‘ช้าง’ส่งน้ำแร่รุกตลาดวางเป้าเจาะคนรุ่นใหม่

15 พ.ค. 2560 | 10:00 น.
ตลาดน้ำแร่คึก "ช้าง" ส่งน้ำแร่ธรรมชาติสุดพรีเมี่ยม "ตราช้าง" รุกตลาดพร้อมชูกลยุทธ์ "ดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง" รุกสร้างแบรนด์ในใจคนรุ่นใหม่วางเป้าขึ้นแท่นท็อป 3 ใน 2 ปีนับจากนี้ ก่อนผนึกสินค้าในเครือสยายปีกรุกต่างประเทศ

นายเอ็ดมอนด์ เนียว คิม ซูน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ช้างอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในเครือไทยเบฟเวอเรจ ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มตราช้าง เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทเปิดตัวนำแร่ธรรมชาติตราช้างขนาด 460 มล. เข้าไปวางจำหน่ายในช่องทางเซเว่น-อีเลฟเว่นช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยวางโพซิชั่นนิ่งของสินค้าให้เป็นน้ำแร่ในกลุ่มพรีเมี่ยม เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว เข้าถึงง่าย และได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยแผนงานต่อไปคือการกระจายสินค้าไปยังช่องทางต่างๆให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นช่องทางโฮเรก้า โรงแรมชั่นนำ ร้านอาหาร และช่องทางโมเดิร์นเทรด ก่อนจะใช้กลยุทธ์ในการซินเนอร์ยี่กับสินค้าอื่นในเครือๆในการขยายตลาดไปยังตลาดต่างประเทศต่อไปในอนาคต

ขณะที่แผนการสร้างแบรนด์นับจากนี้จะให้ความสำคัญกับการนำกลยุทธ์ดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งเข้ามาสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักและเข้าถึงคนรุ่นใหม่ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น ก่อนจะขยายขนาดบรรจะที่หลากหลายเพื่อรองรับตลาดต่อไป อย่างไรก็ตามบริษัทวางเป้าหมายการเติบโตของน้ำแร่ธรรมชาติตราช้างด้วยการขึ้นเป็นผู้เล่นท็อป 3 ในตลาดนำแร่เมืองไทยช่วง 2 ปีนับจากนี้ ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดราว 20% (จากปัจจุบันที่ผู้นำครองส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 50% เบอร์สอง 30% และเบอร์สาม 20% ตามลำดับ )โดยปีที่ผ่านมาตลาดนำแร่เมืองไทยมีมูลค่า 3,800 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 15% ต่อปีสูงกว่าตลาดรวมน้ำดื่มทั่วไปที่มีการเติบโตที่ 8%

อนึ่งการเข้ามาของน้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง ถือเป็นการเสริมพอร์ตสินค้าในกลุ่มพรีเมี่ยมของทางเครื่องดื่มช้างให้ครบเครื่องและหลากหลายมากยิ่งขึ้น ผ่านนวัตกรรมใหม่ๆในการพัฒนาสินค้าควบคู่กับการสร้างแบรนด์ให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคในทุกกลุ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งนอกเหนือจากการวางจำหน่ายในประเทศแล้วน้ำแร่ธรรมชาติ เพื่อจะเสริมทัพในการรุกตลาดเครื่องดื่มของช้างในอนาคตตามเป้าหมายวิชั่น 2020 ของเครือไทยเบฟฯที่ต้องการเสริมพอร์ตสินค้าในกลุ่มนอนแอลกอฮอล์ในสัดส่วน 50%

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,261 วันที่ 14 - 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2560