'สยามกลการ' จัดทัพใหม่! ไม่ขายนิสสันเพิ่ม ลดดีลเลอร์ รื้อโชว์รูม ขึ้นคอนโดฯ
กลุ่มสยามกลการ เล็งปรับแผนธุรกิจโดยลดบทบาทการเป็นดีลเลอร์รถยนต์ จากเคยถือ 'นิสสัน' 13 แห่ง ล่าสุด เหลือ 7 แห่ง และไม่ขยายเพิ่ม พร้อมปรับที่ดินโชว์รูมเก่าพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แทน แต่ยืนยัน ไม่ทิ้งธุรกิจยานยนต์ เน้นผลิตชิ้นส่วนป้อนอุตสาหกรรมยานยนต์และเครื่องจักรกลหนัก
นายประณิธาน พรประภา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามกลการ จำกัด กล่าวว่า บริษัทสนใจขยายธุรกิจเข้าไปในภาคอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น จากเดิมที่มีธุรกิจกลุ่มนี้อยู่แล้ว อย่าง สนามกอล์ฟ สยามคันทรี่คลับ พัทยา และโรงแรมสยาม แอท สยาม กรุงเทพฯ และพัทยา , โรงแรมเมอเวนพิค สยาม โฮเทล นาจอมเทียน พัทยา , ทรอปิคานา โฮเทล และเชาว์ โฮสเทล กรุงเทพฯ
"เรากำลังขยายและศึกษาในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพราะเรามีที่ดินอยู่หลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น ในเขตกรุงเทพฯ ที่บางจุดได้หยุดธุรกิจการจำหน่ายรถยนต์ใหม่ (ดีลเลอร์) ซึ่งมองว่า พื้นที่ดังกล่าวมีโอกาสและศักยภาพ โดยอาจจะเป็นการลงทุนเพื่อทำคอนโดมิเนียม หรือ อสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบอื่น ๆ นอกจากนี้ ยังมีที่ดินในพื้นที่อีอีซี จ.ชลบุรี อีกหลายแปลงด้วย"
สำหรับการปรับแผนเข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในครั้งนี้ สอดคล้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้า เพราะเดิมกลุ่มสยามกลการที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้แทนจำหน่ายรถยนต์นิสสัน มีโชว์รูมและศูนย์บริการรวม 13 แห่ง แต่ปัจจุบัน ลดเหลือเพียง 7 แห่ง ได้แก่ สำนักงานใหญ่ พระราม 1 ปทุมวัน , ลาดพร้าว , บางจาก , บางนา , วิภาวดีฯ , เพชรบุรีตัดใหม่ และประเวศ ขณะที่ อีกหนึ่งแบรนด์ที่เป็นตัวแทนจำหน่าย คือ ฮอนด้า มี 1 แห่ง ได้แก่ สาขาสะพานหัวช้าง
โดยแผนธุรกิจการเป็นผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ คาดว่าจะไม่มีการเปิดเพิ่ม และพื้นที่ที่ปิดตัวไปก่อนหน้า ก็จะนำไปต่อยอดในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แทน
นายประณิธาน กล่าวยืนยันว่า แม้จะขยายเข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น แต่กลุ่มออโตโมทีฟจะยังคงเป็นธุรกิจหลักของบริษัท หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 60%
อนึ่ง กลุ่มสยามกลการก่อตั้งในปี 2495 โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่บนถนนพระราม 1 และเริ่มดำเนินธุรกิจการจำหน่ายรถยนต์ใหม่-เก่า และได้รับการแต่งตั้งจาก บริษัท นิสสัน ดัทสัน แต่ผู้เดียวในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นผู้แทนจำหน่ายในต่างประเทศรายแรกของ นิสสัน มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น
หลังจากนั้น ในปี 2505 ได้ตั้งโรงงานประกอบรถยนต์นิสสันเป็นแห่งแรกในประเทศไทย ภายใต้ชื่อ 'บริษัท สยามกลการและนิสสัน จำกัด' มีกำลังการผลิตวันละ 4 คัน มีพนักงานเพียง 120 คน ต่อมาได้ขยายโรงงานไปอยู่ศูนย์อุตสาหกรรมสยามกลการ ถนนบางนา-ตราด กม.21 บนพื้นที่ 800 ไร่ และตั้งโรงงานประกอบรถกระบะแห่งใหม่ขึ้น เปลี่ยนชื่อเป็น 'บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด' เพื่อจำหน่ายในประเทศและต่างประเทศ
ปัจจุบัน กลุ่มสยามกลการแบ่งธุรกิจออกเป็น 6 กลุ่ม ได้แก่ อุตสาหกรรมรถยนต์ , อะไหล่ชิ้นส่วนรถยนต์ , อุตสาหกรรมและเครื่องจักรหนัก , การท่องเที่ยวและบริการ , การศึกษาและเครื่องดนตรี และการลงทุน
นายประณิธาน กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนงานอื่น ๆ โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมและเครื่องจักรกลหนัก ภายใต้แบรนด์ 'โคมัตสุ' ที่ในปีนี้ภาพรวมตลาดทรงตัว เนื่องจากผู้ประกอบการหลายรายรอความชัดเจนเรื่องเลือกตั้ง ทำให้เกิดการชะลอตัว คาดว่าตัวเลขการขายรวมทั้งตลาดในปีนี้จะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ที่ทำได้ 3,200 คัน หรือคิดเป็นมูลค่า 1.45 หมื่นล้านบาท
ขณะที่ เป้าหมายของโคมัตสุ คาดว่าจะมียอดขายใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ที่ทำได้ 4,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นจำนวน 850 คัน และมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นเบอร์ 1 ด้วยสัดส่วน 26-27%
"เรามีสินค้าอยู่ 5 กลุ่ม ได้แก่ รถขุด , รถตัก , รถบด , รถเกรด , รถดัมพ์-ทรัก และรุ่นที่ขายดี คือ PC200 ที่มีสัดส่วนการขายกว่า 70% ซึ่งแผนงานในปีนี้จะพัฒนาระบบ CARTE ซึ่งเป็นระบบฐานข้อมูลที่รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ของเครื่องจักร นับตั้งแต่เริ่มใช้จนถึงปัจจุบัน เช่น KOMTRAX , PM , KOWA ข้อมูลการบำรุงรักษา โดยระบบนี้จะทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลทุก ๆ ด้านของเครื่องจักร ทำให้สามารถวางแผนการใช้งาน , วางแผนบำรุงรักษาเครื่องจักรได้อย่างมีประสิทธิภาพ" นายประณิธาน กล่าวและว่า
ปัจจุบัน โคมัตสุมีศูนย์ 19 แห่ง และมี 5 สาขา โดยยังไม่มีแผนจะขยายเพิ่ม แต่จะมีการปรับปรุงให้มีมาตรฐานมากขึ้น ทั้งบุคลากรและส่วนอื่น ๆ อาทิ เทคโนโลยีที่จะเชื่อมข้อมูลต่าง ๆ เพื่อมอบประโยชน์สูงสุดให้กับลูกค้า
ในปีที่ผ่านมา โคมัตสุได้ลงทุน 875 ล้านบาท ในการเปิดศูนย์ฝึกอบรมและสาธิตภาคพื้นเอเชีย สามารถรองรับการพัฒนาบุคลากร และมีการโชว์เทคโนโลยีใหม่ ล่าสุด ขณะที่ โรงงานในประเทศไทยมีกำลังการผลิตกว่า 6,000 คันต่อปี แบ่งออกเป็นผลิตเพื่อขายในประเทศ 15% และส่งออกไปยัง 17 ประเทศทั่วโลก คิดเป็นสัดส่วน 85%
……………….
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,375 วันที่ 17-20 มิ.ย. 2561 หน้า 32
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● สยามกลการฯสบช่องรัฐลงทุนเตรียมแผนลุยตลาดรถฟอร์คลิฟท์
● 65 ปี กลุ่มสยามกลการ
นายประณิธาน พรประภา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามกลการ จำกัด กล่าวว่า บริษัทสนใจขยายธุรกิจเข้าไปในภาคอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น จากเดิมที่มีธุรกิจกลุ่มนี้อยู่แล้ว อย่าง สนามกอล์ฟ สยามคันทรี่คลับ พัทยา และโรงแรมสยาม แอท สยาม กรุงเทพฯ และพัทยา , โรงแรมเมอเวนพิค สยาม โฮเทล นาจอมเทียน พัทยา , ทรอปิคานา โฮเทล และเชาว์ โฮสเทล กรุงเทพฯ
"เรากำลังขยายและศึกษาในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพราะเรามีที่ดินอยู่หลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น ในเขตกรุงเทพฯ ที่บางจุดได้หยุดธุรกิจการจำหน่ายรถยนต์ใหม่ (ดีลเลอร์) ซึ่งมองว่า พื้นที่ดังกล่าวมีโอกาสและศักยภาพ โดยอาจจะเป็นการลงทุนเพื่อทำคอนโดมิเนียม หรือ อสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบอื่น ๆ นอกจากนี้ ยังมีที่ดินในพื้นที่อีอีซี จ.ชลบุรี อีกหลายแปลงด้วย"
สำหรับการปรับแผนเข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในครั้งนี้ สอดคล้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้า เพราะเดิมกลุ่มสยามกลการที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้แทนจำหน่ายรถยนต์นิสสัน มีโชว์รูมและศูนย์บริการรวม 13 แห่ง แต่ปัจจุบัน ลดเหลือเพียง 7 แห่ง ได้แก่ สำนักงานใหญ่ พระราม 1 ปทุมวัน , ลาดพร้าว , บางจาก , บางนา , วิภาวดีฯ , เพชรบุรีตัดใหม่ และประเวศ ขณะที่ อีกหนึ่งแบรนด์ที่เป็นตัวแทนจำหน่าย คือ ฮอนด้า มี 1 แห่ง ได้แก่ สาขาสะพานหัวช้าง
โดยแผนธุรกิจการเป็นผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ คาดว่าจะไม่มีการเปิดเพิ่ม และพื้นที่ที่ปิดตัวไปก่อนหน้า ก็จะนำไปต่อยอดในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แทน
นายประณิธาน กล่าวยืนยันว่า แม้จะขยายเข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น แต่กลุ่มออโตโมทีฟจะยังคงเป็นธุรกิจหลักของบริษัท หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 60%
อนึ่ง กลุ่มสยามกลการก่อตั้งในปี 2495 โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่บนถนนพระราม 1 และเริ่มดำเนินธุรกิจการจำหน่ายรถยนต์ใหม่-เก่า และได้รับการแต่งตั้งจาก บริษัท นิสสัน ดัทสัน แต่ผู้เดียวในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นผู้แทนจำหน่ายในต่างประเทศรายแรกของ นิสสัน มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น
หลังจากนั้น ในปี 2505 ได้ตั้งโรงงานประกอบรถยนต์นิสสันเป็นแห่งแรกในประเทศไทย ภายใต้ชื่อ 'บริษัท สยามกลการและนิสสัน จำกัด' มีกำลังการผลิตวันละ 4 คัน มีพนักงานเพียง 120 คน ต่อมาได้ขยายโรงงานไปอยู่ศูนย์อุตสาหกรรมสยามกลการ ถนนบางนา-ตราด กม.21 บนพื้นที่ 800 ไร่ และตั้งโรงงานประกอบรถกระบะแห่งใหม่ขึ้น เปลี่ยนชื่อเป็น 'บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด' เพื่อจำหน่ายในประเทศและต่างประเทศ
ปัจจุบัน กลุ่มสยามกลการแบ่งธุรกิจออกเป็น 6 กลุ่ม ได้แก่ อุตสาหกรรมรถยนต์ , อะไหล่ชิ้นส่วนรถยนต์ , อุตสาหกรรมและเครื่องจักรหนัก , การท่องเที่ยวและบริการ , การศึกษาและเครื่องดนตรี และการลงทุน
นายประณิธาน กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนงานอื่น ๆ โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมและเครื่องจักรกลหนัก ภายใต้แบรนด์ 'โคมัตสุ' ที่ในปีนี้ภาพรวมตลาดทรงตัว เนื่องจากผู้ประกอบการหลายรายรอความชัดเจนเรื่องเลือกตั้ง ทำให้เกิดการชะลอตัว คาดว่าตัวเลขการขายรวมทั้งตลาดในปีนี้จะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ที่ทำได้ 3,200 คัน หรือคิดเป็นมูลค่า 1.45 หมื่นล้านบาท
ขณะที่ เป้าหมายของโคมัตสุ คาดว่าจะมียอดขายใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ที่ทำได้ 4,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นจำนวน 850 คัน และมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นเบอร์ 1 ด้วยสัดส่วน 26-27%
"เรามีสินค้าอยู่ 5 กลุ่ม ได้แก่ รถขุด , รถตัก , รถบด , รถเกรด , รถดัมพ์-ทรัก และรุ่นที่ขายดี คือ PC200 ที่มีสัดส่วนการขายกว่า 70% ซึ่งแผนงานในปีนี้จะพัฒนาระบบ CARTE ซึ่งเป็นระบบฐานข้อมูลที่รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ของเครื่องจักร นับตั้งแต่เริ่มใช้จนถึงปัจจุบัน เช่น KOMTRAX , PM , KOWA ข้อมูลการบำรุงรักษา โดยระบบนี้จะทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลทุก ๆ ด้านของเครื่องจักร ทำให้สามารถวางแผนการใช้งาน , วางแผนบำรุงรักษาเครื่องจักรได้อย่างมีประสิทธิภาพ" นายประณิธาน กล่าวและว่า
ปัจจุบัน โคมัตสุมีศูนย์ 19 แห่ง และมี 5 สาขา โดยยังไม่มีแผนจะขยายเพิ่ม แต่จะมีการปรับปรุงให้มีมาตรฐานมากขึ้น ทั้งบุคลากรและส่วนอื่น ๆ อาทิ เทคโนโลยีที่จะเชื่อมข้อมูลต่าง ๆ เพื่อมอบประโยชน์สูงสุดให้กับลูกค้า
ในปีที่ผ่านมา โคมัตสุได้ลงทุน 875 ล้านบาท ในการเปิดศูนย์ฝึกอบรมและสาธิตภาคพื้นเอเชีย สามารถรองรับการพัฒนาบุคลากร และมีการโชว์เทคโนโลยีใหม่ ล่าสุด ขณะที่ โรงงานในประเทศไทยมีกำลังการผลิตกว่า 6,000 คันต่อปี แบ่งออกเป็นผลิตเพื่อขายในประเทศ 15% และส่งออกไปยัง 17 ประเทศทั่วโลก คิดเป็นสัดส่วน 85%
……………….
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,375 วันที่ 17-20 มิ.ย. 2561 หน้า 32
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● สยามกลการฯสบช่องรัฐลงทุนเตรียมแผนลุยตลาดรถฟอร์คลิฟท์
● 65 ปี กลุ่มสยามกลการ
