Play
KBANK ลุย! ‘ยี่ปั๊ว-ซาปั๊ว’
Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่
กสิกรไทยวางกลยุทธ์เจาะตลาดเอสเอ็มอีปีหน้า หวนจับตลาดยี่ปั๊ว-ซาปั๊ว ตั้งเป้าปล่อยกู้เดือนละ 1,800 ล้านบาท ขณะที่หนี้เสียยังไม่นิ่งโดยเฉพาะรายเล็กน่าห่วง
นายสุรัตน์ ลีลาทวีวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)(KBANK) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ภาพรวมธุรกิจเอสเอ็มอีในปี 2561 มีแนวโน้มฟื้นตัวดี ภายหลังจากรัฐบาลมีการลงทุนขนาดใหญ่ในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้มีสภาพคล่องในระบบมากขึ้น การส่งออกและการท่องเที่ยวขยายตัวต่อเนื่อง ทำให้มีการใช้จ่ายภายในประเทศมากขึ้นจากปีก่อนที่มีการเติบโตจากข้างนอกอย่างเดียว
[caption id="attachment_244713" align="aligncenter" width="336"]
สุรัตน์ ลีลาทวีวัฒน์[/caption]
อย่างไรก็ตามธุรกิจเอสเอ็มอีอาจจะต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวสัก 1-2 ปี ดังนั้นจะเห็นการฟื้นตัวชัดเจนขึ้นภายในปี 2562 ส่วนปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) จะทยอยปรับลดลงตามวัฏจักรของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ แต่อาจจะยังไม่เห็นการหยุดไหลของเอ็นพีแอล
สำหรับแผนธุรกิจเอสเอ็มอีของธนาคารปี 2561 ตั้งเป้าสินเชื่อเติบโตใกล้เคียงกับปีนี้ที่ระดับ 4-6% โดยกรอบขยายตัวอยู่ที่ 1.5 เท่าของจีดีพี ซึ่งคาดว่าจีดีพีจะขยายตัวอยู่ที่ 4% กรอบการเติบโตสินเชื่อไม่เกิน 8% จากยอดสินเชื่อคงค้าง ณ เดือนกันยายน 2560 อยู่ที่ 6.8 แสนล้านบาท
กลยุทธ์ในปี 2561 ธนาคารจะแบ่งลูกค้าเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มลูกค้าขนาดกลาง จะเน้นฐานลูกค้าเก่าที่มีอยู่ เนื่องจากมีลูกค้าจำนวนมากที่ยังไม่ได้ใช้บริการธนาคารมากนัก ธนาคารจึงจะกลับมาดูกลุ่มนี้มากขึ้นผ่านห่วงโซ่ธุรกิจ (Value Chain) และธุรกรรมทางการเงิน
ปีนี้ธนาคารมีลูกค้า Value Chain แล้วจำนวน 2,166 เชน คิดเป็นการเติบโต 35% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยแบ่งเป็น 2 Chain ได้แก่ กลุ่ม Chain ที่เป็นยี่ปั๊ว-ซาปั๊ว จำนวน 205 เชน และกลุ่มอินเตอร์เนอร์ เชน หรือลูกค้าทั่วไปมีประมาณ 1,961 เชน โดยคิดเป็นจำนวนลูกค้าทั้งสิ้น 1.66 หมื่นราย
ทั้งนี้ในช่วง 9 เดือนแรก มีลูกค้ากลุ่ม Value Chain มีคำขอสินเชื่อ (App-In) เข้ามาประมาณ 1.77 หมื่นราย คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีคำขอเพิ่มขึ้นเป็น 2.5 หมื่นราย ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2559 ที่มียอดคำขอเข้ามาประมาณ 9,033 ราย อย่างไรก็ดี ธนาคารคาดหวังว่าจะปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มลูกค้าผ่าน Value Chain ได้เฉลี่ยประมาณ 1,800 ล้านบาทต่อเดือน หรือสัดส่วนประมาณ 12-13% ของยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ของกลุ่มเอสเอ็มอีทั้งหมด
2.ลูกค้าเอสเอ็มอีขนาดเล็ก ที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 30 ล้านบาท ที่ธนาคารผลักดันให้ลูกค้าขนาดย่อย ยกระดับเป็นลูกค้าขนาดเล็ก โดยจะนำเรื่องของการทำธุรกรรมทางการเงิน และการชำระเงิน มาช่วยเรื่องการวิเคราะห์การปล่อยสินเชื่อ รวมถึงการใช้ Value Chain เข้ามาเชื่อมด้วย
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,325 วันที่ 24 - 27 ธันวาคม พ.ศ. 2560
นายสุรัตน์ ลีลาทวีวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)(KBANK) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ภาพรวมธุรกิจเอสเอ็มอีในปี 2561 มีแนวโน้มฟื้นตัวดี ภายหลังจากรัฐบาลมีการลงทุนขนาดใหญ่ในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้มีสภาพคล่องในระบบมากขึ้น การส่งออกและการท่องเที่ยวขยายตัวต่อเนื่อง ทำให้มีการใช้จ่ายภายในประเทศมากขึ้นจากปีก่อนที่มีการเติบโตจากข้างนอกอย่างเดียว
[caption id="attachment_244713" align="aligncenter" width="336"]
อย่างไรก็ตามธุรกิจเอสเอ็มอีอาจจะต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวสัก 1-2 ปี ดังนั้นจะเห็นการฟื้นตัวชัดเจนขึ้นภายในปี 2562 ส่วนปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) จะทยอยปรับลดลงตามวัฏจักรของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ แต่อาจจะยังไม่เห็นการหยุดไหลของเอ็นพีแอล
สำหรับแผนธุรกิจเอสเอ็มอีของธนาคารปี 2561 ตั้งเป้าสินเชื่อเติบโตใกล้เคียงกับปีนี้ที่ระดับ 4-6% โดยกรอบขยายตัวอยู่ที่ 1.5 เท่าของจีดีพี ซึ่งคาดว่าจีดีพีจะขยายตัวอยู่ที่ 4% กรอบการเติบโตสินเชื่อไม่เกิน 8% จากยอดสินเชื่อคงค้าง ณ เดือนกันยายน 2560 อยู่ที่ 6.8 แสนล้านบาท
กลยุทธ์ในปี 2561 ธนาคารจะแบ่งลูกค้าเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มลูกค้าขนาดกลาง จะเน้นฐานลูกค้าเก่าที่มีอยู่ เนื่องจากมีลูกค้าจำนวนมากที่ยังไม่ได้ใช้บริการธนาคารมากนัก ธนาคารจึงจะกลับมาดูกลุ่มนี้มากขึ้นผ่านห่วงโซ่ธุรกิจ (Value Chain) และธุรกรรมทางการเงิน
ปีนี้ธนาคารมีลูกค้า Value Chain แล้วจำนวน 2,166 เชน คิดเป็นการเติบโต 35% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยแบ่งเป็น 2 Chain ได้แก่ กลุ่ม Chain ที่เป็นยี่ปั๊ว-ซาปั๊ว จำนวน 205 เชน และกลุ่มอินเตอร์เนอร์ เชน หรือลูกค้าทั่วไปมีประมาณ 1,961 เชน โดยคิดเป็นจำนวนลูกค้าทั้งสิ้น 1.66 หมื่นราย
ทั้งนี้ในช่วง 9 เดือนแรก มีลูกค้ากลุ่ม Value Chain มีคำขอสินเชื่อ (App-In) เข้ามาประมาณ 1.77 หมื่นราย คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีคำขอเพิ่มขึ้นเป็น 2.5 หมื่นราย ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2559 ที่มียอดคำขอเข้ามาประมาณ 9,033 ราย อย่างไรก็ดี ธนาคารคาดหวังว่าจะปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มลูกค้าผ่าน Value Chain ได้เฉลี่ยประมาณ 1,800 ล้านบาทต่อเดือน หรือสัดส่วนประมาณ 12-13% ของยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ของกลุ่มเอสเอ็มอีทั้งหมด
2.ลูกค้าเอสเอ็มอีขนาดเล็ก ที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 30 ล้านบาท ที่ธนาคารผลักดันให้ลูกค้าขนาดย่อย ยกระดับเป็นลูกค้าขนาดเล็ก โดยจะนำเรื่องของการทำธุรกรรมทางการเงิน และการชำระเงิน มาช่วยเรื่องการวิเคราะห์การปล่อยสินเชื่อ รวมถึงการใช้ Value Chain เข้ามาเชื่อมด้วย
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,325 วันที่ 24 - 27 ธันวาคม พ.ศ. 2560
