แนวโน้มราคาทองคำวันพรุ่งนี้(5 ต.ค.59)
สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง วันที่ 4 ตุลาคม 2559
สภาวะตลาดวันที่ 4 ตุลาคม 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,306.48-1,313.04 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 21,550 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,600 บาทต่อบาททองคำ
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.11 น.ของวันที่ 04/09/16)
แนวโน้มวันที่ 5 ตุลาคม 2559
บรรยากาศการซื้อขายและราคาเคลื่อนไหวในกรอบไม่กว้างนัก เมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมา หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐได้เพิ่มโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนสิ้นปี 2559 โดย CME Fed Watch ระบุว่า ขณะนี้เทรดเดอร์กำลังปรับตัวรับโอกาส 62% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม และโอกาส 11% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนพฤศจิกายน โดยได้รับแรงหนุนจากข้อมูลภาคการผลิตของสหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาดได้หนุนดอลลาร์และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐดีดตัวขึ้น จนกดดันราคาทองคำให้อ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ค เป็นผู้มีสิทธิออกเสียงถาวรใน FOMC และเป็นคนใกล้ชิดของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ยังแสดงความเห็นแบบเป็นกลาง โดยกล่าวว่าในการบริหารความเสี่ยงสำหรับนโยบายการเงินนั้น ยิ่งผู้กำหนดนโยบายมีความกังวลมากเพียงใดต่อประสิทธิภาพของนโยบายเมื่ออัตราดอกเบี้ยอยู่ใกล้ 0% ผู้กำหนดนโยบายก็จะยิ่งใช้ความระมัดระวังมากเพียงนั้นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้นักลงทุนจับตาทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐและความเห็นของประธานเฟดสาขาต่างๆ เพิ่มมากขึ้นเพื่อใช้เป็นสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดย ADP Employer Services จะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือนกันยายน และ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อของโรงงานเดือนสิงหาคมในวันคืนพุธนี้ เบื้องต้นหากมีการเคลื่อนตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,319 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ยังไม่สามารถทะลุไปได้ ต้องระมัดระวังแรงกดดันซึ่งจะส่งผลให้เกิดการอ่อนตัวของราคาทองคำได้อีก สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในช่วงเวลานี้ต้องเน้นไปที่การทำกำไรระยะสั้น ในขณะที่หากต้องการเข้าซื้อทองคำให้รอจังหวะการอ่อนตัวลงมาบริเวณ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,319 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่ากลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง แต่หากยืนไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายที่ออกมาอาจทำให้ราคาย่อตัวลงสู่แนวรับถัดไป สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคง ถือเป็นจุดซื้อทำกำไรระยะสั้นอีกครั้ง แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,293-1,285 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,300 (21,320บาท) 1,293 (21,210บาท) 1,285 (21,080บาท)
แนวต้าน 1,319 (21,640บาท) 1,328 (21,790บาท) 1,339 (21,970บาท)
ที่มา:บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
กราฟราคาทองคำ
สภาวะตลาดวันที่ 4 ตุลาคม 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,306.48-1,313.04 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 21,550 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,600 บาทต่อบาททองคำ
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.11 น.ของวันที่ 04/09/16)
แนวโน้มวันที่ 5 ตุลาคม 2559
บรรยากาศการซื้อขายและราคาเคลื่อนไหวในกรอบไม่กว้างนัก เมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมา หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐได้เพิ่มโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนสิ้นปี 2559 โดย CME Fed Watch ระบุว่า ขณะนี้เทรดเดอร์กำลังปรับตัวรับโอกาส 62% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม และโอกาส 11% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนพฤศจิกายน โดยได้รับแรงหนุนจากข้อมูลภาคการผลิตของสหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาดได้หนุนดอลลาร์และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐดีดตัวขึ้น จนกดดันราคาทองคำให้อ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ค เป็นผู้มีสิทธิออกเสียงถาวรใน FOMC และเป็นคนใกล้ชิดของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ยังแสดงความเห็นแบบเป็นกลาง โดยกล่าวว่าในการบริหารความเสี่ยงสำหรับนโยบายการเงินนั้น ยิ่งผู้กำหนดนโยบายมีความกังวลมากเพียงใดต่อประสิทธิภาพของนโยบายเมื่ออัตราดอกเบี้ยอยู่ใกล้ 0% ผู้กำหนดนโยบายก็จะยิ่งใช้ความระมัดระวังมากเพียงนั้นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้นักลงทุนจับตาทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐและความเห็นของประธานเฟดสาขาต่างๆ เพิ่มมากขึ้นเพื่อใช้เป็นสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดย ADP Employer Services จะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือนกันยายน และ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อของโรงงานเดือนสิงหาคมในวันคืนพุธนี้ เบื้องต้นหากมีการเคลื่อนตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,319 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ยังไม่สามารถทะลุไปได้ ต้องระมัดระวังแรงกดดันซึ่งจะส่งผลให้เกิดการอ่อนตัวของราคาทองคำได้อีก สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในช่วงเวลานี้ต้องเน้นไปที่การทำกำไรระยะสั้น ในขณะที่หากต้องการเข้าซื้อทองคำให้รอจังหวะการอ่อนตัวลงมาบริเวณ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,319 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่ากลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง แต่หากยืนไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายที่ออกมาอาจทำให้ราคาย่อตัวลงสู่แนวรับถัดไป สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคง ถือเป็นจุดซื้อทำกำไรระยะสั้นอีกครั้ง แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,293-1,285 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,300 (21,320บาท) 1,293 (21,210บาท) 1,285 (21,080บาท)
แนวต้าน 1,319 (21,640บาท) 1,328 (21,790บาท) 1,339 (21,970บาท)
ที่มา:บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
กราฟราคาทองคำ
