยวไทย “อู้ฟู่” ต่อเนื่อง และเมื่อสัดส่วนต่างชาติเริ่มจะมากกว่าคนไทย จึงเกิดคำถามต่างๆ ขึ้นมากมาย โดยเฉพาะทัวร์จีนปีหน้าคาดว่าเกิน 11 ล้านคนหรือมีมาร์เก็ตแชร์ร่วม 25% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด“เสี่ยง” เกินไป เพราะหากเกิดปัญหา ตัวเลขจะ“วูบหาย” ไปทันที จำเป็นต้อง“บาลานซ์”นักท่องเที่ยวจากอาเซียน หรือเอเชีย เข้ามาช่วยเสริม
ต่างชาติทะลักเข้าไทย “40 ล้านคน” ก็อย่าหลงดีใจ ปัญหาตามมาคือสิ่งอำนวยความสะดวกรับไหวไหม? ไม่แน่นอน มีปัญหาตั้งแต่ด่านแรกสนามบิน แออัดยัดเยียด ทั้งอาคารผู้โดยสารแทบแตกสลอตไทม์การบินแน่นไปหมด ทั้งที่เรื่องสนามบินแออัดพูดกันมานานแต่ก็ติดขัดขั้นตอน กฎ ระเบียบ ความเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ทำให้แผนขยายสนามบินล่าช้ามาก เรื่องนี้ทั้งคนในวงการท่องเที่ยว ผู้โดยสารก็โวยมาตลอดแต่ทำอะไรไม่ได้มาก นอกจาก “บ่น” ตามโลกโซเชียลเมื่อเจอเคสหนักๆ
ความเป็นจริงสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ทั้ง 2 แห่งขยายการรองรับได้เต็มที่ก็ 10 ล้านคนต่อปี ความหวังเดียวก็คือลุ้นสนามบินอู่ตะเภาผ่องถ่ายผู้โดยสาร ปีที่แล้วอู่ตะเภามีผู้โดยสารใช้บริการ7แสนคนปีนี้คาดว่าจะเพิ่มเท่าตัว และรอง รับได้ถึง “2 ล้านคน” ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มเป็น 15 ล้านคนในอีก 5 ปี และความหวังของทุกฝ่ายคือ ลุ้นรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินเปิดให้บริการเพื่อเชื่อมโยงนักท่องเที่ยวระหว่างกัน ซึ่งก็ต้องรอไม่ตํ่ากว่า 3 ปีกว่าจะเปิดใช้บริการตามไทม์ไลน์ของรัฐบาล
ปัญหาเหล่านี้ทำให้แผนการท่องเที่ยวไม่สามารถ “บูมมากกว่านี้” อย่างเก่งก็แค่รักษาตลาดไม่ให้หดตัวและมุ่งไปโปรโมตตลาดบนแทน ส่วนตลาด “แมส” อย่างไรก็มาตามกระแสอยู่แล้ว ซึ่งทุกฝ่ายรู้อยู่แก่ใจว่ารับไม่ไหว ตั้งตารออีกอย่างตํ่า 3 ปี หลังไฮสปีดเทรนด์ “เปิดหวูด”ส่วนการผลักไปเที่ยวเมืองรองก็ไม่ใช่จะทำได้ทั้ง 55 เมือง เช็กลิสต์ดูแล้ว มีความพร้อมอยู่ไม่กี่แห่งและในระดับหนึ่งเท่านั้น แหล่งท่องเที่ยวหลักยังแออัดเหมือนเดิม แหล่งท่องเที่ยวไทยจะ“พัง”หรือ“ปัง” นโยบายต้องชัด
เมื่อแบ่งตามคาแรกเตอร์ของสนามบินพบว่า ดอนเมืองเป็นสนามบินรองรับสายการบิน “โลว์คอสต์” สุวรรณภูมิ รองรับสายการบินประเภท “เน็ตเวิร์ก” ส่วนอู่ตะเภาจะเป็นสนามบินแบบ“มิกซ์” คือรับทั้ง 2 รูปแบบ ซึ่งแอร์เอเชีย จากมาเลย์ เสนอตัวดึงเที่ยวบินโลว์คอสต์ย้ายฐานจากเคแอลมาอยู่อู่ตะเภา แต่ขอส่วนลดพิเศษ แลกเปลี่ยนการันตีกับจำนวนผู้โดยสาร 15 ล้านคน ซึ่งคาดว่าภายใน 3 เดือนน่าจะมีคำตอบ หรือเผลอๆ อาจจะโผล่โลว์คอสต์เทอร์มินัลเพิ่มเติมก็ได้
“ดร.ชาญกฤช เดชวิทักษ์” รองประธาน TMILL จะร่วมงาน “mai FORUM 2018 มหกรรมรวมพลังคน maiครั้งที่ 5” พร้อมให้ข้อมูลทางธุรกิจอย่างใกล้ชิดแก่ผู้ลงทุนนักวิเคราะห์ ณ บูธหมายเลข 79-80 วันที่ 1 กรกฎาคม ที่บางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ ชั้น 22 โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์
“พสุ โลหารชุน” ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมตอบ รับเป็นประธานในพิธีเปิดงาน “ฟาสต์ ออโต โชว์ไทยแลนด์ 2018” งานแสดงรถยนต์ใหม่และรถยนต์ใช้แล้วในวันที่ 27 มิถุนายน 9 โมงเช้า ทำเอา“พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์” ปลื้มไปตามๆ กัน งานมีถึงวันที่ 1 กรกฎาคม ณ ฮอลล์ EH 105- 106 ไบเทค บางนา
สมาคมแพทย์ผิวหนังฯ จัด live chat ครั้งแรก แบบเรียลไทม์! ในหัวข้อ “จ่ายแพง...แล้วยังพัง...ฟังทางนี้ Tips วิธีเลือกเครื่องสำอาง” โดย “รศ.พ.ญ.รังสิมา วณิชภักดีเดชา” ดำเนินรายการโดย โอปอล์ ปาณิสรา อารยะสกุล พบกันทางเพจเฟซบุ๊ก “ครบเครื่องเรื่องผิวหนัง” วันที่ 27 มิถุนายน เวลา 5 โมงเย็นเป็นต้นไป
|คอลัมน์ : ฐานโซไซตี
|โดย : พริกกะเหรี่ยง
|หน้า 4 ฉบับที่ 3,378 ประจำวันที่ 28 -30 มิถุนายน 2561
