วัสดุก่อสร้างรอแรงบวกเศรษฐกิจอานิสงส์แอกชันแพลนปี60

04 ม.ค. 2560 | 11:00 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

ในปี 2560 นี้ บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้างก็เป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่รอปัจจัยบวกจากการที่ภาครัฐเร่งเครื่องแผนปฏิบัติการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง ปี 2560 หรือแอกชันแพลน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ หลังจากปีที่ผ่านมาได้เดินเครื่องแอกชัน สามารถผลกดันออกมาได้ 13 โครงการจาก 20 โครงการ แต่กระแสการเติบโตด้านงานก่อสร้างกลับไม่แรงอย่างที่คาด เนื่องจากยังเป็นเพียงช่วงเริ่มต้นโครงการ จึงต้องรอดูผลในปี 2560 ที่จะเริ่มเดินหน้าก่อสร้างอย่างจริงจัง

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ไทยพาณิชย์ รายงานว่าอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างปี 2560 มีแนวโน้มได้รับผลดี จากกิจกรรมก่อสร้างที่คาดว่าจะขยายตัวค่อนข้างมาก ทั้งจากการก่อสร้างภาครัฐและภาคเอกชน โดยคาดว่ามูลค่าการลงทุนก่อสร้างภาครัฐจะขยายตัวได้ราว 3% จากปีก่อนหน้า ซึ่งมีแรงสนับสนุนจากโครงการการก่อสร้างถนน รถไฟฟ้า รถไฟทางคู่ และมอเตอร์เวย์ ส่วนการลงทุนก่อสร้างภาคเอกชน นั้นยังคงรอสัญญาณการฟื้นตัวจากปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ คาดว่า ทิศทางการขยายตัวของการก่อสร้างภาคเอกชนนั้นขึ้นอยู่กับ ความชัดเจนของการลงทุนภาครัฐ หากการก่อสร้างของภาครัฐ มีความต่อเนื่อง และเป็นไปตามแผนจะทำ ให้ภาคเอกชนมีการ ลงทุนตาม ซึ่งจะส่งผลทางบวกต่อทุกอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง กับวัสดุก่อสร้าง ทั้งอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ อุตสาหกรรมเหล็ก และอุตสาหกรรมกระเบื้องปูพื้นปูผนังเซรามิก

นายอาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์คอนครีตชลบุรี จำกัด(มหาชน) เปิดเผยถึงแผนธุรกิจในปี 2560 ว่ายังชูสินค้าใหม่พรีคาสต์ คอนกรีตหล่อสำเร็จสำหรับงานแลนด์สเคป ส่วนภาพรวมนั้นสินค้าในกลุ่มซีซีพียังต้องขยายการลงทุนต่อเนื่อง โดยกลุ่มพรีคาสจะต้องขยายไลน์การผลิตเพิ่ม เช่นเดียวกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ระบายน้ำ ประเภทแลนด์สเคปแมเนจเมนต์ ที่จะต้องขยายเนื่องจากมีออร์เดอร์ป้อนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ประกอบกับในส่วนอุตสาหกรรมก่อสร้างยังเห็นว่าผู้รับเหมาจะได้ประโยชน์มากกว่าผู้ค้าวัสดุที่มีอำนาจต่อรองน้อยกว่าผู้รับเหมา ส่วนออร์เดอร์เอกชนยังมีน้อยราคาจึงไม่ได้ราคาสูงตามที่คาดหวังไว้ ล่าสุดซีซีพีได้ปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจแตกไลน์ไปผลิตสินค้าที่มีคู่แข่งน้อยรายมากขึ้น อีกทั้งอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรในไลน์ที่เกี่ยวข้องเพื่อเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจให้มากกว่าปัจจุบันนี้ แต่ยังเน้นการรับงานของราชการเป็นหลัก

“มั่นใจว่าปีหน้าอัตราการจ้างงานเพิ่มเนื่องจากปริมาณงานและความต้องการแรงงานมีมากขึ้น แต่เศรษฐกิจจะดีตูมตามหรือไม่นั้นต้องดูว่าภาคเกษตรกรรมที่เป็นแกนหลักเศรษฐกิจของประเทศได้รับอานิสงส์มากน้อยเพียงใด เพราะยังมองว่าเมกะโปรเจ็กต์ที่รัฐบาลเร่งผลักดันจะช่วยเข้าไปเสริมเท่านั้นเนื่องจากแกนเศรษฐกิจหลักของประเทศยังเป็นเกษตรกรรม”

สำหรับภาพรวมทางธุรกิจของปี 2559 ว่ายังดูทรงตัวไม่หวือหวา แม้ว่ารัฐบาลจะพยายามเร่งผลักดันโครงการระดับเมกะโปรเจ็กต์ออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่กลับไม่เห็นภาพของการกระตุ้นภาพรวมทางเศรษฐกิจเป็นไปตามที่คาดหวัง ประการหนึ่งจะพบว่าโครงการที่รัฐบาลอนุมัติให้ดำเนินการยังมีการเบิกจ่ายค่อนข้างล่าช้าไม่เป็นไปตามแผน เช่นเดียวกับโครงการที่เพิ่งอนุมัติเปิดประกวดราคายังคงต้องใช้ระยะเวลาในการเบิกจ่ายในงวดแรกอีกสักระยะหนึ่ง

“ราคาวัสดุปี 2559 ค่อนข้างไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ส่งผลให้ยอดขายยังใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา รายได้ทั้งปียังอยู่ในระดับราวๆ 2,500 ล้านบาท แต่ไม่ได้ราคาตามคาดหวัง นอกจากนั้นยังมีการเพิ่มต้นทุนจากซัพพลายเออร์ประเภทอิฐ หิน ปูน ทรายที่ป้อนเป็นวัตถุดิบให้กับซีซีพีที่จะแบกค่าใช้จ่ายด้านน้ำหนักบรรทุกตามที่รัฐบาลได้เข้มงวดมากขึ้นเพราะซัพพลายเออร์ขอปรับราคาเพิ่มขึ้น”

นอกจากนั้นยังพบว่าสินค้าที่เกี่ยวกับโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง(มอเตอร์เวย์)ยังขายดีโดยเฉพาะวัสดุก่อสร้างประเภทหล่อสำเร็จรูป แต่ตลาดการแข่งขันยังสูง จึงมีการตัดราคาค่อนข้างรุนแรงส่งผลให้ราคาต่ำกว่า ประการสำคัญซีซีพีถือว่าสภาพคล่องยังดีจึงสามารถจ่ายเงินปันผลทางธุรกิจได้ในปีนี้แต่ยังต้องพิจารณาอย่างรอบคอบต่อแนวโน้มด้านการตลาดของนักลงทุนเอาไว้ด้วยทั้งนี้ได้เตรียมแผนสำรองเอาไว้แล้ว พร้อมกับได้ลงทุนไปอีกราว 200 ล้านบาทในกลุ่มรถให้บริการเรดดี้มิกซ์คอนกรีต และแท่นผลิต

นายขจรศักดิ์ มโนทรัพย์ศักดิ์ ผู้จัดการทั่วไป อินทรีมอร์ตาร์ บมจ.ปูนซีเมนต์นครหลวง กล่าวว่า ผลประกอบการปี 2559 จากเป้าทั้งปีที่ตั้งไว้ 780 ล้านบาทยังทำได้ตามเป้า สำหรับปี 2560 ทางอินทรี มอร์ตาร์ ได้เตรียมแผนธุรกิจที่จะให้บริการครบวงจรทั้งผลิตภัณฑ์มอร์ตาร์และบริการช่างปูนก่อ-ฉาบ (Solution Sales) ซึ่งช่วยประหยัดเวลา ต้นทุนและแรงงานของผู้รับเหมา คาดว่าจากแผนที่วางไว้จะทำให้กลุ่มผลิตภัณฑ์อินทรี มอร์ตาร์ เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 10-15%

ด้านนายชาวี ชลิตวงศ์พัฒนา กรรมการผู้จัดบริษัท แม็กซ์เครน แมชชีนเนอรี่ จำกัด กล่าวว่า ปีนี้มีปริมาณงานในมือ(แบล็คล็อค)แล้วราว 430 ล้านบาท คาดว่าแตะสิ้นปียอดขายโตถึง 500 ล้านบาท ส่วนปีหน้าแตะ 800 ล้านบาทโดยตั้งเป้ารายได้ไว้ในปีหน้า 1,000 ล้านบาท ปัจจุบันมีจำนวน 4 สาขา คือ กรุงเทพ(บางนา) ขอนแก่น พิษณุโลกและสุราษฎร์ธานีสร้าง โดยล่าสุดเตรียมงบลงทุนราว 200 ล้านบาทปรับโฉมสาขาบางนาให้เป็นศูนย์ให้บริการครบวงจรมากขึ้น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,223 วันที่ 1 - 4 มกราคม 2560