กองทุนเทอมฟันด์กลับ‘กาตาร์’ บลจ.กสิกรไทย ประเมินเสี่ยง‘ผิดนัดหนี้ต่ำ-เศรษฐกิจโต’

15 ม.ค. 2561 | 23:47 น.
บลจ.กสิกรไทยฯ นำร่องกลับลงทุนเงินฝาก-ตราสารหนี้แบงก์ในกาตาร์ หลังเบรกลงทุน 6 เดือนเหตุอาหรับตัดสัมพันธ์ มองจีดีพียังโตนํ้ามันแพงหนุนรายได้ประเทศ ชูผลตอบแทนน่าสนใจ

นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ สายจัดการลงทุนต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า บริษัทได้ประเมินเหตุการณ์ความขัดแย้งของประเทศในกลุ่มอาหรับนำโดยซาอุดีอาระเบีย สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) บาห์เรนและอียิปต์ ที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศกาตาร์ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2560 แล้วเห็นว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่มีสถานการณ์บานปลายไปในทางลบกองทุนตราสารหนี้แบบครบกำหนดระยะเวลาหรือเทอมฟันด์ จึงเริ่มกลับเข้าไปลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้ของธนาคารในกาตาร์ช่วงปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมานับจากชะลอลงทุนตั้งแต่วันที่5 มิถุนายน 2560

“ที่ผ่านมาได้ส่งทีมนักวิเคราะห์ไปกาตาร์ เพื่อพบกับเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางและรัฐบาลกาตาร์จึงกลับมาประเมินสถานการณ์และเชื่อว่าความรุนแรงจนเกิดสงครามกับซาอุฯ คงไม่น่าเกิดขึ้น เนื่องจากสหรัฐฯใช้กาตาร์เป็นฐานทัพ”นายนาวิน กล่าว

MP19-3331-A สำหรับผลกระทบต่อเศรษฐกิจกาตาร์พบว่าชะลอตัวลงบ้างจากต้นทุนสินค้านำเข้าที่แพงขึ้นจากการต้องปรับเส้นทางด้านการขนส่ง ขณะที่การส่งออกก๊าซธรรมชาติทำผ่านท่าเรือของโอมาน ผลกระทบจึงมีจำกัด อีกทั้งราคานํ้ามันและก๊าซในตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นทำให้รายได้ของประเทศดีขึ้น โดยกาตาร์ถือเป็นประเทศที่มีแหล่งนํ้ามันและก๊าซธรรมชาติใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลกขณะที่สัดส่วนการส่งออกไปยังประเทศที่ขัดแย้งคิดเป็น 2.61% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดจึงยังมีมุมมองต่อเศรษฐกิจกาตาร์ในเชิงปานกลางถึงบวก

นายนาวินกล่าวว่าด้านธนาคารหลักๆของประเทศมีความมั่นคงสูง ยังมีเงินทุนและสภาพคล่องเพียงพอ รวมทั้งรัฐบาลพร้อมให้ความช่วยเหลือหากเกิดปัญหา บริษัทจึงประเมินว่าการลงทุนในกาตาร์ยังน่าสนใจและมีความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้ตํ่าขณะที่กองทุนป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน

“เรตติ้งของธนาคารบางแห่งในกาตาร์สูงเท่ากับเรตติ้งบางประเทศจึงมองโอกาสดีฟอลต์มีน้อยขณะเดียวกันบริษัทมองหาการลงทุนในประเทศอื่นๆ แล้วยังไม่พบว่าผลตอบแทนที่ไหนน่าสนใจ ขณะที่กลุ่มลูกค้ามีทั้งเงินฝากและกลุ่มที่ไม่ลงทุนหุ้นเทอมฟันด์จึงยังเป็นที่ต้องการของลูกค้า”นายนาวิน กล่าว

ด้านผู้จัดการกองทุนรายหนึ่ง กล่าวว่าบริษัทยังห่วงเรื่องของสภาพคล่องหากเงินฝากหรือตราสารหนี้ของธนาคารที่นักลงทุนทั่วโลกลงทุนอยู่นั้นครบกำหนดไถ่ถอนแล้วสามารถรับมือได้มากน้อยแค่ไหน ขณะที่ปัจจุบันเทอมฟันด์ทั้งระบบส่วนใหญ่ลงทุนในประเทศจีนเนื่องจากให้ผลตอบแทนสูง แต่ยังให้น้อยกว่ากาตาร์

728x90-03 “มีความเป็นไปได้ที่จะกลับไปลงทุนกาตาร์ เพราะภาพรวมประเทศไม่เปลี่ยนจากเดิม อีกทั้งตราสารหนี้หรือเงินฝากที่ไปลงทุนแบงก์ส่วนใหญ่มีความมั่นคง รัฐบาลถือหุ้นและเรตติ้งสูง” ผู้จัดการกองทุน กล่าว

ปัจจุบันบลจ.กสิกรไทยฯ อยู่ระหว่างเสนอขายกองทุนเทอมฟันด์ 2 กองทุน ตั้งแต่วันที่ 9-15 มกราคม 2561ได้แก่เค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน EK อายุ6เดือนผลตอบแทนประมาณ 1.40%ต่อปีและเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี DY อายุ 1 ปี ผลตอบแทนประมาณ 1.65% ต่อปีโดยทั้ง 2 กองทุนลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้ธนาคารในกาตาร์และจีน

ด้านบลจ.ไทยพาณิชย์ฯเปิดขายกองทุนไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6MH9 อายุ 6 เดือน ผลตอบแทน 1.25% ต่อปี ส่วนใหญ่ลงทุนในเงินฝาก บัตรเงินฝากธนาคารของจีน บลจ.ธนชาตฯ เปิดขายกองทุนเปิดธนชาต Fixed Income 6M94 อายุ 6 เดือน ผลตอบแทน 1.35% ต่อปี ลงทุนในเงินฝากธนาคารในจีนและหุ้นกู้ระยะสั้นในไทย

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,331 วันที่ 14 - 17 มกราคม พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9