'กสิกร' ต่อยอดแม่ค้าออนไลน์ เดินหน้าช่วย SME ค้าปลีกสู่ออนไลน์เต็มขั้น

25 เม.ย. 2561 | 05:55 น.
‘กสิกรไทย’ จับมือ ETDA Google (ประเทศไทย) และ LINE@ จัดโครงการ K SME Good to Great หนุนธุรกิจค้าปลีกให้จัดการธุรกิจในรูปแบบ Omni Channel รับกระแส อี-คอมเมิร์ซ เติบโต อัพความรู้และให้คำปรึกษาเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญตัวจริง พร้อมโอกาสรับเงินรางวัล 100,000 บาท ผู้ประกอบการที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันนี้ ที่ www.ksmegoodtogreat.com

นายสุรัตน์ ลีลาทวีวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ธุรกิจค้าปลีกเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงและต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่นิยมการช็อปปิงออนไลน์เพิ่มมากขึ้น เอสเอ็มอีที่ค้าขายหน้าร้านเพียงอย่างเดียวประสบปัญหายอดขายและจำนวนลูกค้าที่ลดลง จึงเริ่มหันมาใช้ช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น แต่การขายของผ่านออนไลน์ก็มีการแข่งขันสูง รวมถึงมีความยากในการบริหารจัดการธุรกิจในรูปแบบ Ommi Channel ให้ประสบความสำเร็จ ทั้งการจัดการข้อมูลการบริหารสต๊อก ช่องทางการชำระเงิน และการสื่อสารกับผู้บริโภค


G2G03



ที่ผ่านมา ธนาคารกสิกรไทยมีนโยบายส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้บริหารจัดการธุรกิจมาโดยตลอด รวมถึงการพัฒนาแอปพลิเคชัน K PLUS SHOP โซลูชั่นทางการเงินที่จะช่วยให้เอสเอ็มอีรับเงินในการขายออนไลน์ได้คล่องตัวยิ่งขึ้น และการเชื่อมต่อกับพันธมิตร เช่น ระบบบัญชี โลจิสติกส์ และโซเชียลมีเดีย เพื่อช่วยให้เอสเอ็มอีทำธุรกิจในยุคดิจิทัลได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งโครงการ K SME Good to Great นี้ ก็เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ธนาคารตั้งใจทำขึ้น เพื่อช่วยให้เอสเอ็มอีสามารถดำเนินธุรกิจและแข่งขันได้

ด้วยเหตุนี้ ธนาคารกสิกรไทยจึงร่วมกับสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) บริษัท Google (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท LINE ประเทศไทย จัดโครงการ K SME Good to Great ธุรกิจค้าปลีกเพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีธุรกิจค้าปลีกสามารถบริหารจัดการธุรกิจ ทั้งการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ หรือ Omni Channel ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อก้าวไปสู่การเป็นธุรกิจค้าปลีกยุคใหม่ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง สำหรับรายละเอียดโครงการจะแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ

1.งานสัมมนา “ค้าปลีกยุคใหม่ ปรับอย่างไรให้อยู่รอด” ให้ความรู้เรื่องเทรนด์ธุรกิจค้าปลีกและกลยุทธ์การปรับตัว รวมถึงการใช้เครื่องมือดิจิทัลในการจัดการธุรกิจ
2.การอบรมเชิงลึก 5 วัน กับผู้เชี่ยวชาญตัวจริง โดยคัดเลือกผู้สมัครเพียง 50 ราย เท่านั้น เพื่อเข้าร่วมการอบรม
3.การให้คำปรึกษาแบบตัวต่อตัว ในการทำตลาดออนไลน์ สำหรับ 5 ธุรกิจ ที่ได้รับการคัดเลือก ซึ่งจะได้รับเงินรางวัลรายละ 100,000 บาท เพื่อเป็นเงินสนับสนุนการทำตลาดออนไลน์ โดยธนาคารหวังว่า โครงการนี้จะช่วยผู้ประกอบการค้าปลีกไทยให้สามารถปรับกลยุทธ์ธุรกิจสู่การเป็นค้าปลีกยุคใหม่ได้อย่างเต็มศักยภาพ


โปรโมทแทรกอีบุ๊ก

ด้าน นางสุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) เปิดเผยว่า ในแต่ละปี ETDA ได้มีการจัดทำผลสำรวจมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ปีละครั้ง โดยคาดการณ์มูลค่าอี-คอมเมิร์ซ ปี 2560 เติบโตเพิ่มขึ้น 9.86% ซึ่งมูลค่าอี-คอมเมิร์ซ ประเภท B2C ของไทย ปี 2560 จะสูงถึง 7.03 แสนล้านบาท โดยคาดว่า เพิ่มขึ้น 37.91% และมูลค่าอี-คอมเมิร์ซ B2C ของไทย จะเป็นตลาดที่มีมูลค่าสูงที่สุดในอาเซียน ซึ่งจากการสำรวจเมื่อปีที่ผ่านมา พฤติกรรมการซื้อสินค้าออนไลน์ของคนไทยก็ขึ้นมาติด 1 ใน 5 กิจกรรมยอดฮิต เป็นครั้งแรก แสดงให้เห็นว่า คนไทยยอมรับการซื้อขายผ่านอี-คอมเมิร์ซมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา ETDA ได้ส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการอี-คอมเมิร์ซอยู่หลายโครงการ ซึ่งโครงการ K SME Good to Great ธุรกิจค้าปลีก ถือว่าเป็นโครงการที่ดีที่ ETDA ได้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอี

น.ส.ณภัทร์ จรัสสุวิชากณิช Industry Manager บริษัท Google (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ผู้บริโภคไทยมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการซื้อสินค้าและบริการไปในทิศทางที่พึ่งพาดิจิทัลแพลตฟอร์มเป็นอย่างมาก ตั้งแต่การค้นหาข้อมูล ไปจนถึงการซื้อสินค้าผู้ประกอบการค้าปลีกจะต้องรับมือกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปนี้ โดยการขยายการเข้าหาลูกค้าบนออนไลน์และฉวยโอกาสทางธุรกิจผ่านช่องทางดิจิทัลให้มากขึ้น ธุรกิจค้าปลีกแบบดั้งเดิมอาจมีข้อจำกัดในการรับรู้ถึงวิธีการซื้อสินค้าและบริการที่เปลี่ยนไปในยุค 4.0 และทักษะในการทำการตลาดดิจิทัล เช่น การทำเว็บไซต์ ซึ่งเปรียบได้กับการสร้างหน้าร้านของตัวเองบนออนไลน์ หรือการวัดผลทางธุรกิจผ่านช่องทางดิจิทัล โครงการ K SME Good to Great นี้ เป็นโครงการที่มุ่งสร้างพื้นฐานความเข้าใจ และทักษะเชิงดิจิทัลให้กับธุรกิจค้าปลีกที่สนใจ ธนาคารกสิกรไทยได้ออกแบบคอร์สให้ผู้ประกอบการได้มีโอกาสทำความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับการขยายธุรกิจผ่านดิจิทัลอย่างลึกซึ้ง ซึ่งจะเป็นการสร้างทักษะที่สำคัญให้กับธุรกิจค้าปลีกในการปรับตัวเข้าสู่ยุค 4.0

 

[caption id="attachment_277189" align="aligncenter" width="503"] น.ส.สกุลรัตน์ ตันยงศิริ หัวหน้าธุรกิจ LINE@ บริษัท LINE ประเทศไทย น.ส.สกุลรัตน์ ตันยงศิริ
หัวหน้าธุรกิจ LINE@ บริษัท LINE ประเทศไทย[/caption]

น.ส.สกุลรัตน์ ตันยงศิริ หัวหน้าธุรกิจ LINE@ บริษัท LINE ประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ธุรกิจ E-Commerce ในประเทศไทย เติบโตประมาณ 9-14% ของทุกปี แสดงให้เห็นว่า ผู้บริโภคเริ่มเข้าใจและกำลังปรับตัวเพื่อเข้าสู่โลกออนไลน์แบบเต็มตัว ผู้บริโภคในปัจจุบัน กล้าสั่งซื้อสินค้าและบริการผ่านออนไลน์แบบไม่กังวลอย่างแต่ก่อน ซึ่งผู้ประกอบการต้องสามารถเข้าถึงผู้บริโภคเพื่อตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างถูกต้อง และต้องรู้ว่า ลูกค้าของเรามีไลฟ์สไตล์แบบไหน ควรสื่อสารอย่างไร ใช้ภาษาแบบไหน หรือช่วงเวลาใดถึงจะเข้าถึงได้ง่ายที่สุด ซึ่งปัญหาหลักหรืออุปสรรคหลัก ๆ ของผู้ประกอบการที่ศึกษามามี 3 อย่าง คือ 1.การปิดรับสิ่งใหม่ ผู้ประกอบการยังมีบางส่วนที่ยังคุ้นเคยกับสิ่งเดิม ๆ ที่ทำอยู่ ไม่เปิดรับหรือไม่กล้าที่จะเริ่มสิ่งใหม่ 2.ปรับตัวได้ช้า เนื่องจากขาดความรู้ ความเข้าใจ ว่าต้องทำอย่างไร 3.มีต้นทุนที่ค่อนข้างจำกัด ส่งผลให้กิจการไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ หรือต้องหยุดกิจการลง

โครงการ K SME Good to Great นอกจากผู้ประกอบการจะได้รับความรู้ในการบริหารจัดการธุรกิจค้าปลีกยุคใหม่แล้ว ยังมีเครื่องมือและแอปพลิเคชันที่จะมาช่วยให้ผู้ประกอบธุรกิจได้อย่างคล่องตัวขึ้น อาทิ POSvision, Sellsuki, Zort และ Shippop ที่จะช่วยตอบโจทยการทำธุรกิจในยุคปัจจุบันของผู้ประกอบการ ซึ่งคาดหวังว่า ผู้ประกอบการจะสามารถใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์และทำให้ผู้ธุรกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดด

แบนเนอร์ชั่วโมงฐานเศรษฐกิจ

ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีธุรกิจค้าปลีกที่สนใจเข้าร่วมโครงการ สามารถสมัครได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยดูรายละเอียดโครงการและสมัครได้ที่ www.ksmegoodtogreat.com หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ K BIZ Contact Center โทร 02-888-8822
……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
บล.กสิกรไทยมองดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์หน้า(16-20 เม.ย.) มีแนวรับที่ 1,755 และแนวต้านที่ 1,785 จุด
ธุุรกิจแดนมังกรฉลุย กสิกรไทย ฟุ้ง!  2 เดือน ปล่อยกู้พุ่ง 3.7 พันล้านหยวน

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว