อุตฯ พร้อมรับ 'แจ็ค หม่า'! เปิดแผนลงทุนสร้าง 'ดิจิทัลฮับ' ปักหมุดอีอีซี

17 เม.ย. 2561 | 10:09 น.
อุตฯ จับมือหน่วยงานเศรษฐกิจ รับ ‘แจ็ค หม่า’ เจ้าพ่ออาลีบาบา ประกาศแผนการลงทุนสร้างดิจิทัลฮับ ปักหมุดในอีอีซี พร้อมร่วมพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลขับเคลื่อนนโยบายประเทศไทย 4.0

ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า นายแจ็ค หม่า (Jack Ma) ประธานบริหาร กลุ่มอาลีบาบา จะมาเยือนประเทศไทย ในวันที่ 19 เม.ย. 2561 นี้ เพื่อประกาศแผนการลงทุนของอาลีบาบาในพื้นที่อีอีซี (Eastern Economic Corridor - EEC) รวมถึงโครงการความร่วมมือ เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัลและส่งเสริมบุคลากรไทยในการพัฒนาทักษะและขีดความสามารถด้านดิจิทัลอี-คอมเมิร์ซ

 

[caption id="attachment_275969" align="aligncenter" width="503"] ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ดร.อุตตม สาวนายน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม[/caption]

ดร.อุตตม กล่าวต่อว่า กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานเพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) กรมศุลกากร กระทรวงการคลัง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ไปรษณีย์ไทย (Thai Post) และหน่วยงานอื่น ได้ร่วมหารือกับทีมงานของอาลีบาบามาอย่างต่อเนื่อง นับแต่ที่ นายแจ็ค หม่า มาเยือนประเทศไทยเมื่อปี 2559 และขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ข้อสรุปความร่วมมือในโครงการหลักที่จะช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมดิจิทัลและการใช้เทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 ดังต่อไปนี้

1.โครงการลงทุนสร้างศูนย์ Smart Digital Hub ในพื้นที่ EEC โดยศูนย์ฯ นี้ จะอาศัยเทคโนโลยีระดับโลกของอาลีบาบาในด้านการประมวลข้อมูลโลจิสติกส์ เพื่อทำให้การขนส่งสินค้าระหว่างไทยกับจีน การขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนสู่ประเทศเพื่อนบ้าน (CLMV) และไปยังที่อื่นทั่วโลก ให้มีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ ยังได้มีการประสานกับกรมศุลกากรในการยกระดับพิธีการทางศุลกากรให้เป็นระบบดิจิทัลด้วย ซึ่งการตั้งศูนย์ Smart Digital Hub นี้ จะช่วยผลักดันให้เหล่าธุรกิจ Startup และ SME ไทย สามารถพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ ๆ โดยอาศัยเทคโนโลยีดิจิทัลให้เข้าถึงตลาดทั่วโลกได้ รวมถึงจะเป็นศูนย์กลางในการดำเนินกิจกรรมวิจัยพัฒนาดิจิทัลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสำนักงาน EEC จะเชื่อมประสาน Smart Digital Hub กับเขตนวัตกรรมดิจิทัล หรือ ดิจิทัลพาร์ค (EECd) และเขตนวัตกรรมเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EECi)


แบนเนอร์รายการฐานยานยนต์

2.โครงการความร่วมมือด้านการพัฒนาบุคลากรในด้านดิจิทัลและการส่งเสริมธุรกิจ ผ่าน E-Commerce ซึ่งอาลีบาบาจะร่วมกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ในการพัฒนากลุ่มคนเก่ง หรือ ดาวเด่นด้านดิจิทัล (Digital Talent) โดยอาลีบาบาได้เสนอให้วิทยาลัยธุรกิจอาลีบาบา หรือ Alibaba Business School (ABS) มาร่วมสนับสนุนการใช้ Platform E-Commerce โดยจะเชื่อมโยงกับสถาบันการศึกษาและภาคเอกชน ทั้งนี้ ภายใต้โครงการนี้ อาลีบาบาจะเปิดโอกาสให้นักศึกษา นักวิจัย อาจารย์ รวมถึงผู้ประกอบการไทย ไปร่วมเข้าโครงการฝึกอบรมพัฒนาในด้านดิจิทัลและอี-คอมเมิร์ซ ให้มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง รวมทั้งสร้างเครือข่าย (Networking) กับดาวเด่น หรือ Talents ทั่วโลก ที่ประเทศจีนด้วย

3.โครงการร่วมส่งเสริมพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลอี-คอมเมิร์ซสำหรับผู้ประกอบการ SME และ Startup ของไทย เพื่อยกระดับขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีดิจิทัล โดยเน้นให้ผู้ประกอบการมีความเข้าใจ ได้เรียนรู้ และเสริมทักษะการใช้เทคโนโลยีไทย ให้สามารถเข้าถึง Regional Global Value Chain โดยอาลีบาบาจะจัดทีมงานร่วมลงพื้นที่กับทีมงานของกระทรวงอุตสาหกรรม โดยใช้เครือข่ายศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 สู่อนาคต (Industry Transformation Center : ITC) ในระดับภาคและจังหวัด ของกระทรวงอุตสาหกรรมทั่วประเทศ ทั้งนี้ ก็เพื่อให้สามารถพัฒนาและเข้าถึงผู้ประกอบการ SME และผู้ประกอบการ Startup ระดับชุมชนทั่วประเทศ

 

[caption id="attachment_275970" align="aligncenter" width="503"] แจ็ค หม่า (Jack Ma) ประธานบริหาร กลุ่มอาลีบาบา แจ็ค หม่า (Jack Ma)
ประธานบริหาร กลุ่มอาลีบาบา[/caption]

4.อาลีบาบาจะร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท) ในการจัดทำ Thailand Tourism Platform สำหรับประเทศไทยโดยเฉพาะ เพื่อจัดกิจกรรมด้านการตลาดร่วมกันบนออนไลน์แพลทฟอร์ม ที่สามารถเชื่อมโยงกับสื่อและช่องทางต่าง ๆ ของ ททท. รวมทั้งจะร่วมมือกันในด้านการใช้ข้อมูลทางการท่องเที่ยว (Tourism Big Data) เพื่อเจาะลูกค้ากลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนร่วมมือกันส่งเสริมการท่องเที่ยวในไทย ให้รองรับกับยุทธศาสตร์และแนวทางการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวในระดับชุมชนของรัฐบาล

5.กระทรวงพาณิชย์จะร่วมมือกับอาลีบาบา ในการเปิดตัว Thai Rice Flagship Store บนเว็บไซต์ Tmall.com เพื่อสนับสนุนการขายข้าวไทยทางออนไลน์จีน ซึ่งจะช่วยผลักดันให้เกษตรกร ผู้ประกอบการ และผู้ส่งข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าว สามารถเข้าถึงตลาด E-Commerce ในจีน ได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งสอดรับกับเทรนด์ในปัจจุบัน ที่สินค้าไทบกำลังเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าเกษตรและอาหารของไทย


โปรโมทแทรกอีบุ๊ก

ดร.อุตตม กล่าวต่อว่า นายแจ็ค หม่า (Jack Ma) มีกำหนดการเข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล และจะเข้าร่วมพิธีลงนามข้อตกลงความเข้าใจสำหรับโครงการการลงทุนใน EEC และความร่วมมือดังกล่าว ซึ่งโครงการที่อาลีบาบาจะมีส่วนร่วมนั้น จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาผู้ประกอบการไทย ให้สามารถแข่งขันและเข้าถึงตลาดการค้าได้ทั้งระดับภูมิภาคและระดับโลก โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและอี-คอมเมิร์ซ รวมถึงการพัฒนาบุคลากร โดยเฉพาะกลุ่ม SME ผู้ประกอบการใหม่อย่างทั่วถึงในพื้นที่จังหวัด ให้เป็นกำลังสำคัญในการสนับสนุนยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0

ทั้งนี้ ดร.อุตตม ยังเปิดเผยด้วยว่า อาลีบาบาได้ทำการศึกษาข้อมูลเปรียบเทียบในระดับภูมิภาค และเล็งเห็นว่า ประเทศไทยมีศักยภาพสูงที่จะเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลและอี-คอมเมิร์ซในภูมิภาค จึงมีความตั้งใจที่จะมาลงทุนและร่วมมือกับหน่วยงานของไทยในโครงการต่าง ๆ ทั้งนี้ ปัจจุบัน มีประชากรโลกกว่าร้อยละ 68 สามารถเข้าถึงโทรศัพท์มือถือแล้ว ในขณะที่ จำนวนผู้ใช้โซเชียลมีเดียผ่านมือถือ (Active Moobile Social Users) ของโลกและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยร้อยละ 14 และ 16 ตามลำดับ อีกทั้ง รายได้จากธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ หรือ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในภูมิภาคนี้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง โดยสำหรับประเทศไทย คาดว่า รายได้จากธุรกิจอี-คอมเมิร์ซจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด จาก 113,400 ล้านบาท (US$ 3,544) ในปี 2561 เป็น 186,500 ล้านบาท (US$ 5,830) ในปี 2565 ประกอบกับ นโยบายประเทศไทย 4.0 และเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ของรัฐบาลที่ช่วยสร้างความมั่นใจในทิศทางการพัฒนาประเทศ ระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน คมนาคมขนส่ง ระบบโลจิสติกส์ โครงข่ายดิจิทัล และมาตรการสิทธิประโยชน์ รวมถึงการอำนวยความสะดวกในการลงทุน ทำให้อาลีบาบาเล็งเห็นโอกาสที่จะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ ในภูมิภาค รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวเนื่องกับ Internet of Things (IoT) ที่เป็นเทคโนโลยีคลื่นลูกใหม่ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการยุติธรรม


e-commerce-concept_23-2147513189

ทั้งนี้ ความร่วมมือในลักษณะเช่นนี้ จะเปิดกว้างสำหรับบริษัทหรือองค์กรชั้นนำอื่นด้วย ไม่จำกัดอยู่เฉพาะอาลีบาบาเท่านั้น แต่โครงการร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะส่งผลให้เกิดความร่วมมือที่จะขยายวงกว้างต่อไป


……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ไม่ง้อดีลเลอร์“ฟอร์ด”จับมือ“อาลีบาบา”เปิดตัว“ตู้จำหน่ายรถยนต์อัตโนมัติ”
“สมคิด” ย้ำอาลีบาบา ยืนยันลงทุนใน “อีอีซี” เชิญ “แจ๊คหม่า” เปิดงานเม.ย.


ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว