ราคาน้ำมันดิบพุ่ง หลังอุปทานยังคงตึงตัว ขณะที่สหรัฐฯ ส่อแววคว่ำบาตรอิหร่าน
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 7 พฤษภาคม 2561
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังอุปทานน้ำมันดิบโลกยังคงตึงตัว ประกอบกับนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ที่สหรัฐฯ อาจทำการคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่ โดยการตัดสินใจเกี่ยวกับข้อตกลงดังกล่าวจะเกิดขึ้นในวันที่ 12 พ.ค. นี้
+ Daniel Hynes และ Soni Kumari นักวิเคราะห์จาก ANZ กล่าวว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์อาจแตะระดับ 80 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ภายในสิ้นปีนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากปัญหาทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น รวมถึงอุปทานน้ำมันดิบโลกที่ตึงตัวต่อเนื่อง
- ปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง ณ จุดส่งมอบคุชชิ่งปรับเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจากแหล่ง Permian ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่ากำลังการขนส่งน้ำมันดิบทางท่อขนส่ง ประกอบกับโรงกลั่นภายในประเทศบางแห่งเผชิญกับปัญหาทางเทคนิค
- Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯสำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 4 พ.ค. ปรับเพิ่มขึ้นราว 9 แท่น สู่ระดับ 834 แท่น ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2558
- Commodity Futures Trading Commission (CFTC) รายงานสถานการณ์การลงทุนสัญญาน้ำมันดิบ WTI ในตลาดซื้อขาย NYMEX ที่นิวยอร์กและ ICE ที่ลอนดอน ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 1 พ.ค. 61 พบว่าผู้จัดการกองทุนมีปริมาณการถือครองสัญญาน้ำมันดิบสุทธิ (Net Long Position) ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 11,825 สัญญา มาอยู่ที่ 444,060 สัญญา
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับอุปทานภายในภูมิภาคยังคงอยู่ในระดับสูง
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากความต้องการใช้จากประเทศจีนที่อ่อนตัวลงในช่วงฤดูห้ามจับปลาประจำปี อย่างไรก็ดี ตลาดได้รับแรงหนุนจากอุปทานที่ตึงตัวในช่วงการปิดซ่อมบำรุงของโรงกลั่น
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 67-72 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 72-77 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตาการพิจารณาเกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่านโดยสหรัฐฯ ในวันที่ 12 พ.ค. 61 นี้ หลังสหรัฐฯ ส่งสัญญาณว่าจะถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่าน และนำไปสู่การคว่ำบาตรอิหร่านอีกครั้ง
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังโลกมีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง จากความต้องการใช้น้ำมันโลกที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ประกอบกับผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกยังคงเดินหน้าปรับลดลงกำลังการผลิต
ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังราคาน้ำมันดิบทรงตัวเหนือระดับต้นทุนการผลิตของผู้ผลิตในสหรัฐฯ ส่งผลให้จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ที่มา : บมจ.ไทยออยล์