ใช้สินเชื่อรถยนต์อย่างไรให้เหมาะสม

31 ต.ค. 2560 | 23:05 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

MP23-3309-c พูดถึงสินเชื่อเช่าซื้อหลายคนคงเคยได้ใช้บริการกันบ้างแล้ว วันนี้เรามาทำความรู้จักกับสินเชื่อตัวนี้มากขึ้นในมุมดีๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่กำลังต้องการเป็นเจ้าของรถยนต์สักคัน หรือผู้ที่มีรถยนต์เป็นของตนเองอยู่แล้ว แต่กำลังมองหาแหล่งเงินทุนมาหมุนเวียน

คิดอยากซื้อและผ่อนรถยนต์สักคัน คิดถึงอะไรบ้าง

จริงๆแล้วการผ่อนรถยนต์สักคัน มีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา แต่ทั้งนี้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับผู้ซื้อรถยนต์แต่ละท่านด้วยว่าต้องการอะไร บางคนอยากผ่อนค่างวดต่อเดือนน้อย บางคนอยากวางเงินดาวน์ตํ่า บางคนอยากผ่อนระยะเวลานาน แต่โดยส่วนมาก มักจะมองอัตราดอกเบี้ยและค่างวดต่อเดือนเป็นอันดับแรกๆ

อัตราดอกเบี้ยจะแปรผันไปตามเงื่อนไขเช่าซื้อที่ลูกค้าเลือก คือจำนวนเงินดาวน์ และระยะเวลาการผ่อนชำระ เช่น ดาวน์น้อยผ่อนนาน อัตราดอกเบี้ยก็จะแพงกว่า เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อจะเป็นแบบคงที่ตลอดอายุสัญญา ผู้ขอสินเชื่อไม่มีความเสี่ยงจากการผันผวนของอัตราดอกเบี้ย

โดยส่วนมากผู้ซื้อรถยนต์จะเลือกระยะเวลาการผ่อนชำระที่ 5-6 ปี ตามอายุการใช้งานรถยนต์ขั้นตํ่าของคนทั่วๆไป

“สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นเพียงหลักการเบื้องต้นที่คนซื้อรถควรพิจารณา แต่สิ่งที่อยากให้คิดทบทวนคือ พิจารณาจำนวนค่างวดที่เหมาะสมกับความสามารถในการผ่อนชำระ และพิจารณาความจำเป็นในการใช้รถยนต์ที่แท้จริง ผู้ซื้อรถยนต์ไม่ควรเลือกซื้อรถที่เกินพอดีและเลือกผ่อนในลักษณะที่สร้างภาระเกินความจำเป็นจนทำให้ขาดความสบาย”

ข้อแนะนำที่เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุด คือให้เริ่มจากมองที่รายได้ตนเอง หากผู้ซื้อรถยนต์มีภาระหนี้อื่นๆที่ต้องผ่อนชำระอยู่แล้วก็ควรนำภาระหนี้ดังกล่าวมาหักจากรายได้ด้วย หักค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันที่จำเป็น ประมาณค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการใช้รถยนต์ และต้องไม่ลืมที่จะหักเงินออมจำนวนหนึ่งเผื่อไว้ยามฉุกเฉินและเพื่อความสบายในอนาคตของตนเองและครอบครัวด้วย

เมื่อได้จำนวนเงินที่เหลือแล้ว ค่อยนำมาคำนวณเพื่อหาวงเงินสินเชื่อที่สามารถผ่อนชำระได้ และเมื่อนำมารวมกับจำนวนเงินดาวน์ที่มี ก็จะประมาณกรอบราคารถยนต์ที่เหมาะสมกับตนเอง แล้วจึงนำไปเป็นปัจจัยสำคัญส่วนหนึ่งในการพิจารณาเลือกรถยนต์

แบนเนอร์ชั่วโมงฐานเศรษฐกิจ01-3-1 ทำอย่างไร เมื่อมีรถ...แต่ไม่มีเงินเพียงพอต่อเรื่องสำคัญที่เกิดขึ้นกรณีที่เจ้าของรถยนต์ที่เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในรถยนต์คันนั้นมีความจำเป็นที่ต้องใช้เงินกับเรื่องสำคัญที่เกิดขึ้น เช่น เหตุการณ์ฉุกเฉินที่ไม่ได้เตรียมเงินไว้เพียงพอ หรือโอกาสการลงทุนเพื่ออนาคตที่ดี เจ้าของรถยนต์ท่านนั้นมีทางเลือกที่จะสามารถนำรถยนต์พร้อมเล่มทะเบียนมาขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์จากสถาบันการเงิน ที่พบเห็นได้ทั่วไป เช่น สินเชื่อธนชาตรถแลกเงิน สินเชื่อรถช่วยได้ของธนาคารกสิกรไทย เป็นต้น ตรงนี้เป็นผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่ดีที่สุดที่สถาบันการเงินบริการให้สำหรับผู้ที่มีรถยนต์เป็นของตนเองและมีความจำเป็นต้องใช้เงินกับเรื่องสำคัญ

และหากเปรียบเทียบกับสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน หรือสินเชื่อจำนำทะเบียนรถแบบที่ไม่ต้องโอนกรรมสิทธิ์ในเล่มทะเบียน สินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์จะมีข้อดีกับเจ้าของผู้ใช้รถยนต์อีกหลายเรื่อง เช่น อัตราดอกเบี้ยที่ตํ่ากว่า วงเงินสินเชื่อที่สูง และระยะเวลาที่สามารถผ่อนได้นานกว่า

“แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ เจ้าของรถยนต์ผู้ขอสินเชื่อควรพิจารณาในลักษณะใกล้เคียงกับการซื้อรถยนต์ คือมองความจำเป็นขอวงเงินที่เพียงพอกับเรื่องสำคัญนั้นๆ และพิจารณาความสามารถในการผ่อนชำระที่เหมาะสมกับตนเอง”

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,309
วันที่ 29 ตุลาคม - 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว